xs
xsm
sm
md
lg

“จำลอง” ซัด “มาร์ค” ลุแก่อำนาจ ใช้ กม.กักสิทธิฯ ผู้ชุมนุมเกินเหตุ โต้ รบ.แค่ลูกจ้างชั่วคราว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พันธมิตรฯ ซัด “มาร์ค” ลุแก่อำนาจ ใช้ กม.ความมั่นคง กักสิทธิฯผู้ชุมนุมเกินเหตุ ทั้งที่ ปชช.ใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตาม รธน.หนุนทวิภาคีเบรกฝรั่งเศสมาจุ้น ยกกฎบัตรยูเอ็นยัน ย้อนนายกฯความจำสั้น มาตรฐานเดียวกับยุค “สมัคร” คิดจะสลาย พธม.“พล.ต.จำลอง” ย้ำอีกไม่เคลื่อนขบวนไปสภา พรุ่งนี้ ใครป่วนไม่ใช่พันธมิตรฯ โต้ “เทือก” ไม่ได้อยู่เหนือ กม.ซัด รบ.แค่ลูกจ้างชั่วคราว ปชช.ด้าน “ประพันธ์” โชว์รูปคนไทยเที่ยวพระวิหาร ก่อนมี MOU43 แต่วันนี้ทหารเขมรเข้าไปยึดแล้ว

วันนี้ (10 ก.พ.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพันธมิตรฯ และ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ร่วมแถลงข่าว โดย นายปานเทพ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลโดยศูนย์อำนายการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ประกาศพื้นที่ควบคุมห้ามเข้าออก ว่า พันธมิตรฯยังไม่ได้ทำสิ่งใดผิดกฎหมายที่สุ่มเสี่ยงกระทบต่อความมั่นคงของชาติแต่อย่างใด โดยได้มีแถลงการณ์ชัดเจนว่า การชุมนุมมีเพื่อการมั่นคงของรัฐ ที่กำลังถูกคุกคามจากต่างชาติเป็นหลัก จึงถือรัฐบาลกำลังลุแก่อำนาจ เหิมเกริมโดยใช้อำนาจในทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะว่าแนวทางของพันธมิตรฯ ชัดเจนว่า ชุมนุมสงบปราศจากอาวุธ เดินแนวทางนี้มาตลอดไม่ผิดเพื้ยน โดยเคร่งครัดมีวินัยสูงมาตลอด การที่มีการข่มขู่โดยการใช้กฎหมายเกินกว่าเหตุ เป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ไม่เคารพสิทธิของประชาชนในการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชุมนุมมีเหตุมาจากที่รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้ทหารกัมพูชามาตั้งฐานทัพทำร้ายราษฎรไทยได้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลต่องแก้ไขที่ต้นเหตุ โดยขอพื้นที่คืนจากทางกัมพูชา

ในส่วนกรณีที่รัฐบาล ประกาศว่า ไทยจะดำเนินแนวทางเจรจากับกัมพูชาในลักษณะทวิภาคีเท่านั้น นายปานเทพ กล่าวว่า ในเวลานี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประกาศชัดเจนว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวในกรณีนี้ เพราะเป็นความขัดแย้งของ 2 ชาติ ดังนั้น การที่ฝรั่งเศสซึ่งมีบริษัทน้ำมันที่รับสัมปทานในบริเวณอ่าวไทยฝั่งกัมพูชา ถือเป็นผู้มีประโยชน์ทับซ้อนโดยตรง ทั้งยังเป็นประเทศที่ร่างแผนที่ผิดพลาด ทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง ฝรั่งเศสจึงไม่ควรมายุ่งเกี่ยวแต่ประการใด และไทยถือเป็นประเทศที่มีเอกราช ไม่ว่าใครจะมายุ่งเกี่ยวได้ เพราะเรามีสิทธิในการปกป้องอธิปไตยของชาติด้วยตัวเราเอง โดยเฉพาะฝรั่งเศสที่เป็นสมาชิกในสหประชาชาติเช่นกัน ต้องเคารพกฎบัตรสหประชาชาติมาตรา 2 วรรค 7 ที่ระบุว่า ไม่มีอำนาจใดๆ ที่ทำให้สหประชาชาติในการเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในรัฐต่างประเทศ ดังนั้น จึงไม่เกี่ยวว่ามี MOU 2543 หรือไม่ โดยรัฐบาลต้องแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลไทยเดินมาถูกทางแล้ว เหลือเพียงแต่ว่ามีความสามารถทางการทูตมากแค่ไหน

โฆษกพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีบางคนในพันธมิตรฯต้องการความรุนแรง ว่า ขอย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องความรุนแรงหรือไม่ แต่รัฐบาลต้องตอบให้ได้ว่า จะทำอย่างไรกับกองกำลังติดอาวุธของกัมพูชาที่ทำร้ายคนไทย ทั้งบริเวณเขาพระวิหาร และภูมะเขือ ที่ตั้งอยู่ในแผ่นดินไทย หากไม่ใช่แนวทางการทหาร หรือการทูต ก็ต้องชี้แจงออกมาให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ และมีหลักประกันว่า จะไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ ขึ้นอีก มีเพียงแนวคิดที่จะผลักดันเราออกจากพื้นที่ อยากถาม นายอภิสิทธิ์ ว่า เมื่อครั้งการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 ในพื้นที่เดียวกันนี้ แต่ นายอภิสิทธิ์ เป็นคนที่ต่อต้านแนวทางการสลายการชุมนุมของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ว่า ต้องฟังประชาชน แต่วันนี้กลับมาทำเสียเอง

นายปานเทพ กล่าวอีกว่า อยากตั้งคำถามว่าเหตุใดป่านนี้แล้วถึงยังไม่มีการตัดการส่งออกพลังงานให้แก่กัมพูชา โดยเฉพาะน้ำมันที่เป็นปัจจัยสำคัญทางยุทโธปกรณ์ รัฐบาลก็ยังไม่ทำปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ รวมทั้งถนนที่เป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์มาทำร้ายคนไทย โดย นายกฯอภิสิทธิ์ ก็ภาคภูมิใจว่าได้ประท้วงไปแล้ว แต่กลับไม่มีความพยายามในการทำลาย ทั้งที่เป็นความชอบธรรมในการปกป้องราษฎรไทย เพียงแต่ห่วงสถานการณ์ว่าความสัมพันธ์จะไม่ดี 30 ปีที่แล้ว กัมพูชาต้องอพยพหนีภัยสงครามมาในประเทศไทย เวลาผ่านมาคนไทยต้องตั้งค่ายอพยพในแผ่นดินตัวเอง แสดงว่า การบริหารประเทศต่างกันมาก เป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย

โฆษกพันธมิตรฯยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีเครื่องบิน เอฟ 16 ของไทยบินบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ต้องระมัดระวังเพราะการบินในลักษณะนี้มองได้ 2 มุม มุมหนึ่งเป็นการสำแดงแสนยานุภาพให้กัมพูชาหวาดกลัว แต่อีกมุมต้องระวัง เพราะหากใจไม่ถึงพอที่จะจัดการกับปัญหา จะกลายเป็นการยั่วยุ ทำให้สถานการณ์ไม่จบ เมื่อไม่มีการทำอะไรต่อ ซึ่งจะเป็นอันตรายยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นแล้วต้องไตร่ตรองให้ดีสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่เวลาสำแดงแสนยานุภาพแล้ว เพราะมีการปะทะกันก่อนหน้านี้

ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า การที่รัฐบาลพยายามขัดขวางการชุมนุมของพันธมิตรฯ ทั้งที่เราชุมนุมโดยความสงบ มีการห้ามนำอาวุธ และของมึนเมาเข้าพื้นที่ชุมนุมอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ไม่ว่านำกฎหมายใดมาใช้ เราไม่ไปจากที่นี่แน่นอน ในส่วนการเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ยังไม่มีการแจ้งกันว่า หากมีการดำเนินมาตรการให้ทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรเข้ามา เพราะยังไม่พบกันเลย

เมื่อถามต่อการเคลื่อนมวลชนไปสักการะพระบรมนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) เกรงว่า จะมีมาตรการตลบหลังจากทางเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ที่บริเวณจะมีการทำพิธีราวชั่วโมงกว่าๆ แต่ไม่กังวลว่าจะถือโอกาสสลายผู้ชุมนุม เพราะจริงๆ แล้วเขาเข้ามาสลายเราเมื่อไรก็ได้ แต่ถ้ามาไล่เราก็ยืนยันว่าจะมาอีก และการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ระบุว่า พันธมิตรฯไม่ได้อยู่เหนือกฎหมายนั้น ตนต้องบอกว่า นายสุเทพ ก็ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมายเช่นกัน ทั้งยังเป็นลูกจ้างชั่วคราวของเราอีกด้วย ที่เมื่อเราไล่แล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะออกไปเลย

“ยืนยันด้วยว่า จะไม่เคลื่อนไปที่หน้ารัฐสภา พันธมิตรฯเป็นการชุมนุมที่มีคุณภาพ หากมีผู้ใดไปถือว่าไม่ใช่พันธมิตรฯ อาจจะเป็นมือที่ 3 ที่ 4 ซึ่งตำรวจสามารถเล่นงานได้เลย ซึ่งได้แจ้งทางตำรวจไปแล้วว่าหากจะไปแล้วจะบอก ให้เวลาเตรียมตัวซัก 2 ชั่วโมง” พล.ต.จำลอง กล่าว

ด้าน นายประพันธ์ ได้นำภาพของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เคยไปยังปราสาทพระวิหารมาแสดง พร้อมกล่าวว่า ก่อนที่จะมี MOU 2543 บนปราสาทเขาพระวิหารไม่มีทหารแม้แต่คนเดียว และคนไทยสามารถขึ้นไปได้อย่างสะดวกสบาย โดยกัมพูชาเคยส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นมา แต่ทหารไทยก็ยิงตก และยังมีซากอยู่ในบริเวณปราสาท ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายภาพ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ทำให้ทหารกัมพูชาสามารถยึดครองพื้นที่ได้ทั้ง 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหาร จนต้องสร้างค่ายอพยพให้คนไทยไปอยู่กว่า 2 หมื่นคน

ทั้งนี้ นายประพันธ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ในการปราศรัยคืนนี้จะมีการเปิดเผยหนี้สิน และการทำธุรกิจของครอบครัว นายศิริโชค โสภา คนสนิทของนายกฯอภิสิทธิ์ ซึ่งอาจมีการใช้อำนาจรัฐในทางที่ไม่ถูกต้อง เพราะขณะนี้ศาลพิพากษาให้คนในครอบครัวล้มละลาย และถูกพิทักษ์ทรัพย์
กำลังโหลดความคิดเห็น