“เจ๊วา” อ้างโลกร้อน น้ำท่วม ทำผลผลิตลด สินค้าแพง คาด มี.ค.ราคาปกติ

“เพื่อไทย” ตั้งกระทู้ถาม สินค้าแพง อ้างขึ้นเงินเดือน ขรก.เป็นเหตุ รมว.พาณิชย์ ยันมี พ.ร.บ.ควบคุม แต่มีน้ำตาลอย่างเดียวที่เข้าข่าย อ้างภัยแล้ง โลกร้อน น้ำท่วม ทำผลผลิตลด ยันตรึงราคามาตั้งแต่ปี 51 ยันมีทีมตรวจสอบราคา ชูห้างช่วยกระจายสินค้า นัดถกผู้ประกอบการวันนี้ ย้ำหาช่องทางช่วยชาวบ้าน รับปัญหาพ่อค้าคนกลางทำชาวนาจน คาด มี.ค.ราคาสู่ภาวะปกติ

วันนี้ (10 ก.พ.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดเรื่อง ความล้มเหลวในการไม่กำกับราคาสินค้าควบคุมที่มีผลกระทบต่อค่าครองชีพของ ประชาชนอย่างรุนแรง ถามนายกรัฐมนตรี ว่า ปัจจุบัน สินค้าบริโภคต่างๆ มีราคาสูงขึ้น อาทิ น้ำมันปาล์ม กะปิ กะทิ จะมีนโยบายจัดการราคาสินค้าควบคุมที่มีผลกระทบกับค่าครองชีพของประชาชนให้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างไร ทำไมกระทรวงพาณิชย์ไม่เอาสินค้าไปให้สหกรณ์ชุมชนโดยตรงเลย ว่า แต่ละที่มีโควตาสามารถไปรับได้ที่ละเท่าไหร่ โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มว่ามีการเอื้อประโยชน์ มีเงินตกไปใส่กระเป๋าใครบ้าง จะได้รู้กันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเยียวยาให้ราคาสินค้าถูกลงเพื่อส่งตรงถึงประชาชนรากหญ้าอย่างไร

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีการกำหนดราคาสินค้าควบคุม มี พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าควบคุม แต่สินค้าควบคุมเป็นการกำหนดเนื้อที่ เช่น การแจ้งปริมาณสถานที่เก็บ การแจ้งการขนย้าย การควบคุมราคามีเพียงน้ำตาลรายการเดียวเท่านั้น ทางกระทรวงได้มีการขอความร่วมมือในการแจ้งเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า เพื่อเราบริหารจัดการในการจำหน่าย ที่มีการพูดถึงราคาน้ำมันปาล์ม พูดตรงๆ สินค้าเกษตรเกิดจากภาวะโลกร้อน ภาวะแห้งแล้ง น้ำท่วม รวมทั้งศัตรูพืช ผลผลิตลดลงทุกประเภทจากการที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งก็จะกระทบราคาแน่นอน แม้เกษตรกรจะได้ราคาสูงขึ้น แต่ผู้บริโภคก็จะซื้อสินค้าที่แพงขึ้น ทั้งนี้ เราตรึงราคาไว้นานมากตั้งแต่ปี 51 เราพยายามทำเต็มที่ นายกฯ กำชับพิเศษไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่ถ้าอะไรที่เราไปบิดเบือนตลาดมากก็จะเกิดปัญหา ต้องเข้าใจว่า วันนี้มีทั้งค้าปลีก ค้าส่งขนาดใหญ่ ซึ่งกระทรวงขอความร่วมมือได้ดี แต่ในส่วนของยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ตามตลาดสด ขายปลีกคนขายก็ต้องมีกำไร จะไปขายตามราคาห้างที่ขายส่งไม่ได้ การบวกกำไรไปบ้างก็เป็นเรื่องทางการค้า แต่กระทรวงพาณิชย์ก็มีหน่วยตรวจสอบราคาอยู่แล้ว เช่น การขายเกินราคา ซึ่งมีการจับปรับ เราพยายามทำให้มันสมดุลที่สุด เมื่อต้นทางมีราคาสูง ปลายทางก็ต้องสูงเช่นกัน เราพยายามทำให้สมดุลไม่ให้มีใครเสียเปรียบใคร

นางพรทิวา กล่าวว่า ที่แนะนำว่าให้นำสินค้ากระจายไปสู่สหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ นั้น เราก็คิด แต่มองว่าการบริหารจัดการห้างค้าปลีกก็เป็นตัวช่วยเราอยู่แล้ว เพราะมีแทบทุกพื้นที่ ส่วนในเรื่องของสหกรณ์ก็ต้องเข้าใจว่า เชิงการค้ามีเรื่องของระบบบัญชีที่ต้องชำระ แต่ก็เป็นแนวทางที่ดี เช่น วัตถุดิบที่อาจให้สหกรณ์รวบรวมแล้วซื้อรวมกัน อย่างอาหารสัตว์ อาจจะมีการแบ่งช่องทางมาทางนี้บ้างก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ (10 ก.พ.) ช่วงบ่ายจะมีการหารือกับผู้ประกอบการ เพื่อคิดหาแนวทางช่วยเหลือรายย่อยด้วย

ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กระทู้ถามสดเรื่อง สินค้าอุปโภคและบริโภคราคาแพง รายได้ของประชาชนไม่พอรายจ่าย ว่า ตนได้วิเคราะห์ว่าเหตุใดราคาสินค้าถึงได้สูงขึ้น ประชาชนมีรายได้ไม่พอรายจ่าย โดยเฉพาะชาวนา และเกษตรกร สิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งกว่าภาวะสงคราม โดยเฉพาะราคาน้ำมันในตลาด อยากถามว่าจะรับผิดชอบอย่างไรจากการขึ้นเงินเดือนข้าราชการที่มีผลทำให้ราคา สินค้าแพงขึ้นด้วย ส่วนเรื่องข้าวก็แพงขึ้น จึงอยากถามว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เวลาไปซื้อข้าวกลับมีราคาสูงขึ้น แต่ชาวนาก็ยังขายได้ถูก ทำให้ยากจนเหมือนเดิม

นางพรทิวา กล่าวว่า เรื่องการขึ้นเงินเดือนรัฐบาลอยากดูแลประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ได้รับความเป็นธรรมทั้งในระบบและนอกระบบให้ยืนอยู่ได้ มีรายได้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต ซึ่งการขึ้นเงินเดือนก็ไม่ได้ขึ้นมาหลายปีมาก การขึ้นก็ถึงเวลาแล้ว เพราะเศรษฐกิจโลกก็มีการพัฒนา ซึ่งทำให้สินค้าปรับตัวขึ้น ซึ่งสินค้าก็ปรับตัวตามราคาน้ำมันโลก ซึ่งถือเป็นต้นทุนตามภาวะเศรษฐกิจโลก ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งนี้ เราก็พยายามหาหลายๆ ช่องทางที่พยายามช่วยประชาชน ทั้งโครงการธงฟ้า และอื่นๆ อีก เราพยายามหาโครงการต่างๆ มาช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว

นางพรทิวา กล่าวว่า ราคาสินค้าทุกประเภทนั้น รบ.มีนโยบายโครงการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรด้วย เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม โดยรัฐบาลจ่ายส่วนต่างให้ การที่ราคาข้าวแพงขึ้นก็ต้องยอมรับว่าข้าวเป็นสินค้าส่งออก แต่เราก็มีปัญหาเรื่องพ่อค้าคนกลาง ทางรัฐบาลเราก็ได้ไปดูแลว่า ทำอย่างไรไม่ให้ชาวนาถูกกดรายได้ เราทำทุกทางในการควบคุม แต่เมื่อปริมาณมันขาดก็ย่อมส่งผลกระทบบ้าง เป็นหลักที่ว่าเมื่อของมีน้อยก็ต้องราคาแพงอยู่แล้ว ทั้งนี้ ในเดือน มี.ค.ก็จะมีผลผลิตออกมา ซึ่งก็คาดว่าราคาจะกลับเข้าสู่ปกติได้