ASTVผู้จัดการรายวัน - กคช.เปิดแผน 5 ปี 54-58 พัฒนาบ้าน 4.3 หมื่นหน่วย วงเงินลงทุน 6.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเคหะชุมชน ราคา 5 แสนบาท/ยูนิต 25,000 หน่วย รัฐอุตหนุนค่าสาธารณูปโภค 3,000 ล้านบาท, บ้านสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางราคา 9 แสน - 6.7 ล้านบาท 18,000 หน่วย โครงการบ้านเช่าอีก 2,000 หน่วย เล็งขออนุมัติ ครม.ในมี.ค.นี้
นายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า กคช. เตรียมเสนอแผนการดำเนินงานระยะเวลา 5 ปี นับจากปี 2554-2558 ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ แผนดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 43,000 หน่วย มูลค่าการลงทุน 65,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเคหะชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อย จำนวน 25,000 หน่วย ราคาขายประมาณ 500,000 บาท ทั้งนี้เคหะชุมชนเป็นบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยซึ่งรัฐบาลจะอุตหนุนค่าสาธารณูปโภค 120,000 บาท/หน่วย รวมเป็นเงินที่รัฐบาลจะต้องอุตหนุนทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท
โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไป ประมาณ 18,000 หน่วย ราคาขายตั้งแต่ 900,000 บาท - 6.7 ล้านบาท โครงการดังกล่าวจะเป็นโครงการที่สร้างรายได้ให้แก่กคช. ในปีนี้จะเปิด 15 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และโครงการบ้านสวัสดิการสำหรับข้าราชการและอาคารเช่าสำหรับประชาชนทั่วไป ประมาณ 6,000 ล้านบาท อัตราค่าเช่าประมาณ 1,500-2,000 บาท/เดือน
นายสุชาติกล่าวต่อว่า สำหรับเม็ดเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวจำนวน 65,000 ล้านบาท จะเป็นวงเงินกู้ 80% ซึ่งกคช.จะเปิดให้สถาบันการเงินมาเสนออัตราดอกเบี้ยใครเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก็จะได้รับการคัดเลือก น ส่วนอีก 15% จะเป็นเงินชดเชยจากภาครัฐที่จะดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ 3,000 ล้านบาท และที่เหลืออีก 5% จะเป็นทุนหมุนเวียนของกคช.
“ล่าสุดกคช.ได้ของเงินกู้จากธนาคารออมสินวงเงิน 750 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% กว่าๆ”
นอกจากนี้ กคช. ยังมีหน้าที่พัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทรเพื่อให้เสร็จสิ้นตามกำหนด จำนวน 281,556 หน่วนย ปัจจุบันเหลือพัฒนาอีกประมาณ 40,000 หน่วย คิดเป็นวงเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ก่อสร้างไปบางส่วนแล้ว กำหนดก่อสร้างแล้วและส่งมอบเสร็จภายในปี 2556
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรก (ตุลาคม-ธันวาคม 53) ของปีงบประมาณ 2554 นั้น กคช.มีรายได้ 5,000 ล้านบาทกำไร 200 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะมีรายได้รวม 20,000 ล้านบาท และกำไรประมาณ 700- 800 ล้านบาท และปัจจุบันมีหนี้จากการพัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทรเหลืออยู่ประมาณ 58,000 ล้านบาท กำหนดชำระหนี้ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2560 โดยปีนี้กำหนดต้องชำระหนี้ 10,000 ล้านบาท แต่ปีนี้กคช.จะสามารถชำระหนี้ได้เกินกว่าที่กำหนดจำนวน 7,500 ล้านบาท รวมเป็น 17,500 ล้านบาท
ส่วนแผนงานด้านการขาย ในวันที 25 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2554 เปิดขายโครงการบ้านเอื้ออาทรในงาน คิดถึงบ้าน- คิดถึงการเคหะฯ ครั้งที่ 2 ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ และศูนย์ขาย 5 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ขายพุทธมณฑลสาย 4 (นครชุ่มชื่น) ศูนย์ขายรังสิต(เสมาฟ้าคราม) ศูนย์ขายนนทบุรี ศูนย์ขายบางบัวทอง และศูนย์ขายบางขุนเทียน
วันที่ 10-13 มีนาคม 2554 เปิดจองที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไป จำนวน 15 โครงการ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 24 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และ วันที่ 10- 16 มีนาคม 2554 เปิดจองที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไป จำนวน 15โครงการ ณ เดอะมอลล์ บางกะปิ
นายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า กคช. เตรียมเสนอแผนการดำเนินงานระยะเวลา 5 ปี นับจากปี 2554-2558 ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ แผนดังกล่าวจะดำเนินการก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 43,000 หน่วย มูลค่าการลงทุน 65,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเคหะชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อย จำนวน 25,000 หน่วย ราคาขายประมาณ 500,000 บาท ทั้งนี้เคหะชุมชนเป็นบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยซึ่งรัฐบาลจะอุตหนุนค่าสาธารณูปโภค 120,000 บาท/หน่วย รวมเป็นเงินที่รัฐบาลจะต้องอุตหนุนทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท
โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไป ประมาณ 18,000 หน่วย ราคาขายตั้งแต่ 900,000 บาท - 6.7 ล้านบาท โครงการดังกล่าวจะเป็นโครงการที่สร้างรายได้ให้แก่กคช. ในปีนี้จะเปิด 15 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และโครงการบ้านสวัสดิการสำหรับข้าราชการและอาคารเช่าสำหรับประชาชนทั่วไป ประมาณ 6,000 ล้านบาท อัตราค่าเช่าประมาณ 1,500-2,000 บาท/เดือน
นายสุชาติกล่าวต่อว่า สำหรับเม็ดเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวจำนวน 65,000 ล้านบาท จะเป็นวงเงินกู้ 80% ซึ่งกคช.จะเปิดให้สถาบันการเงินมาเสนออัตราดอกเบี้ยใครเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำสุดก็จะได้รับการคัดเลือก น ส่วนอีก 15% จะเป็นเงินชดเชยจากภาครัฐที่จะดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ 3,000 ล้านบาท และที่เหลืออีก 5% จะเป็นทุนหมุนเวียนของกคช.
“ล่าสุดกคช.ได้ของเงินกู้จากธนาคารออมสินวงเงิน 750 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% กว่าๆ”
นอกจากนี้ กคช. ยังมีหน้าที่พัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทรเพื่อให้เสร็จสิ้นตามกำหนด จำนวน 281,556 หน่วนย ปัจจุบันเหลือพัฒนาอีกประมาณ 40,000 หน่วย คิดเป็นวงเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ก่อสร้างไปบางส่วนแล้ว กำหนดก่อสร้างแล้วและส่งมอบเสร็จภายในปี 2556
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรก (ตุลาคม-ธันวาคม 53) ของปีงบประมาณ 2554 นั้น กคช.มีรายได้ 5,000 ล้านบาทกำไร 200 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะมีรายได้รวม 20,000 ล้านบาท และกำไรประมาณ 700- 800 ล้านบาท และปัจจุบันมีหนี้จากการพัฒนาโครงการบ้านเอื้ออาทรเหลืออยู่ประมาณ 58,000 ล้านบาท กำหนดชำระหนี้ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2560 โดยปีนี้กำหนดต้องชำระหนี้ 10,000 ล้านบาท แต่ปีนี้กคช.จะสามารถชำระหนี้ได้เกินกว่าที่กำหนดจำนวน 7,500 ล้านบาท รวมเป็น 17,500 ล้านบาท
ส่วนแผนงานด้านการขาย ในวันที 25 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2554 เปิดขายโครงการบ้านเอื้ออาทรในงาน คิดถึงบ้าน- คิดถึงการเคหะฯ ครั้งที่ 2 ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ และศูนย์ขาย 5 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ขายพุทธมณฑลสาย 4 (นครชุ่มชื่น) ศูนย์ขายรังสิต(เสมาฟ้าคราม) ศูนย์ขายนนทบุรี ศูนย์ขายบางบัวทอง และศูนย์ขายบางขุนเทียน
วันที่ 10-13 มีนาคม 2554 เปิดจองที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไป จำนวน 15 โครงการ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 24 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และ วันที่ 10- 16 มีนาคม 2554 เปิดจองที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไป จำนวน 15โครงการ ณ เดอะมอลล์ บางกะปิ