รองนายกฯ มั่นคง โยน กต.แจงสถานการณ์พระวิหารต่อชาวโลก อย่ากังวลเขมรส่ง “ฮอร์ นัมฮง” ถกยูเอ็น ยันเป็นเรื่องของ 2 ชาติ ยูเอ็นเอชซีอาร์ไม่เกี่ยว รับทหารไทยถูกจับเป็นเชลยสงคราม เชื่อเขมรส่งคืนแน่ ยันไทยปกป้องอธิปไตย ไม่รุกราน เผยมหาดไทย-พม.จัดงบช่วยผู้อพยพแล้ว พร้อมสั่ง ผวจ.ศรีสะเกษดูแล เชื่อขโมยของเกิดยาก ไม่วิเคราะห์ลูก “ฮุนเซน” รบโชว์เพาฯ
div align="center">
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชา โดยนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะเชิญทูตและสื่อมวลชนลงไปดูพื้นที่ว่า กระทรวงการต่างประเทศเขามีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะต้องเอาความเป็นจริงบอกกล่าวให้ชาวโลกให้ประเทศต่างๆ ในโลกได้เข้าใจข้อเท็จจริงก็ต้องดำเนินการด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อแสดงความจริงให้ปรากฏต่อสายตาของชาวโลก เมื่อถามว่าการที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะขอกองกำลังจากยูเอ็นเข้ามาประจำในพิ้นที่พิพาทประสาทพระวิหาร นายสุเทพกล่าวว่า ตนคงยังไม่พูดอะไรตอนนี้ แต่กระทรวงการต่างประเทศเขาจะอธิบายได้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน จะส่งนายฮอร์ นัมฮง รมว.การต่างประเทศของกัมพูชา เดินทางไปชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อยูเอ็น ทางเราต้องส่งนายกษิต หรือตัวแทนไปชี้แจงต่อยูเอ็นด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศของเรามีขีดความสามารถที่จะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ได้ และมีคนที่มีความรู้ความสามารถด้านนี้ ไม่ต้องกังวลใจ เมื่อถามว่า ปัญหาในขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ยังไม่ต้องให้ยูเอ็น หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ ต้องเรียกประชุมฉุกเฉิน หรือต้องส่งกองกำลังเข้ามาใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น ไทยและกัมพูชายังสามารถที่จะพูดจาหารือกันได้ เมื่อถามอีกว่าทางยูเอ็นเองอยากให้อาเซียนเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยปัญหา นายสุเทพกล่าวว่า เรายืนยันว่าเป็นเรื่องของ 2 ประเทศก่อน
เมื่อถามว่าทางกัมพูชาเองพยายามยกระดับปัญหาขึ้นไปสู่เวทีโลก ขณะที่ยิงใส่ไทยปากก็ร้องตะโกนฟ้องชาวโลกว่าถูกไทยบุกรุกรังแก นายสุเทพกล่าวว่า ก็เป็นอย่างนั้นเขาก็ทำอย่างนั้นเราก็ต้องหาทางแก้ไข เมื่อถามว่าการจับทหารเป็นเชลยอย่างนี้ก็แปลว่าเป็นสงครามแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ก็ยิงกันแล้ว เมื่อถามย้ำว่า เมื่อวานท่านเพิ่งบอกเองว่าเป็นแค่การปะทะ เป็นแค่อุบัติเหตุ ไม่ใช่สงคราม นายสุเทพกล่าวยอมรับว่า จะเรียกอะไรก็แล้วแต่ แต่ว่ายิงกันแล้ว รบกันแล้ว
เมื่อถามถึงการช่วยเหลือทหารไทยที่ถูกทางกัมพูชาจับกุมตัวไปความจริงมีถึง 4 นาย ไม่ใช่ไม่มีอย่างที่กองทัพบกออกมาให้ข่าว นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าสิ่งที่กองทัพบกชี้แจงถูกต้องแล้ว ถ้าจำได้บริเวณที่ใกล้ๆ วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระจะมีเจ้าหน้าที่ประสานของแต่ละฝ่ายอยู่ ที่จริงมี 5 คน พอตอนก่อนจะเกิดเหตุ 1 คนลงมาซื้อหาอาหารเหลืออยู่ 4 คน เมื่อเกิดยิงกัน 4 คนดังกล่าวก็ต้องติดอยู่ข้างบนนั้นมีเท่านั้น แต่กรณีของพลทหารสงกรานต์ ทองชมภู ที่ถูกจับไปได้ทำหนังสือถึงสมเด็จฯ ฮุนเซน ตนไม่ทราบว่ารายละเอียด แต่คงเป็นการพลัดหลงเข้าไป แต่การช่วยเหลือก็ต้องดำเนินการตามข้อกฎหมายและวีธีการปฏิบัติกันอยู่ ประเทศที่กำลังรบพุ่งกันก็ต้องปฏิบัติต่อคนที่ถูกจับของอีกฝ่ายตามกฎที่ปฏิบัติกันอยู่ระหว่างประเทศ คิดว่ากัมพูชาจะต้องส่งคืนให้
ส่วนกรณีที่นายบันคีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาติ (ยูเอ็น) ออกมาเรียกร้องให้ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาพยายามอดทนอดกลั้นกับการแก้ไขปัญหา ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เราจะอดทนได้มากแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า ตามปกติ เราก็อดทนอดกลั้นอยู่แล้ว แต่การรักษาอธิปไตยของชาติ การรักษาศักดิ์ศรีของประเทศก็ต้องทำตามสมควร เอาเป็นว่าในขณะนี้ประเทศไทยยึดหลักว่าไม่รุกรานเขา และไม่เริ่มต้นก่อน แต่เมื่อเกิดเหตุมีความจำเป็นที่ต้องปกป้องอธิปไตยของรา ต้องดำเนินการทางทหารไม่ให้เสียเปรียบ อันนี้ก็ต้องทำ ตนเป็นพลเรือนคงพูดมากไม่ได้ในเรื่องของยุทธวิธีและการทหาร ต้องให้ฝ่ายกองทัพเขาดำเนินการ เราจะไปอวดดีไปวิจารณ์อะไรก็ไม่ได้
เมื่อถามอีกว่า สถานการณ์การปะทะระหว่างกำลังทหารไทยและกัมพูชาดูเหมือนจะสงบลงแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ในอนาคตสถานการณ์จะคลี่คลายลงได้โดยเร็วหรือไม่ หรือยังต้อง เฝ้าระวังตึงเครียดแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ นายสุเทพกล่าวว่า เคยเรียนแล้วว่าตอนที่มีคนเรียกร้องที่จะให้รบกัน ก็บอกแล้วว่าเวลารบกันมันจะมีความเสียหาย มีคนเสียชีวิต บาดเจ็บ ที่ตนกังวลใจมากที่สุด คือ เวลานี้พี่น้องประชาชนคนไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนทั้งหลายต้องอพยพออกมาจาก พื้นที่ที่อาจจะกลายเป็นพื้นที่สู้รบต่อไป คนตั้งหลายหมื่นคนต้องออกมานอนตามเต๊นท์ ตามศาลา ท่ามกลางอากาศหนาว อาหารการกินไม่สะดวก ห้องน้ำห้องท่าก็ลำบากไปทั้งนั้น นี่ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ได้ไปดูแลและมีพี่น้องคนไทยอื่น มาช่วยดูแลด้วย แต่ก็ไม่ครบถ้วนเหมือนอยู่บ้านตัวเอง จึงเป็นปัญหา ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนอยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ ไม่อยากให้ขยายบานปลายออกไป เราก็ต้องพยายามช่วยกัน
นายสุเทพกล่าวด้วยว่า สำหรับงบประมาณในการช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพนั้น ทาง รมว.มหาดไทย รมช.มหาดไทย และรมว.การพัฒนาสังคมฯ ได้ลงพื้นที่ไปดูแลและสั่งการเจ้าหน้าที่ ดำเนินการเต็มที่และเรามีเงินที่ประชาชนบริจาคด้วย ตนยืนยันกับผวจ.ศรีสะเกษให้ดูแลประชาชนให้เต็มที่ ถ้างบประมาณของทางราชการไม่พอ ก็ยังมีเงินบริจาคช่วยได้ ส่วนปัญหาที่บ้านเรือนชาวบ้านถูกโจรขโมยข้าวของ เช่น บางรายถูกขโมยขันเงินอายุ 50 กว่าปีนั้น พื้นที่เหล่านั้นบางส่วนน่าจะมีกฎอัยการศึก การลงโทษผู้ก่ออาชญากรรมน่าจะมีโทษรุนแรงกว่า แต่ จ.ศรีสะเกษ เท่าที่ประสานกับ ผวจ.แต่ละหมู่ก็มีการจัดอาสาสมัครประชาชน เฝ้าเวรยามดูแลรักษา คงมีโอกาสน้อยที่จะเกิดอย่างนี้
เมื่อถามว่า การที่สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่พอใจ ส่วนหนึ่งเขามองว่าม็อบเสื้อเหลืองกับรัฐบาลเป็นพวกเดียวกัน แต่ปล่อยให้กลุ่มเสื้อเหลืองไปด่าฝ่ายกัมพูชาอย่างเสียหาย นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่ากลุ่มผู้ชุมนุมด่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกับด่าสมเด็จฯ ฮุน เซน อันไหนจะมากกว่ากันแล้วตอนนี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน ก็คงได้ยิน อยู่กัมพูชาเปิดทีวีดูก็เห็น เมื่อถามว่า วิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในกัมพูชาเองหรือไม่ ที่มีการผลักดันพล.ท. ฮุน มาเนตร บุตรชาย สมเด็จฯ ฮุนเซน ขึ้นคุมกำลังทหารในหน่วยสำคัญ เลยมีความพยายามจะสร้างผลงานเพื่อสร้างการยอมรับ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ไปวิเคราะห์