“เทือก” งัด พ.ร.บ.มั่นคงให้ทำเนียบ-สภาเป็นพื้นที่ความมั่นคง สกัด พธม.เคลื่อนใหญ่

“เทือก” อ้างไทยไม่เสียเปรียเขมรในการปะทะที่เกิดขึ้น หวังเจรจาเพื่อให้เกิดสันติ พร้อมปฏิเสธปราสาทโดนตวลถูกยึด ได้ทีร้องพันธมิตรฯ อย่าซ้ำเติมสถานการณ์ รับกังวลการเคลื่อนใหญ่ 11 ก.พ. เชื่อไม่กระทบลงมติแก้ รธน. เรียก ผบ.ตร.หารือ งัด พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ สกัด เตรียมนำเข้า ครม.พรุ่งนี้ ประกาศให้พื้นที่รอบทำเนียบฯ-รัฐสภา เป็นพื้นที่ความมั่นคง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เสียเปรียบ ย้ำรัฐบาลไม่ต้องการสงคราม ยังหวังให้มีการเจรจาทุกระดับเพื่อให้เกิดสันติโดยเร็ว ขณะเดียวกันยังไม่ทราบเรื่องสื่อกัมพูชารายงานข่าวว่าทหารไทยถูกจับกุมตัว พร้อมปฏิเสธปราสาทโดนตวลถูกบุกยึดแต่อย่างใด ทั้งนี้ การตอบโต้ของทหารจะระมัดระวังการยิงปราสาทพระวิหาร เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม เหตุการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ยังวิเคราะห์ยากว่าเกิดจากสาเหตุใด ดีที่สุดคือรอฟังคำแถลงข้อเท็จจริงจาก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก

นายสุเทพยังกล่าวเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ อย่าซ้ำเติมสถานการณ์ประเทศ พร้อมยอมรับว่ารู้สึกกังวลใจต่อการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 แต่เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เดินทางเข้าพบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเรื่องการใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ประกาศยกระดับการชุมนุม พร้อมประกาศเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 11 ก.พ. ซึ่งฝ่ายความมั่นคงคาดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา ซึ่งมีวาระการประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2

พล.ต.อ.วิเชียร ให้สัมภาษณ์หลังเข้าหารือกับนายสุเทพว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี พรุ่งนี้ (8 ก.พ.) เตรียมเสนอที่ประชุมให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน โดยจะประกาศให้พื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา เป็นพื้นที่ความมั่นคง พร้อมกันนี้ยังเตรียมเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อขอคืนพื้นที่การชุมนุม