xs
xsm
sm
md
lg

“จิตตนาถ” ชี้เขมรอิง MOU รบไทยชอบธรรม เหตุไทยรับรอง 1: 2แสน เปิดช่องอ้างอธิปไตยเหนือดินแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล
“จิตตนาถ” ชี้หาก รบ.ดื้อดึงอุ้มเอ็มโอยู 43 ต่อ เกิดสงครามครั้งใหญ่เขมรยอมปะทะชิงพื้นที่ 1.8 ล้านไร่แน่ บอก “มาร์ค” เลิกพ่นน้ำลาย เมื่อเกิดข้อพิพาท “สนธิสัญญา” จะมัดคอไทยเถียงเขมรไม่ได้ อย่าโง่ซ้ำโง่ซ้อนไปติดกับดักคำว่ามรดกโลก พร้อมถามอายไหมลูกสาวไปงานบอลจุฬา-ธรรมศาสตร์ เห็นป้ายพ่อตัวเองเป็น “นางอับปรี”



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

ช่วงค่ำวันนี้ (6 ก.พ.) บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราได้เห็นการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารเขมรมาแล้ว โดยต่างคนต่างออกมาแก้ตัว การสงครามนั้น มีคำโบราณบอกไว้ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” แล้วรัฐบาลไทยรู้ทันเขมรบ้างหรือเปล่า หรือรู้ทันแต่แกล้งโง่

สำหรับตนมีมุมมอง สาเหตุการปะทะกันเป็นเพราะบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 (เอ็มโอยู 43) ที่ทางการไทยไปเซ็นกับเขมรยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไว้ตั้งแต่ปี 2543 โดยไม่มีผู้นำหรือรัฐมนตรีไทยคนไหนให้สัมภาษณ์คัดค้านต่อกรณีดังกล่าวเลย แม้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะบอกกับคนไทยว่าทางไทยยึดสันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดน แต่กลับยังคงเอ็มโอยู 43 เอาไว้ทำให้ทางฝ่ายกัมพูชามีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรไปอ้างต่อสังคมโลกได้ว่าทางไทยยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000

“เมื่อรัฐบาลเซ็นรับเอ็มโอยู 43 แล้ว ก็เหมือนว่าเราไปตกลงกันใหม่ เรื่องนี้แค่นี้คิดกันไม่เป็น รัฐมนตรีเฒ่าทารกยังบินไปให้เขาถอนหงอกอีกใช่ไหมครับ แล้วเขาตอกหน้าหงายกลับมาอายเขาไหม” นายจิตตนาถกล่าว และว่ากรณีป้ายหินที่บอกว่าที่นี่คือกัมพูชา ธงเขมรที่ปักอยู่หน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ หรือกรณี 7 คนไทยถูกจับในเขตแดนไทยที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว กลับเป็นหลักฐานที่ยืนยันอย่างชัดเจนว่าไทยได้เสียดินแดนให้กัมพูชาไปแล้วทางพฤตินัยนานแล้ว

นายจิตตนาถยังกล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ทางรัฐบาลไทยและทหารไทยกลับยังไปติดกับของการเป็นมรดกโลก ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร ก็เพิ่งเผยออกมาว่า อยากเห็นไทยและเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกันอยู่

“ถามว่าเขมรมันจะโง่มารับแนวทางนี้ไหมครับ เพราะตอนนี้เขาได้เปรียบไปไกลกว่านั้นแล้ว ส่วนรัฐบาลไทยก็ได้แต่ใบ้กิน เพราะเขาได้ใช้กำลังเข้ามายึดในพื้นที่ที่เขาบอกว่าเป็นสิทธิ์ของเขา ถามว่าทำไมเขมรไม่สนใจเรื่องมรดกโลก หรือยูเนสโก ก็เพราะแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งกินพื้นที่ตลอดแนว 1.8 ล้านไร่ กินแนวมาข้างล่างหมดเลย เวลาที่เขาจะเอาไปขึ้นมรดกโลกเขาก็เอาไปขึ้นทั้งหมด” นายจิตตนาถกล่าว และว่า “เวลาทำธุรกิจ เมื่อมีข้อพิพาท อย่างแรกที่เขาดูคือ สัญญา เมื่อเราทำสัญญารับรองเขายอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตอนนี้เกิดข้อพิพาทแล้วถามว่าถ้าเถียงกันตามสัญญาแล้วใครแพ้ ฉะนั้นอย่าโทษประชาชนมาชุมนุมทำให้เกิดสงครามเพราะนี่คือสิ่งที่คุณซุกเอาไว้ เพราะฉะนั้น ถ้าใครบอกว่ายังต้องยึดเอ็มโอยู 43 อยู่ก็บอกได้เลยว่าเป็นคนขายชาติ”

นายจิตตนาถกล่าวด้วยว่า ตนอยากฝากกำลังใจไปถึงทหารที่อยู่ตามแนวชายแดน และฝากบอกถึงผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาคที่ 2 ด้วยว่า อย่าให้ทหารไทยต้องตายฟรี

“ท่านที่ชอบบอกว่ารบกัน แล้วพันธมิตรฯ จะไปรบหรือเปล่า ก็ถามกลับว่าแล้วท่านไปรบเองหรือเปล่าเห็นมีแต่ทหารชั้นผู้น้อยที่ไปรบ เมื่อทหารหาญต้องตายเราต้องได้อธิปไตย ไม่ใช่ท่านไปตกลงเขมร อย่าเห็นแก่ตัวมากกว่าประเทศ ส่วนคนที่เป็นผู้นำต้องมีความกล้าอย่าเอาแต่หล่อ อย่าดูถูกประชาชนว่าพวกเราจุดไม่ติด อย่ามองว่ายอมรับแล้วเสียเครดิตทางการเมือง เพราะทุกคนสนใจและรู้เรื่องนี้ดีขึ้นมาก สื่อต่างๆ ต่อให้แถไปแถมา ก็ปิดความจริงไม่มิดแล้ว แล้วคุณก็จะเป็นสื่อที่ประชาชนเขาดูถูกคุณ” นายจิตตนาถกล่าว

นอกจากนี้ นายจิตตนาถยังยกตัวอย่างด้วยว่า ในงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ วานนี้ (5 ก.พ.) เห็นความคิดของปัญญาชนรุ่นใหม่แล้วอยากถามว่านายอภิสิทธิ์อายไหมที่ ลูกสาวซึ่งเป็นนิสิตจุฬาฯ ไปร่วมงานแล้วเห็นขบวนล้อการเมือง ล้อพ่อตัวเองว่าเป็น “นางอับปรีสิทธิ์” โดยคำๆ นี้ก็มีความหมายในตัวอย่างคือ “นาง” แสดงให้เห็นถึงความขี้ขลาด “อัปรีย์” ก็คงคล้ายกับคำว่าจัญไร ส่วนการที่ “กอด MOU43” ก็แสดงว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนที่มีอัตตาสูง ส่วนการที่ “ร่างเป็นเขมร” ก็แสดงว่าขายชาติ


ภาพขบวนล้อการเมือง “นางอับปรีสิทธิ์” ในงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ วานนี้ (5 ก.พ.)"
กำลังโหลดความคิดเห็น