xs
xsm
sm
md
lg

“สำราญ” ฟันธง รบ.ยุบสภาหนีหลังแก้ รธน.-ผ่านร่างงบฯ กลางปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำราญ รอดเพชร
โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ซัด รบ.ขู่ไม่สงบไม่ยุบสภา แค่หวังตีปลาหน้าไซ เชื่อแก้ รธน.- ผ่านการพิจารณางบกลางปีแล้วเสร็จ ยุบสภาหนีเอาตัวรอดแน่ ประเมิน “รัฐนาวามาร์ค” งานเข้าตลอดเดือน ก.พ. เตือนตำรวจออกหมายเรียก 21 แกนนำ พธม.คดี 7 ตุลาฯ 51 ราดน้ำมันบนกองเพลิง ชี้จังหวะเวลาไม่เหมาะ

วันนี้ (6 ก.พ.) นายสำราญ รอดเพชร รองหัวหน้าพรรคและโฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ว่า พรรคการเมืองใหม่คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่า เมื่อนายกฯ อภิสิทธิ์และรัฐบาลถูกกดดันเช่นนี้ทำให้ภายหลังการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ รวมทั้งการผ่านงบประมาณกลางปี 2554 แล้ว อาจจะใช้เครื่องสำคัญโดยการยุบสภาเป็นทางออกให้แก่บ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ตนไม่แน่ใจว่าเมื่อมีการยุบสภาแล้วการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ จะยุติหรือไม่ เพราะธงที่พันธมิตรฯ เรียกร้องนั้นมี 3 ข้อ หากยังไม่บรรลุ หรือเหตุการณ์ต่างๆ จะยุติหรือไม่ จะมีการเลือกตั้งหรือเปล่า

นายสำราญกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันสถานการณ์ความร้อนแรงจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ล่าสุดประกาศเคลื่อนขบวนในวันที่ 11 ก.พ.นี้ และทางเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติก็ยังอยู่อีกมุมหนึ่งของทำเนียบ ทั้งนี้ยังมีความเคลื่อนไหวในส่วนของคดีการชุมนุมหน้ารัฐสภา เมื่อ 7 ต.ค.51 ของพันธมิตรฯ ซึ่งที่ผ่านมาค้างอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีหนังสือแจ้งว่า สตช.สั่งฟ้องคดีชุมนุมหน้ารัฐสภา โดยมีหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 21 คน อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายประพันธ์ คูณมี รวมทั้งตนเองด้วย ไปรายงานตัวในวันที่ 10 ก.พ.ที่ สน.ดุสิต อาจจะเป็นจุดเร่งให้สถานการณ์ร้อนแรงมากขึ้น เนื่องจากไม่น่าใช่จังหวะเวลาที่ดีนัก นอกจากนั้น การประกาศยังมีชุมนุมยืดเยื้อของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ศาลอาญาและศาลฎีกาในวันที่ 13 และ 19 ก.พ.อีกด้วย

“ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้คนในรัฐบาลบางคนออกมาอ้างว่า หากบ้านเมืองไม่สงบจะไม่ยุบสภานั้น ถือเป็นการพูดตีปลาหน้าไซ หรือคำพูดขู่มากกว่า เพราะแท้จริงแล้วรัฐบาลกำลังสับสนอย่างหนักว่าจะหาทางออกอย่างไรให้กับตัวเอง” นายสำราญกล่าว

ในส่วนกรณีการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยนั้น นายสำราญได้แสดงความเห็นว่า พรรคเพื่อไทยน่าจะอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ใช่วง 4-5 วันนี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะยื่นญัตติในวันไหน ซึ่งจริงๆ แล้วการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นมาตรการสูงสุดตามสภาฯ แต่พรรคเพื่อไทยขณะนี้ขาดความเป็นเอกภาพ ขาดพลัง ไม่น่าที่จะทำให้รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองได้ โดยลึกๆ แล้วพรรคเพื่อไทยก็ต้องการให้มีการยุบสภา เพราะหากเนิ่นนานออกไปอาจทำให้ ส.ส.ของพรรคไหลออกไปเรื่อยๆ แต่ทราบดีว่าถ้ายื่นอภิปรายแล้วนายกฯ จะยุบสภาไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น