พล.ต.จำลอง ย้ำ พันธมิตรฯ ให้รอฉันทามตินัดรวมพลังครั้งใหญ่ 5 ก.พ.ก่อนประกาศยกระดับ เตือนแนวร่วมฟังประกาศบนเวทีเท่านั้น ยันไม่ชี้นำความเห็นประชาชน ลั่น รบ.ต้องทำ 3 ข้อ ไม่หวังปฏิวัติ-ยุบสภา ซัด มทภ.2 หัวใจเขมร ธงผืนเดียวเอาออกไม่ได้ ยอมศิโรราบจิ้งจอกฮุนเซน เมิน “กษิต” ไร้น้ำยาแก้ปัญหา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การเสวนา "ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน"
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดเผยในการแถลงข่าวประจำวัน ว่า กรณีการยกระดับการชุมนุมอย่าเพิ่งคิดล้ำหน้าไป เพราะต้องถามฉันทามติจากประชาชนเสียก่อนในวันที่ 5 ก.พ.ว่าได้ให้เวลารัฐบาลมานานแล้ว จนประเทศเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะว่าไม่ทำตามที่ประชาชนเสนอไป ซึ่งเราก็จะถามประชาชน ว่า เมื่อเราให้เวลามากว่า 2 ปี รัฐบาลไม่แก้ปัญหา ไม่ทำตามที่เราเสนอ และเกิดความผิดพลาดมาตลอด จนมาถึงกรณีที่ นายวีระ สมความคิด และ นางราตรี พิพิฒนาไพบูลย์ ถูกตัดสินจำคุก เราก็ให้เวลาอีก 3 วัน ในการช่วยเหลือ และรับผิดชอบ หากยังไม่รับผิดชอบใน 3 วันนี้ ก็ต้องถามประชาชนว่าจะให้นายกฯอภิสิทธิ์ รับผิดชอบอย่างไร ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของแผ่นดินและภาษีอากรด้วย เมื่อคนที่รับจ้างเรามาทำงานไม่ทำหน้าที่ และไม่รับผิดชอบใดๆ ก็ต้องเรียกร้องให้มีการรบผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการปราศรัยบนเวที พล.ต.จำลอง ระบุว่า การเข้าทำเนียบง่ายนิดเดียว แสดงถึงการเตรียมการบุกยึดทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.จำลอง ชี้แจงว่า สิ่งที่ตนพูดนั้นไม่ได้ต้องการให้มีการบุกยึดทำเนียบ แต่เป็นการบอกความจริง ว่า เข้าทำเนียบนั้นไม่ยาก โดยตนชำนาญพื้นที่ เพราะเคยเรียนและทำงานที่นี่หลายครั้งเป็นเวลาหลายปี เพียงแต่บอกผู้ชุมนุม ว่า ระวังว่าหากมีผู้ใดมาชวนให้เคลื่อนออกไปพื้นที่ไปกดดันสถานที่ต่างๆ ต้องฟังแกนนำเสียก่อน โดยจะมีการประชุมและมอบหมายให้คนใดคนหนึ่ง รวมไปถึง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ เป็นผู้ประกาศบนเวทีอย่างเปิดเผย โดยในการขอฉันทามตินั้นจะไม่มีการชี้นำมวลชน แจะฟังเสียงประชาชนว่าต้องการอย่างไร
“ที่พูดไปนั้นเป็นการเตือนไม่ให้ไปฟังคนอื่น เพราะหากมีการปลุกระดมให้บุกทำเนียบ โดยที่จังหวะเวลายังไม่เหมาะสม เรื่องนี้เราต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ไม่ใช่ทำตามความสะใจ เพราะส่วนตัวเห็นว่าการชุมนุมปักหลักพักค้างอย่างยื้อเยื้อก็กดดันรัฐบาลได้มากแล้ว” พล.ต.จำลอง กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาล ระบุว่า จะใช้มาตรการเด็ดขาด หากมีการบุกรุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อย่ามาข่มขู่กัน เพราะตนรู้ เราเคยเข้าไปแล้ว ตำรวจที่ซ้อมจะมาสลายการชุมนุมนั้น ตนขอยืนยันว่า หากมาสลายเรา อีกไม่นานก็จะมาใหม่ ส่วนการชุมนุมจะนานแค่ไหนก็แล้วแต่นายกฯอภิสิทธิ์จะทำ 3 ข้อเสนอเมื่อไร หากไม่ทำก็ไม่เลิกชุมนุม แต่หากทำแล้ว ก็พร้อมที่จะยุติการชุมนุม ส่วนรัฐบาลจะอยู่ต่อ หรือยุบสภาก็เป็นเรื่องของเขา โดยขอย้ำว่า ถึงวันนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเคลื่อนขบวนหรือไม่ รวมไปถึงไม่ได้ระบุสถานที่ด้วย เรื่องนี้ต้องใจเย็นๆ โดยในวันที่ 5 ก.พ.จะถามมวลชน ว่า จะให้รัฐบาลรับผิดชอบอย่างไร อย่าเพิ่งปักใจว่า จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องย้อนไปว่าเรามาชุมนุมโดยมีเป้าหมายกดดันให้รัฐบาลทำหน้าที่ปกป้องดินแดน โดยทำตาม 3 ข้อเสนอ ส่วนประเด็นอื่นๆ เป็นประเด็นปลีกย่อย รวมทั้งในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาล ที่จะมีการเปิดเผยบนเวทีด้วย แต่ยืนยันว่า ณ วันนี้ยังไม่ได้ขับไล่รัฐบาล
เมื่อถามถึงการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมเพื่อเปิดทางให้มีการปฏิวัติ พล.ต.จำลอง กล่าวย้ำว่า เราไม่ได้คบคิดกับใครที่ทำการปฏิวัติ ส่วนใครจะทำหรือไม่ เป็นเรื่องของคนอื่นและรัฐบาล เมื่อทำไม่ดีบ้านเมืองเสียหาย ทหารก็ต้องออกมาทำหน้าที่ แต่ไม่ใช่กลุ่มพันธมิตรฯมาชี้ช่อง เพราะจุดมุ่งหมายการชุมนุมของเราไม่ใช่ให้มีการปฏิวัติ หรือยุบสภา
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากรัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารบ้านเมือง ทางแกนนำพันธมิตรฯมีการมองถึงพรรคการเมือง หรือบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เราไม่ได้พูดถึงพรรคการเมือง การชุมนุมไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงทั้งสิ้น เป็นเพียงการออกมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน เพราะเรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่ต้องปกป้องรักษา ซึ่งการชุมนุมก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ประชาชน หรือทหารตำรวจแก่ๆ สามารถกดดันรัฐบาลได้ ไม่มีเจตนาทางการเมือง อย่างไรก็ตาม หากมีการปฏิวัติ หรือยุบสภา เราก็จะมีการประชุมหารือถึงแนวทางต่อไป
ส่วนกรณีที่ นายการุณ ใสงาม ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 ก.พ.นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า คงไปช่วยเหลืออะไรไม่ได้นอกจากการประกันตัว เพราะอยู่ในกระบวนการศาลแล้ว อย่างไรก็ตามการจับกุมครั้งนี้ไม่เหมาะสม เพราะเป็นเวลาที่นายการุณอยู่ระหว่างการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา
เมื่อถามว่า การชุมนุมครั้งนี้เพื่อต้องการต่อรองเรื่องคดีความของกลุ่มพันธมิตรฯ พล.ต.จำลอง ปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรฯไม่เคยมีพฤติกรรมกดดันเรื่องคดีความ เรายอมรับกระบวนการยุติธรรม ไม่เคยเคลื่อนขบวนไปกดดันศาลหรือที่เรือนจำ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การชุมนุมครั้งนี้มีมวลชนแนวร่วมเข้าร่วมน้อยกว่าเมื่อครั้งขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่คนน้อยหรือมากไม่สำคัญ สำคัญที่คุณภาพและเป้าหมายเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองโดยแท้จริง เรื่องอธิปไตยของชาติมีความจำเป็นมากกว่าการชุมนุมครั้งที่ผ่านๆ มา มีอะไรที่เสียหายมากกว่าการเสียดินแดน การที่จะไปเกณฑ์คนให้มาร่วมชุมนุมก็คงไม่ได้
ส่วนกรณีที่ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ระบุว่า ไม่สามารถทำให้กัมพูชานำธงชาติออกจากวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระได้ รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ และการชุมนุมของพันธมิตรฯที่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แย่ลง พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่เขามาชักธงในดินแดนไทย แล้วบอกว่าทำอะไรไม่ได้ แสดงว่า มทภ.2 ยอมศิโรราบต่อกัมพูชา อย่างนี้มาเป็นทหารได้อย่างไร แล้วที่บอกว่า กลัวกระทบความสัมพันธ์นั้น ทำไมถึงเป็นห่วงจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างนายกฯฮุนเซน เหลือเกิน พล.ท.ธวัชชัย เป็นทหารไทย หรือทหารไทยหัวใจเขมร เวลาที่กัมพูชาทำแต่ละครั้งไม่ได้แสดงให้เห็นว่าห่วงความสัมพันธ์เลย วันนี้ (3 ก.พ.) เป็นวันทหารผ่านศึก หากทหารที่เคยผ่านศึกสงครามที่เสียชีวิตเสียแขนขารู้อย่างนี้คงเสียใจมาก
พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า ในส่วนการเดินทางไปกัมพูชาของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรฯไม่ได้คาดหวังใดๆ ไปมากี่ครั้งก็เคารพนบนอบเหมือนเป็นเมืองขึ้นเขา