“สมศักดิ์” ชี้เดินตามยุทธศาสตร์ “มาร์ค” ในอนาคตไทยเสียดินแดนล้านเปอร์เซ็นต์ ถาม รบ.สถานะทางสังคมไทยต่างเขมรเยอะทำไมเราต้องไปก้มหัวให้เขาขนาดนั้น ซัดแทนที่จะเอาคนที่ถูกจับไปชี้จุดเกิดเหตุกลับเอาคนมาบิดเบือนสระน้ำ UN ให้ร้ายคนไทย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย “นายสมศักดิ์ โกศัยสุข”
วันที่ 1 ก.พ. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงคำพูดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ว่า “ผมจะรักษาอธิปไตยของไทย ถ้าผมยอมให้เสียอำนาจอธิปไตย ผมก็ไม่ควรอยู่ประเทศไทย” ว่า สิ่งที่นายอภิสิทธิ์เคยพูดต่างจากการกระทำ 7 คนไทยถูกจับวันที่ 29 ต่อมาวันที่ 30 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดก่อนเลยว่ารุกล้ำแดนกัมพูชา อย่างไรก็ดี หลัง 5 คนถูกลงโทษ สองคนที่เหลือแทนที่จะช่วย กลับกลายเป็นว่าก่อนการตัดสิน “วีระ-ราตรี” หนึ่งวันยังไปเอาชาวบ้านมาพูดให้ร้ายคน7 คนไทยซ้ำเติมเข้าไปอีก
7 คนไทยถูกจับเพราะรัฐบาลไม่ทำหน้าที่ ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นไปตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้าดำรงค์ตำแหน่ง หากเป็นรัฐบาลต่างประเทศที่เขารักชาติศักดิ์ศรี เขาจะคัดค้านไม่ให้เอาตัวคนของเขาไปแน่ ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาขณะนี้ไม่ใช่เรื่องความคิดหรือมุมมองว่าใครจะได้หรือเสียประโยชน์ทางการเมือง แต่เป็นไปตามกฎหมายซึ่งละเว้นไม่ได้ หากละเว้นสิ่งที่เป็นพื้นฐานนี้ ถือว่าหมดความชอบธรรมอย่างสิ้นเชิงในการบริหารประเทศ
นายสมศักดิ์กล่าวว่า วันนี้กระทรวงการต่างประเทศออกมาพูดพอจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศบ้าง แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ออกมาขัดว่าสงสัยจะเข้าใจผิด ที่ถูกต้องทำตามเอ็มโอยู 43 เป็นความขัดแย้งจนไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้จะเอาอย่างไร ถึงเวลานี้แล้วรัฐบาลไม่น่าจะมาโต้เถียงบิดเบือนว่า ผู้ชุมนุมกระหายสงครามบ้าง มีวัตถุประสงค์ทางเมืองบ้าง คิดอยู่แค่นั้น ทั้งที่เราพูดอยู่ตลอดเรืองอาณาเขตไทย-กัมพูชา เรียกร้องให้รัฐบาลทำตามหน้าที่ ดังนี้ พี่น้องทั้งประเทศควรแสดงประชามติถ้าเห็นว่ารัฐบาลทำถูกต้องแล้วก็ปล่อยไป หากไม่เห็นด้วยควรออกมาร่วมแสดงสิทธิ เพื่อผลักดันใด้เกิดข้อเรียกร้อง 3 ข้อต่อไป
“คำพิพากษามีผลกระทบต่อเขตแดนไทยอย่างแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เมื่อ 7 คนถูกจับในเขตประเทศไทยแล้วเรายอมรับคำพิพากษาของศาลกัมพูชาโดยไม่ทักท้วง และตัวนายกฯก็ยังยืนยันเอาตัวชาวบ้านว่าเป็นเขตแดนกัมพูชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี พูดว่าถูกจับในแดนกัมพูชา เท่ากับยอมรับที่ถุกจับเป็นเขตกัมพูชา ลักษณะอย่างนี่คือกฎหมายปิดปาก ดังนั้นในอนาคตไทยสูญเสียดินแดนแน่นอน” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ง่ายนิดเดียวหากรัฐบาลจะแก้ไข แค่นำคนที่ถูกจับไปชี้จุดเกิดเหตุก็รู้แล้ว ตนอยากถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ทำ ไม่ใช่เอาใครก็ไม่รู้มาสร้างภาพอยู่ในทำเนียบรัฐบาล บิดเบือนอย่างน่าเกลียด หัวใจของคุณทำด้วยอะไรถึงทำได้ขนาด นี้มันเดิมพันด้วยผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัว เมื่อมองจากสภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม แล้วศักดิ์ศรีไทยกับเขมรมันต่างกันมาก ทำไมเราต้องไปยอมเขาขนาดนั้น
“ชัยชนะขอเราต้องการให้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด วันนี้ชัดเจนสิ้นข้อสงสัย นายกฯ ไปพูดอะไรก็ไม่มีความหมาย ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีฐานะความเป็นผู้นำรัฐบาลอยู่เลย เดินไปเดินมา เดินไปไหนมาไหนได้ แต่ไร้จิตวิญญาณความเป็นผู้นำประเทศนี้” นายสมศักดิ์กล่าว
