xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” หวั่นไทยเสียท่าเขมร โดนรุกคืบอีกหลายพื้นที่ ย้ำคนไทยถูกจับในอธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา
เลขา ก.ม.ม.หวั่นไทยเสียท่าเขมรระยะยาว มีสิทธิ์โดนรุกคืบอีกหลายพื้นที่ เหตุ รบ.ไทยเอาแต่ตั้งรับ จี้เร่งทำหนังสือท้วงถึงยูเอ็น แนะให้คำนึงถึงสิทธิพลเมือง 7 คนไทย ชี้แลกตัวผู้ต้องหาต้องระวัง เพราะคนเขมรลอบเข้าไทยผิดชัดเจน ส่วน 7 คนไทยโดนจับในดินแดนไทย แนะ กต.ส่งทีมทนายไทยทำหน้าที่แทน จวกกองทัพอย่าเบ่งกล้ามใส่คนไทยด้วยกัน เร่งเรียกศรัทธารุกเอาพื้นที่คืน


วันนี้ (16 ม.ค.) ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีแนวทางช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุม ว่า พรรคการเมืองใหม่เห็นว่า แนวทางการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุม และดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมโดยทางการกัมพูชานั้น กำลังจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชาในระยะยาว โดยเฉพาะดินแดนที่มีข้อพิพาทกันหลายพื้นที่ ซึ่งท่าทีตั้งรับ และไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาลไทยจะทำให้กัมพูชาฉวยโอกาสได้คืบเอาศอก อ้างคัดสินของศาลกัมพูชาต่อประชาคมโลก เพื่อรุกคืบเอาดินแดนไทยในหลายพื้นที่ พรรคการเมืองใหม่ไม่ได้ปฏิเสธแนวทางการเจรจา แต่การเจรจาต้องยืนบนผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ที่สำคัญ ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีและสิทธิความเป็นพลเมืองของคนไทยทั้ง 7 ตามรัฐธรรมนูญ แต่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมและยัดข้อหาร้ายแรงในขณะนี้

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ และทำหนังสือประท้วงไปยังสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ เพื่อปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของพลเมืองไทยทั้ง 7 และคัดค้านรัฐบาลกัมพูชาที่จับกุมคนไทยบริเวณพื้นที่ที่ยังมีข้อพิพาทกันอยู่ ถ้ารัฐบาลเพิกเฉยไม่แสดงท่าทีที่เป็นทางการ เท่ากับว่า เรายอมรับต่อประชาคมโลกว่าคนไทยทั้ง 7 รุกล้ำดินแดนกัมพูชาจริง และเมื่อข้อพิพาทเรื่องดินแดนไปถึงสหประชาชาติเราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะไม่ได้คัดค้าน หรือแสดงจุดยืนตั้งแต่ต้น ในขณะที่กัมพูชายกปัญหานี้ไปถึงสหประชาชาติเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ทำให้กัมพูชาได้เปรียบในเวทีโลก

“เป็นเรื่องน่าตลกที่รัฐบาลไทยมอบสิทธิในการทักท้วงไปยังยูเอ็นให้แก่ทนายชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ แทนที่จะรีบทำเรื่องทักท้วงไปถึงยูเอ็นด้วยตัวเอง” นายสุริยะใส กล่าว

เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวอีกว่า พรรคการเมืองใหม่ขอตั้งข้อสังเกตด้วยความกังวลใจ ว่า วิธีการการแลกตัวผู้ต้องหาที่รัฐบาลพยายามดำเนินการอยู่นั้น ต้องระมัดระวัง เพราะการจับกุมชาวกัมพูชาที่หลบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไทยโดยชอบอยู่แล้ว แต่กรณีจับกุม 7 คนไทยนั้นเป็นการจับกุมในพื้นที่ที่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นดินแดนฝั่งไทย จึงชอบที่รัฐบาลจะยืนยันและปกป้อง 7 คนไทยว่าไม่ได้มีความผิดและไม่ใช่นักโทษ หากเอากรณีดังกล่าวเทียบเคียงกัน เท่ากับระบบนิติรัฐของไทยกำลังถูกท้าทายอย่างรุนแรง และนำไปสู่การสูญเสียอธิปไตยในชั้นศาล เท่ากับกระทบพระราชอำนาจ เพราะศาลสถิตย์ยุติธรรมทำหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธย นอกจากนี้ ยังทำให้กัมพูชาฮึกเหิมวางกุศโลบายด้านการต่างประเทศ โดยเอาเปรียบคนไทยและประเทศไทยตลอดเวลา

สำหรับกรณีทีมทนายความที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานทูตไทยในกัมพูชาจัดหาให้นั้น นายสุริยะใส กล่าว่า ทีมทนายดังกล่าวไม่น่าไว้วางใจ เพราะเป็นชาวกัมพูชา สื่อสารภาษาไทยได้ไม่ดีนัก ทำให้มีปัญหาในการสื่อสารระหว่าง 7 คนไทยกับทีมทนาย ที่สำคัญ ยังเป็นการยากที่จะว่าความโดยอิสระจากรัฐบาลฮุนเซน ฉะนั้น กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานทูตไทยในกัมพูชาต้องจัดให้ทีมทนายคนไทยเข้าไปให้การช่วยเหลือ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ทีมทนายจากภาคประชาชน ได้ร่วมวางแผนและปรึกษาหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการต่อสู้คดีร่วมกัน เพราะแนวทางการต่อสู้ ไม่ว่าศาลจะพิพากษาอย่างไรย่อมส่งผลต่อการอุทธรณ์ของฝ่ายไทยในกรณีอื่นด้วย เพราะจะถูกเอาไปเทียบเคียงและยกเป็นข้ออ้างในกรณีอื่นๆ ได้อีก

นายสำริยะใส ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ผู้นำเหล่าทัพออกมายืนยันว่าบริเวณชายแดนไม่มีผลประโยชน์หรือธุรกิจมืดอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ตนอยากแนะนำกองทัพไทยว่า อย่าสร้างศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของกองทัพไทยด้วยการเบ่งกล้ามใส่คนไทยด้วยกันเอง เพราะศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิกองทัพไทยขึ้นอยู่กับว่า ได้ทำหน้าที่ให้คนไทยไว้วางใจและภาคภูมิใจหรือยังต่างหาก

“กองทัพปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่สะสมเรื้อรังมายาวนานไม่เกี่ยวกับกองทัพไทย ที่สำคัญแนวทางการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่กำลังจะทำให้ประเทศไทยพ่ายแพ้ และการปล่อยให้ชาวกัมพูชามาสร้างวัด สร้างโรงเรียน ตั้งหมู่บ้าน ตัดถนนในพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทเขาพระวิหาร ย่อมสะท้อนความบกพร่อง และความไม่ชอบมาพากลในกองทัพไทยได้เป็นอย่างดี” นายสุริยะใส กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น