“เลขาฯ การเมืองใหม่” รับชะตากรรม 7 คนไทยน่าห่วง หลังแนวทางการต่อสู้ของรัฐไม่เป็นเอกภาพ ชี้เขมรส่อใช้ประโยชน์จากคำพูดฝ่ายไทยสู้ในชั้นศาล แถมทนายสู้คดียังมึนจุดยืนไทยจนขาดน้ำหนัก เชื่อแขมร์ใช้เล่ห์เหลี่ยมให้คำพิพากษาส่งผลต่อข้อพิพาทเรื่องดินแดนปกป้องพวกตัวเองล้ำแดน เมินเอ็มโอยู 43 จี้รัฐแถลงจุดยืนคนไทยไม่รุกแดน ยุไทยจับพวกล้ำแดนขึ้นศาลกลับ ไม่แปลก “ฮุนเซน” ทำเฉย
วันนี้ (5 ม.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวถึงกรณีที่ทหารกัมพูชาจับกุม 7 คนไทยที่ จ.สระแก้วว่า ตนคิดว่าชะตากรรมของคนไทยทั้ง 7 คนในขณะนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะถ้าดูแนวทางการต่อสู้ของรัฐบาลไม่ค่อยเป็นเอกภาพ ทั้งในด้านข้อเท็จจริง และจุดยืนเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพเอง ก็ยืนอยู่บนข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน ทำให้ท่าทีของนายกฯ ในเรื่องนี้สับสนและแกว่งไปแกว่งมาจนอาจจะทำให้ทางการกัมพูชาได้ประโยชน์ในชั้นศาล ที่สำคัญทนายความที่รัฐบาลไทยจัดให้นั้นก็อาจจะเกิดความสับสนในจุดยืนของรัฐบาลไทย จนทำให้ขาดน้ำหนักในการต่อสู้คดีความก็เป็นไปได้
“คดีนี้จะเป็นคดีสำคัญ ผมเชื่อว่ากัมพูชากำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมออกแบบให้การต่อสู้ในคดีนี้ เปรียบเสมือนศาลโลกกรายๆ เพื่อให้คำพิพากษาของศาลกัมพูชาครั้งนี้จะส่งผลต่อข้อพิพาทในเรื่องดินแดน ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งกัมพูชาก็จะใช้คำพิพากษาครั้งนี้เป็นข้ออ้างปกป้องพลเมืองตัวเองที่กำลังรุกล้ำดินแดนไทยในหลายพื้นที่ โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงและคำโต้แย้งของรัฐบาลไทย ซึ่งที่ผ่านมาทางการไทยก็ทำได้เพียงคัดค้านโต้แย้งด้วยเอกสารเท่านั้น” นายสุริยะใสกล่าว
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า อย่างน้อยเรื่องนี้รัฐบาลไทยควรออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนให้ชัดเจนต่อรัฐบาลกัมพูชาว่าคนไทยทั้ง 7 ไม่ได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชา เพราะถ้าทางการไทยใช้หลักการเดียวกับกัมพูชาที่จับกุมคนไทยครั้งนี้ เราก็สามารถจับกุมชาวกัมพูชาและชุมชนกัมพูชาอีกหลายพื้นที่ที่รุกล้ำดินแดนไทยจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งทางกัมพูชาก็คงไม่ปรารถนาจะให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ซึ่งถ้อยแถลงที่เป็นทางการเท่านั้นจะเป็นพยานชิ้นสำคัญเพื่อยืนยันในชั้นศาล เพราะเรื่องนี้เมื่อขึ้นศาลกัมพูชาโอกาสที่คนไทยจะได้รับการปล่อยตัวในชั้นศาลคงเป็นเรื่องยาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะไม่รับการติดต่อจากทางการไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะกัมพูชาจะใช้วิธีเดิมคือให้ศาลตัดสินถึงที่สุดแล้วค่อยให้ทางการไทยไปเจรจาเพื่อขอปล่อยตัวทั้ง 7 คน ถึงตอนนั้นทางการไทยก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบหรือจำยอมรับเงื่อนไขกับกัมพูชาอีก ซึ่งกัมพูชาจะยิ่งได้ใจใช้คำตัดสินของศาลในคดีนี้ยกเป็นข้ออ้างปกป้อง พลเมืองกัมพูชาที่รุกล้ำดินแดนไทยอยู่ในหลายๆ พื้นที่ในขณะนี้