00 ไปๆมาๆกรณี 7 คนไทยถูกเขมรจับกุมตัวไปนั้นกลายเป็นว่าสิ่งที่รัฐบาลของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำได้และกำลังทำอยู่ในตอนนี้คือ “ยอมรับผิด” ว่าคนไทยเหล่านั้น “รุกล้ำแดน” เขา และสอง “วิงวอน” ขอความเมตตาให้ปล่อยตัวออกมา และสาม ห้ามคนไทยด้วยกันเคลื่อนไหวรบกวนอารมณ์ “ฮุนเซน” เดี๋ยว “ฯพณฯหัวเจ้าท่าน” โกรธขึ้นมาแล้วจะยุ่งขึ้นไปอีก ดูอาการแล้วทำให้เข้าใจอย่างนั้นจริงๆ ทุด !!
00 ทั้งที่ปัญหายุ่งยากและเสียเปรียบจนยากเยียวยาในเวลานี้ส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากผู้บริหารในบ้านทั้งสิ้น ที่ดันไปด่วนสรุปว่าคนไทยเหล่านั้นไปรุกล้ำแดนเขา โดยเฉพาะรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงขนาดบอกตาม “คลิปเขมร” ว่ารุกล้ำเข้าไปตั้งหลายเมตร หรือแม้แต่กระทรวง “บัวแก้ว” ต่างก็พูดตามคลิปทั้งนั้นแล้วมาสรุปฟันธงเปรี้ยงทันที “บ้าหรือเปล่า(วะ)” นี่หรือคำพูดของของผู้บริหารประเทศที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ทีแก้ตัวเรื่องข้อกล่าวหา “บุกรุก” ที่ดิน “เขาแพง” เกาะสมุย ทำไมมันฉลาดหลักแหลมนัก(วะ) มีเหตุผลรองรับสารพัด ที่สำคัญคือปฏิเสธคอเป็นเอ็นเอาไว้ก่อน
00 แต่ทีเรื่อง 7 คนไทย เดินอยู่ใน “พื้นที่ของไทย” แต่เอาเถอะอย่างมากก็แค่ “พื้นที่พิพาท” ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ทำไมไม่พูดแบบ “แทงกั๊ก” ว่าต้องรอการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน การยอมรับผิดล่วงหน้าแบบนี้มันก็เหมือนเจตนาส่งไปเข้าคุก “ฮุนเซน” นะซี แถมยังมีหน้ามาบอกว่าเวลานี้ผู้นำกัมพูชามัน “หลบหน้า” ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ มันก็แหงอยู่แล้ว เพราะไอ้ “ลูกครึ่งแกว” คนนี้มันรู้ว่าได้เปรียบ ก็ต้องคงสภาพแบบนี้ไปให้นานที่สุด
00 ทางที่ดีควร “หุบปาก” แล้วอยู่นิ่งๆจะดีกว่า เพราะยิ่งพูดแล้วยิ่งแสดงความขี้เท่อแสดงธาตุแท้ออกมา ถามจริงๆเถอะตั้งแต่ทำหน้าที่เป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง ได้เพิ่มความมั่นคงให้กับชาติบ้านเมืองตรงไหนบ้างไหลลองบอกมาให้เห็นภาพหน่อยซิ เอาต่อให้อีก ให้ย้อนกลับไปตั้งแต่เป็น ส.ส.เลยก็ได้ ทียอกย้อนกล่าวหาให้ร้ายคนอื่นว่า “ไม่เคยทำประโยชน์ให้บ้านเมือง” นั่นปากเก่งนัก
00 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวมันยังสะท้อนให้เห็นถึง “ภาวะผู้นำ” ของ นายกฯอภิสิทธิ์ อีกครั้งว่า ยังกุมสภาพไม่ได้ ไม่อาจสั่งการกองทัพที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรมว.กลาโหมได้อย่างเด็ดขาด และที่สำคัญมีคำถามตามมาว่า “ใคร” มีผลประโยชน์ตามแนวชายแดนเอาไว้หรือเปล่า การที่มี “ม็อบชาวบ้าน” ออกมาต่อต้านนั้นมัน “พวกไหน” และ “ใคร” สั่งให้มาดูผิดธรรมชาติ
00 เชื่อว่าหลังจากที่ศาลอาญาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม นั่นคือ “ไม่ให้ปล่อย” 7 หัวโจกแดงออกมาข้างนอกคุกชั่วคราว คงทำให้ “หนาว” กันไปทั้งขบวนการ ทั้งลูกพี่ยันลูกน้อง เพราะเที่ยวนี้หากว่าไปแล้ว “เจ๊ ธิดา ถาวรเศรษฐ” ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงผลักดันทุกทางเพื่อหวังให้ได้ประกันตัวให้ได้ อย่างน้อยต้องได้ตัว “ผัวเหวง” ออกมาก่อนก็ยังดี เพราะถึงขนาดลงทุนไปเจรจากับ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้วิธีเดียวกับ วีระ มุสิกพงศ์ แถมยังอ้างอิงกรมสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อ้างการปรองดอง สารพัด ทำกันเต็มที่ แต่ผลออกมาอย่างที่เห็น เป็นใครก็ย่อมใจฝ่อ โดยเฉพาะบรรดาหัวโจกทั้งหลายความ “รู้สึกเท่” แบบ “วีรบุรุษ” มวลชนคงหดหายไป เพราะงานนี้ดูแล้ว “ยาว”
00 เริ่มแพลมออกมาให้ชัดขึ้นเรื่อยๆว่า แคดิเดต “หัว” พรรคเพื่อไทยคนใหม่ เอ่ยปากมาจาก ประชา ประสพดี บอกว่า มีอยู่ “สองตัว” เอ้ย สองคนคือ “ดร.โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวแม้ว ก็ไม่อยากเดาให้รำคาญ เพราะไม่มีแก่นสารให้จดจำอะไร แต่เอาเป็นว่าในที่สุดหวยก็ออกที่ คนหลังนั่นแหละ ทำเป็นแข่งขันให้ดูน่าติดตาม ทั้งที่ “ไอ้เหลี่ยมจัด” มันสรุปไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่านี่เป็น “ธุรกิจการเมืองของครอบครัว” เท่านั้น คนอื่นเป็นได้แค่ลูกจ้างหรือ ลูกน้อง บริวารเท่านั้น !!
00 ทั้งที่ปัญหายุ่งยากและเสียเปรียบจนยากเยียวยาในเวลานี้ส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากผู้บริหารในบ้านทั้งสิ้น ที่ดันไปด่วนสรุปว่าคนไทยเหล่านั้นไปรุกล้ำแดนเขา โดยเฉพาะรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงขนาดบอกตาม “คลิปเขมร” ว่ารุกล้ำเข้าไปตั้งหลายเมตร หรือแม้แต่กระทรวง “บัวแก้ว” ต่างก็พูดตามคลิปทั้งนั้นแล้วมาสรุปฟันธงเปรี้ยงทันที “บ้าหรือเปล่า(วะ)” นี่หรือคำพูดของของผู้บริหารประเทศที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ทีแก้ตัวเรื่องข้อกล่าวหา “บุกรุก” ที่ดิน “เขาแพง” เกาะสมุย ทำไมมันฉลาดหลักแหลมนัก(วะ) มีเหตุผลรองรับสารพัด ที่สำคัญคือปฏิเสธคอเป็นเอ็นเอาไว้ก่อน
00 แต่ทีเรื่อง 7 คนไทย เดินอยู่ใน “พื้นที่ของไทย” แต่เอาเถอะอย่างมากก็แค่ “พื้นที่พิพาท” ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ทำไมไม่พูดแบบ “แทงกั๊ก” ว่าต้องรอการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน การยอมรับผิดล่วงหน้าแบบนี้มันก็เหมือนเจตนาส่งไปเข้าคุก “ฮุนเซน” นะซี แถมยังมีหน้ามาบอกว่าเวลานี้ผู้นำกัมพูชามัน “หลบหน้า” ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ มันก็แหงอยู่แล้ว เพราะไอ้ “ลูกครึ่งแกว” คนนี้มันรู้ว่าได้เปรียบ ก็ต้องคงสภาพแบบนี้ไปให้นานที่สุด
00 ทางที่ดีควร “หุบปาก” แล้วอยู่นิ่งๆจะดีกว่า เพราะยิ่งพูดแล้วยิ่งแสดงความขี้เท่อแสดงธาตุแท้ออกมา ถามจริงๆเถอะตั้งแต่ทำหน้าที่เป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง ได้เพิ่มความมั่นคงให้กับชาติบ้านเมืองตรงไหนบ้างไหลลองบอกมาให้เห็นภาพหน่อยซิ เอาต่อให้อีก ให้ย้อนกลับไปตั้งแต่เป็น ส.ส.เลยก็ได้ ทียอกย้อนกล่าวหาให้ร้ายคนอื่นว่า “ไม่เคยทำประโยชน์ให้บ้านเมือง” นั่นปากเก่งนัก
00 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวมันยังสะท้อนให้เห็นถึง “ภาวะผู้นำ” ของ นายกฯอภิสิทธิ์ อีกครั้งว่า ยังกุมสภาพไม่ได้ ไม่อาจสั่งการกองทัพที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรมว.กลาโหมได้อย่างเด็ดขาด และที่สำคัญมีคำถามตามมาว่า “ใคร” มีผลประโยชน์ตามแนวชายแดนเอาไว้หรือเปล่า การที่มี “ม็อบชาวบ้าน” ออกมาต่อต้านนั้นมัน “พวกไหน” และ “ใคร” สั่งให้มาดูผิดธรรมชาติ
00 เชื่อว่าหลังจากที่ศาลอาญาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม นั่นคือ “ไม่ให้ปล่อย” 7 หัวโจกแดงออกมาข้างนอกคุกชั่วคราว คงทำให้ “หนาว” กันไปทั้งขบวนการ ทั้งลูกพี่ยันลูกน้อง เพราะเที่ยวนี้หากว่าไปแล้ว “เจ๊ ธิดา ถาวรเศรษฐ” ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงผลักดันทุกทางเพื่อหวังให้ได้ประกันตัวให้ได้ อย่างน้อยต้องได้ตัว “ผัวเหวง” ออกมาก่อนก็ยังดี เพราะถึงขนาดลงทุนไปเจรจากับ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้วิธีเดียวกับ วีระ มุสิกพงศ์ แถมยังอ้างอิงกรมสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อ้างการปรองดอง สารพัด ทำกันเต็มที่ แต่ผลออกมาอย่างที่เห็น เป็นใครก็ย่อมใจฝ่อ โดยเฉพาะบรรดาหัวโจกทั้งหลายความ “รู้สึกเท่” แบบ “วีรบุรุษ” มวลชนคงหดหายไป เพราะงานนี้ดูแล้ว “ยาว”
00 เริ่มแพลมออกมาให้ชัดขึ้นเรื่อยๆว่า แคดิเดต “หัว” พรรคเพื่อไทยคนใหม่ เอ่ยปากมาจาก ประชา ประสพดี บอกว่า มีอยู่ “สองตัว” เอ้ย สองคนคือ “ดร.โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวแม้ว ก็ไม่อยากเดาให้รำคาญ เพราะไม่มีแก่นสารให้จดจำอะไร แต่เอาเป็นว่าในที่สุดหวยก็ออกที่ คนหลังนั่นแหละ ทำเป็นแข่งขันให้ดูน่าติดตาม ทั้งที่ “ไอ้เหลี่ยมจัด” มันสรุปไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่านี่เป็น “ธุรกิจการเมืองของครอบครัว” เท่านั้น คนอื่นเป็นได้แค่ลูกจ้างหรือ ลูกน้อง บริวารเท่านั้น !!
