xs
xsm
sm
md
lg

ก.ม.ม.ชี้ เกมแก้ รธน.แค่ปาหี่ หวังกลบข่าว 7 คนไทย เชื่อสุดท้ายผลประโยชน์ลงตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา
“สุริยะใส” ตอกหน้า รบ.แก้ รธน.แค่ปาหี่พรรคร่วมฯ เชื่อคุยกันได้หากผลประโยชน์ลงตัว อัดแก้ รธน.เพื่อประโยชน์นักการเมืองกันเอง ปิดโอกาสตัวแทนภาค ปชช.ที่แท้จริงเข้าสภา ชี้ ระบบปาร์ตี้ลิสต์แค่ระบบจัดโควตาเก้าอี้ รมต.ปูดพรรคร่วมฯเถียงกันฝุ่นตลบ หวังกลบข่าวช่วย 7 คนไทยล้มเหลว


วันนี้ (16 ม.ค.) ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาลในกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคการเมืองใหม่ เห็นว่า ปัญหาเรื่องสูตรและสัดส่วนของระบบเลือกตั้งที่ยังไม่ลงตัวกันในประเด็นจำนวนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.ระบบเขตนั้น เป็นเพียงปาหี่ในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเชื่อว่า ปัญหานี้จะไม่บานปลาย จนกลายเป็นความแตกแยกในรัฐบาล เพราะสุดท้ายก็จะสามารถเจรจาและไกล่เกลี่ยผลประโยชน์กันได้ในที่สุด เฉกเช่น กรณีรถเมล์เอ็นจีวี หรือกรณีแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ยังสะท้อนชัดเจนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยนักการเมือง ที่ต้องการแค่ผลประโยชน์และส่วนได้เสียของนักการเมืองเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าสัดส่วนของ ส.ส.ทั้ง 2 รูปแบบจะใช้สูตร 400 ต่อ 100 หรือ 375 ต่อ 125 ก็ตาม ไม่ได้มีหลักประกันใดๆ ว่า ตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ คนด้อยโอกาสในสังคม จะได้รับโอกาสเข้ามามีที่นั่งในสภาแต่อย่างใด และปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข คือ การทุจริตเลือกตั้ง และคุณภาพของ ส.ส. ที่ยังไม่สามารถสะท้อนความแตกต่างระหว่างผู้แทนที่มาจากระบบบัญชีรายชื่อหรือระบบเขตแต่อย่างใด

“การที่รัฐธรรมนูญแยก ส.ส.เป็น 2 แบบนั้น ต้องให้คนดีมีความรู้ความสามารถได้เข้ามาทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส.สัดส่วน ขณะที่ ส.ส.เขตก็เป็นเรื่องการดูแลประชาชนในพื้นที่นั้นๆ แต่ที่ผ่านมากลับมีการใช้ระบบอย่างไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยมักนำบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วน ส.ส.เขตก็ทำหน้าที่ในสภาไป จึงเป็นเพียงวิธีการจัดโควต้าของพรรคการเมืองใหญ่ๆเท่านั้นเอง” นายสุริยะใส กล่าว

เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ความขัดแย้งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นแค่ฉากกลบข่าวความไม่เอาไหนของรัฐบาลไทยกรณีช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมจากทางการกัมพูชาในขณะนี้ ซึ่งสภาควรเร่งพิจารณาร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยตรงจะเหมาะสมกว่า โดยเฉพาะกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ยังไม่ได้ตราขึ้นอีกนับ 100 ฉบับ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายเดิมที่ใช้มาหลายสิบปี ซึ่งมีเนื้อหาสาระที่ขัดแย้งหรือไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอีกจำนวนมาก

กำลังโหลดความคิดเห็น