“ปชป.ใต้” ระส่ำ หวั่นเลือกตั้งสูตรใหม่ทำขาลอย อิดออดลงบัญชีรายชื่อ จี้ กกต.รีบแบ่งเขตพื้นที่หลัง รธน.ผ่านวาระ 3 “น้องจุรินทร์” เตรียมทำใจหากถูกโยกลงสัดส่วน เชื่อไม่ทำพรรคแตก
วันนี้ (1 ก.พ.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมการปกครองเตรียมพร้อมกับการเลือกตั้ง ส.ส.ภายใต้สูตร 375+125 ด้วยการแบ่งเขตการเลือกตั้งให้ชัดเจน แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะกำหนดให้มีการแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.แต่ก็ให้เวลาในการจัดทำกฎหมายภายใน 1 ปี และ กกต.เองก็ยืนยันว่า สามารถจะใช้ประกาศของ กกต.มาแทนกฎหมายลูกได้ทันที หากมีเหตุการณ์ยุบสภาในเร็วๆ นี้ ดังนั้น จึงอยากให้เร่งดำเนินการออกมาโดยเร็ว หลังจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 เพราะขณะนี้ปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งกำลังสร้างปัญหาให้กับทุกพรรคการเมือง เนื่องจากการแบ่งเขตใหม่อาจจะต้องมีการเฉือนบางพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่เดิมของ ส.ส.จึงอาจต้องไปเร่งทำพื้นที่ใหม่ ทำให้ต้องได้รับความลำบากพอสมควร จึงต้องการความชัดเจนเพื่อเตรียมคัดสรรผู้สมัครและเตรียมลงพื้นที่หาเสียง
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ในฐานะประธาน ได้กำหนดกรอบกระบวนการการเลือกตั้งและยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการจัดเตรียมผู้สมัครที่ต้องรอการแบ่งเขตจาก กกต.ให้มีความชัดเจนก่อน ส่วนที่สองนโยบายการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีการเน้นประเด็นเศรษฐกิจ โดยให้โฟกัสกรณีการแก้ปัญหาของแพงที่รัฐบาลชุดนี้ อาจจะแก้ปัญหาได้ไม่ทันก่อนการยุบสภา จึงขออาสาแก้ปัญหาในรัฐบาลหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมพรรคบรรดาส.ส.ที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ใช้สูตร 375+125 ต่างแสดงความวิตกกังวล ซึ่งในที่ประชุมกำหนดยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง มีการหารือถึงปัญหาของสมาชิกบางคน ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการแก้รัฐธรรมนูญใหม่ โดย นายกอร์ปศักดิ์ ระบุว่า หากใครมีปัญหาก็สามารถไปลงในระบบสัดส่วนได้ ซึ่งส.ส.ส่วนใหญ่จากภาคใต้หลายคนเกรงมีความลำบากใจ เพราะไม่อยากไปลงสมัครในระบบสัดส่วน เพราะกลัวปัญหาขาลอย ไม่มีพื้นที่ให้ลงไปทำงาน อย่างไรก็ตาม ทาง ส.ส.แต่ละพื้นที่ต้องไปตกลงกัน และต้องรอให้ กกต.ประกาศแบ่งเขตชัดเจนอีกครั้ง
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเห็นกรณีที่มีกระแสข่าว ว่า ตนเองอาจจะถูกโยกไปอยู่ในระบบสัดส่วน เพราะทำพื้นที่ไม่ดีนัก ว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ขอออกความคิดเห็น ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังไม่เสร็จเป็นที่เรียบร้อย แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด อย่างไรก็ดี หากมติพรรคออกมาอย่างไรตนก็พร้อมยอมรับ
“การที่จะถูกย้ายไปในระบบสัดส่วนหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาหรือเรื่องใหญ่สำหรับ ส.ส.ไม่ว่าจะอยู่ในระบบไหนก็ต้องทำงานเพื่อประชาชนได้เหมือนกัน ขณะนี้กติกาทุกอย่างยังไม่นิ่ง หากไปสรุปเรื่องนี้ก่อนก็อาจจะเกิดความเสียหายต่อพรรคได้ อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์มีระบบเป็นของตัวเอง และเชื่อว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อพรรค” นายจุฤทธิ์ กล่าว
นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ กล่าวว่า อาจถึงขั้นจับสลากเพื่อขึ้นไปอยู่ระบบสัดส่วน ตนคิดว่าควรให้ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ ไปอยู่ระบบสัดส่วน เพราะเป็นน้องหลังสุด
นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวยืนยันว่า มี ส.ส.ในพื้นที่ที่ต้องการขึ้นระบบสัดส่วน แต่ไม่ใช่ นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช แต่ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะบริหารของพรรคประชาธิปัตย์