ที่ประชุม ครม.อนุมัติแก้ไขกฎกระทรวง “มท.” เดินหน้าจัดทำ “สมาร์ทการ์ด” แล้ว ชี้กลุ่มก่อความไม่สงบ เข้าโจมฐานทหารระแงะ เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการประชุมโอไอซี ยืดใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน ตั้ง “สาทิตย์” ดูระเบียบเดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็งปี 55 เร่งผลักดัน “พ.ร.บ.สัญชาติ” เข้าสภา 15 ก.พ.ไฟเขียวเพิ่มงบ “พนักงานสืบสวน-สอบสวน” มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ธ.ค.53
วันนี้ (1 ก.พ.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาล แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.ได้เห็นชอบการเสนอแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทย ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอให้แก้ไขกฎกระทรวง ฉบับที่... พ.ศ.... ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526 ที่ตรวจพิจารณาแล้ว และ ครม.เห็นชอบตามกฎกระทรวงดังกล่าว ซึ่งจะใช้บัตรสมาร์ทการ์ดได้ภายใน 2 เดือน
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกกล่าววว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เสนอสรุปผลการประชุมด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เสนอให้ ครม.จากผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2554 และเห็นชอบตามมติ กพต. ตามที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรรมการและเลขานุการ กพต.เสนอ ตาม พ.ร.บ.ศอ.บต.มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.53 ครม.มีมติให้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ขยายออกไปอีก 3 เดือน ยกเว้นอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ให้ยกเลิกเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.53 นอกจากนี้ ได้ดำเนินการกดปุ่มโอนเงินตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนระดับหมู่บ้าน จังหวัดชายแดนภาคใต้ (พนม.) จำนวน 2,248 หมู่บ้านๆ ละ 228,000 บาท
นายศุภชัยกล่าวด้วยว่า จากรายงานของคณะกรรมการ กพต. รายงานถึงสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ด้วยว่า เมื่อคืนวันที่ 19 มกราคม 2554 ได้เกิดเหตุการณ์โจมตีฐานปฏิบัติการทหารในพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่โดยสภาพของภูมิประเทศ และเป็นพื้นที่ที่ยังมีความถี่ค่อนข้างสูง ขณะเดียวกัน จังหวะเวลาเกี่ยวข้องกับเรื่องการประชุมขององค์การการประชุมอิสลาม หรือ OIC โดยปกติพอใกล้การประชุม มักมีความพยายามที่จะก่อเหตุ หรือยั่วยุให้เกิดการตอบโต้ด้วยความรุนแรงเพื่อนำไปใช้เป็นเงื่อนไข เราต้องไม่หลงกลฝ่ายตรงข้าม และรัฐบาลยืนยันการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี
นายศุภชัยกล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯไปดูระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปี 55 โดยกำชับว่าเป็นอำนาจของคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (รชต.) เมื่อมี กพต.ชุดนี้แล้วจะต้องไม่มีคณะกรรมการอื่นซ้ำซ้อนกัน ซึ่งองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ กพต. ตามมาตรา 6 และ 7 แห่งพระราชบัญญัติการ พ.ร.บ.บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553
เอกสารชี้แจงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ กพต. มีดังนี้ 1.นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นรองประธานกรรมการ และรมต.ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาฯ สมช. สำนักงบประมาณ เลขาฯ กอ.รมน. ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนภาคประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับการคัดเลือกโดยสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกรรมการ และมีเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นกรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ส่วนอำนาจหน้าที่ให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แผนงาน โครงการ และการจัดตั้งงบประมาณ การกำหนดเขตพัฒนาพิเศษ การเสนอแนะหน่วยงานของรัฐให้จัดทำแผนพัฒนา แผนงาน และโครงการ การกำกับ เร่งรัด ติดตาม แก้ไขกฎระเบียบ และลดขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ การเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือปฏิบัติงาน และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด
นายศุภชัยยังกล่าวอีกว่า ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.สัญชาติ ฉบับ ... พ.ศ.... ตามที่เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง ได้ยื่นข้อเสนอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้แก้ไขเรื่องสัญชาติของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ลาวอพยพ มุสลิมจากมะริด และกลุ่มคนไร้สัญชาติ ซึ่งเรียกร้องให้ดำเนินการเร่งรัดผลักดันร่าง พ.ร.บ.สัญชาติ ตามฉบับที่กรรมาธิการพัฒนาการเมือง และการสื่อมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน เข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งนายกฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา
นายศุภชัยกล่าวว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อ ครม.และคาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้ และประสานกับวิปรัฐบาล เพื่อหยิบยกเรืองดังกล่าวเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นอกจากนี้ ครม.อนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอ ครม.ขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณเพิ่มเป็นกรณีพิเศษต่อพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้แก้ไขระเบียบ ก.ตร.เพื่อแก้ไขกรณีพิเศษพนักงานสืบสวน สอบสวน โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.53 เป็นต้นไป โดยใช้งบประมาณจากงบบุคลากรที่มีอัตราว่างในปีงบประมาณ ปี 54 และแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และขอความเห็นชอบต่อกระทรวงการคลังเพื่อให้มีผลบังคับใช้ วันที่ 1 ธ.ค.53 เป็นต้นไป
ด้าน นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกรัฐบาล แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.ได้อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ที่เกี่ยวข้องกับ ธ.ก.ส. และกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร โดยเริ่มพัฒนาเกษตรกรที่มีสถานะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 8 หมื่นราย มีความติดขัดต่อระเบียบบางประการของ ธ.ก.ส. ครม.อนุมัติให้มีการแก้ไข ซึ่งจะปรับโครงสร้างหนี้ คือ 1.พักชำระเงินต้นครึ่งหนึ่งของจำนวนหนี้ทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ย 2.ให้มีการจ่ายตามงวด ระยะไม่เกิน 15 ปี ซึ่งการแก้ไขให้ถือเป็นงบการเงินทางธุรกรรมของรัฐ หรือ พีเอชเอ และขณะเดียวกันหาก ธ.ก.ส.มีความเสียหาย สูญเสียรายได้ รัฐจะเป็นผู้รับรอง ทำหน้าที่รับรองความเสียหาย
นายวัชระกล่าวด้วยว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้ตั้งข้อสังเกตต่อ ครม.ว่า เวลารับสมาชิกใหม่ของกองทุนฟื้นฟู ให้ประสานธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้และติดต่อข้อมูล ของบุคคลที่ต้องการมาสมัครสมาชิกกองทุนฯ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีที่เกษตรกรบางรายใช้ประโยชน์ต่อกรณีดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
