ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ญาติเศร้ารับร่างไร้วิญญาณ "ผู้กองกฤช" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์โปรดเกล้าฯให้ “ประยุทธ์”วางพวงมาลาหน้าหีบศพ"ร.อ.กฤช"พระราชทานเพลิงศพ 29 ม.ค.ขณะที่กองทัพบกปูนบำเหน็จ 9 ขั้นพร้อม 3 นายทหาร และเครื่องราชฯ ด้าน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแจงปืนหายไม่ถึง 60 กระบอก ด้านโจรใต้ยังป่วนไม่หยุด
เมื่อเวลา13.00 น.วานนี้ (21 ม.ค.)ที่บริเวณท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้เป็นประธานในพิธีรับศพ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อความรุนแรงราว 30-40 คนบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ กองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 หมู่ที่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย คือ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ส.อ.เทวรัตน์ เทวา หัวหน้าชุดยิงหมู่ปืนเล็ก ส.ท.อับดุลเล๊าะ ด๊ะหยี หัวหน้าชุดยิงหมู่ปืนเล็ก พลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น พลวิทยุ และบาดเจ็บอีก 6 นาย
สำหรับบรรยากาศในพิธีรับศพ มีทหารกองเกียรติยศ กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 จำนวน 1 กองร้อย พร้อมด้วย พล.ท.สุนทร คัมภีรญาณ และนางสุมลมาศ คัมภีรญาณ บิดาและมารดา พร้อมญาติพี่น้องที่มารอรับศพของ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับการสูญเสียบุคคลสำคัญของครอบครัวไป
โดย พล.ท.สุนทร บิดาของ ร.อ.กฤช เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชายและจะมีการเตือนทุกครั้งที่มีการ โทรศัพท์คุยกัน ก่อนเสียชีวิตก็เหมือนมีลางบอก แต่ก็เฝ้าเตือนให้ใช้ชีวิตอย่าประมาท และก่อนเสียชีวิตลูกชายได้บอกกับตนว่า กำลังจะเรียนจบปริญญาเอก และ เตรียมเข้าเรียนที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก จากนั้นนำ ศพ ร.อ.กฤช ไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ต่อไป
**ในหลวงพระราชทานพวงมาลา
ต่อมาเวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เชิญพวงมาลาหลวงและพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ ไปวางที่หน้าหีบศพ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ณ ศาลาทักษิณาประดิษฐ์ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน โดยมีพิธีสวดอภิธรรมศพ 7 วัน(งดวันที่ 28ม.ค.)และจะพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 ม.ค.54
และในเวลา 19.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เชิญพวงมาลาหลวงและพวงมาลาของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ ไปวางที่หน้าหีบศพ ส.อ.เทวรัตน์ เทวา หัวหน้าชุดยิงหมู่ปืนเล็ก ณ วัดวังเย็น จ.กาญจนบุรี
สำหรับศพ ส.อ.อัลดุลเล๊าะ ด๊ะหยี ได้ทำพิธีฝั่งไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาที่กุโบร์บ้านริแง ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่วนพลทหารประวิทย์ ได้มีการเคลื่อนย้ายไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดลีลานนท์ อ.สุคิริน จ.นราธิวาสแล้ว
**กองทัพบกปูนบำเหน็จ 9 ขั้น
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวกองทัพบกถือว่า เป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า เป็นผู้มีความเสียสละมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้เสียชีวิตทุกนายจะได้รับการปูนบำเหน็จ 9 ขั้นและได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น โดย ร.อ.กฤช จะได้เลื่อยยศเป็นพันเอก และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้น ต.ช.(ตริตาภรณ์ช้างเผือก)
ส่วน ส.อ.เทวรัตน์ และ ส.ท.อับดุลเล๊าะ จะได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอก และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น บ.ม.(เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย) พลทหารประวิทย์ ได้เลื่อนยศเป็นร้อยตรี และได้รับอิสริยาภรณ์ บ.ม.(เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย)
นอกจากนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิทางราชการ ได้แก่ เงินสินไหมทดแทนในประกันชีวิตแบบภัยสงคราม เงินณาปณกิจสงเคราะห์ เงินเยียวยาจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นต้น อย่างไรก็ตาม กองทัพบกขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่านที่ สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ทั้งนี้จะให้การดูแลช่วยเหลือครอบครัวในทุกๆด้านต่อไป
**กอ.รมน.ภาค4แจงปืนหาย20กระบอก
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4)ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหาร หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงบางประเด็นจากกรณีการนำเสนอข่าว ข้อมูลกรณีสงสัยว่า ผู้ก่อเหตุได้ตัดกระแสไฟฟ้าภายในฐานปฏิบัติการก่อนก่อเหตุนั้น ได้ตรวจสอบพบว่า กระแสไฟฟ้ายังใช้ได้ตามปกติ
สำหรับกรณีที่อาวุธปืนได้หายไปและมีข้อสงสัยว่า มีจำนวนเท่าไรนั้น ในเบื้องต้นเชื่อว่า มีปืนที่เป็นของทางราชการถูกคนร้ายหยิบฉวยไปประมาณ 20 กว่ากระบอก ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นผู้แจ้งความเคลื่อนไหวกับฝ่ายคนร้ายจะมีการตรวจสอบในประเด็นดังกล่าวต่อไปเช่นกัน
โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้เชิญตัวชาวบ้าน 7 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวนเบื้องต้น โดยหลังการตรวจสอบได้ส่งบุคคลกลุ่มดังกล่าว 6 คนกลับบ้านไปแล้วเหลือไว้เพียง 1 คน
**มทภ.4สั่งสอบ5ผู้ต้องสงสัยยิงถล่ม
ทางด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่า เป็นกลุ่มของนายมะแซ อุเซ็ง แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่ รวมถึงเรื่องเกลือเป็นหนอนที่กำลังมีการตั้งข้อสงสัยจากหลายฝ่าย โดยหลังจากนี้จะมีการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก
"ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะมีช่องว่างทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุได้ เพราะมีบางช่วงที่มีการจัดกิจกรรมมวลชน ซึ่งทำให้คนนอกสามารถเข้ามาในฐานได้ โดยที่ผ่านมา ทหาร โดยเฉพาะ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121ซึงเป็นที่รักของชาวบ้าน อาจเป็นช่องว่างให้คนร้ายก่อเหตุได้ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องโยกย้ายฐานที่ตั้งไปที่อื่น แต่จะมีการปรับเปลี่นมาตรการ เพื่อลดช่องว่าง ส่วนเรื่องอาวุธหาย ขณะนี้กำลังตรวจสอบ"
**“เทือก”รูดซิบปากอาวุธปืนหายเพียบ
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มโจรใต้ลอบยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหารว่า เขากำลังปฏิบัติการกันอยู่อย่าไปกดดันให้เขาได้ปฏิบัติหน้าที่ เดี๋ยวเขาส่งรายละเอียดมาตนจะรายงานให้ทราบ
ส่วนที่มีข่าวว่าคนร้ายขโมยเครื่องกระสุนไป 5 พันนัด พร้อมอาวุธปืนกลและอาก้า 50-60 กระบอกเพื่อเตรียมไปปฏิบัติการก่อการร้ายอีกครั้งในเดือนก.พ.-มี.ค.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่สั่งรายละเอียดรายงานมาให้ทราบก่อน แล้วจะรายงานให้สื่อมวลชนทราบ หากพูดไปก่อนจะถูกหาว่ายกเมฆ
**โจรใต้ป่วนไม่หยุด-จนท.เจ็บอีกอื้อ
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบวานนี้ (21) ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงเวลาประมาณ 09.00 น.กลุ่มคนร้ายได้ลอบวางระเบิดบริเวณโรงเรียนป่าบอน หมู่ที่ 1 ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยครู ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ คือ ด.ต.อุดม กาเซ็ม อายุ 43 ปีและ จ.ส.ต.บุครี มิหนา อายุ 38 ปีทั้งสองสังกัด ผบ.หมู่ ป.สภ.โคกโพธิ์ มีบาดแผลบริเวณใบหน้า ลำตัว และแน่นหน้าอกเนื่องจากแรงกระแทก หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งเพิ่มความเข้มในการรักษาความสงบไปทั่วทั้งจังหวัด
ต่อมาเวลา 14.20 น.กลุ่มคนร้ายได้ยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิตอีก 1 นาย คือ อส.ทพ.มะนาแซ มีซา อายุ 30 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43-17 อยู่บ้านเลขที่ 19/2 บ้านจางา ม.2 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยเหตุเกิดที่บริเวณเชิงสะพานกอแลบีเละ ม.6 ต.ปะกาฮารัง ขณะที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์กลับจากทำละหมาดที่มัสยิดเพื่อกลับบ้านพักเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามหลังแล้วชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต.
เมื่อเวลา13.00 น.วานนี้ (21 ม.ค.)ที่บริเวณท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้เป็นประธานในพิธีรับศพ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อความรุนแรงราว 30-40 คนบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ กองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 หมู่ที่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย คือ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ส.อ.เทวรัตน์ เทวา หัวหน้าชุดยิงหมู่ปืนเล็ก ส.ท.อับดุลเล๊าะ ด๊ะหยี หัวหน้าชุดยิงหมู่ปืนเล็ก พลทหารประวิทย์ ชูกลิ่น พลวิทยุ และบาดเจ็บอีก 6 นาย
สำหรับบรรยากาศในพิธีรับศพ มีทหารกองเกียรติยศ กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 จำนวน 1 กองร้อย พร้อมด้วย พล.ท.สุนทร คัมภีรญาณ และนางสุมลมาศ คัมภีรญาณ บิดาและมารดา พร้อมญาติพี่น้องที่มารอรับศพของ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับการสูญเสียบุคคลสำคัญของครอบครัวไป
โดย พล.ท.สุนทร บิดาของ ร.อ.กฤช เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชายและจะมีการเตือนทุกครั้งที่มีการ โทรศัพท์คุยกัน ก่อนเสียชีวิตก็เหมือนมีลางบอก แต่ก็เฝ้าเตือนให้ใช้ชีวิตอย่าประมาท และก่อนเสียชีวิตลูกชายได้บอกกับตนว่า กำลังจะเรียนจบปริญญาเอก และ เตรียมเข้าเรียนที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก จากนั้นนำ ศพ ร.อ.กฤช ไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ต่อไป
**ในหลวงพระราชทานพวงมาลา
ต่อมาเวลา 17.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เชิญพวงมาลาหลวงและพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ ไปวางที่หน้าหีบศพ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ณ ศาลาทักษิณาประดิษฐ์ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน โดยมีพิธีสวดอภิธรรมศพ 7 วัน(งดวันที่ 28ม.ค.)และจะพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 ม.ค.54
และในเวลา 19.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เชิญพวงมาลาหลวงและพวงมาลาของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ ไปวางที่หน้าหีบศพ ส.อ.เทวรัตน์ เทวา หัวหน้าชุดยิงหมู่ปืนเล็ก ณ วัดวังเย็น จ.กาญจนบุรี
สำหรับศพ ส.อ.อัลดุลเล๊าะ ด๊ะหยี ได้ทำพิธีฝั่งไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาที่กุโบร์บ้านริแง ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่วนพลทหารประวิทย์ ได้มีการเคลื่อนย้ายไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดลีลานนท์ อ.สุคิริน จ.นราธิวาสแล้ว
**กองทัพบกปูนบำเหน็จ 9 ขั้น
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวกองทัพบกถือว่า เป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า เป็นผู้มีความเสียสละมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้เสียชีวิตทุกนายจะได้รับการปูนบำเหน็จ 9 ขั้นและได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น โดย ร.อ.กฤช จะได้เลื่อยยศเป็นพันเอก และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้น ต.ช.(ตริตาภรณ์ช้างเผือก)
ส่วน ส.อ.เทวรัตน์ และ ส.ท.อับดุลเล๊าะ จะได้เลื่อนยศเป็นร้อยเอก และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น บ.ม.(เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย) พลทหารประวิทย์ ได้เลื่อนยศเป็นร้อยตรี และได้รับอิสริยาภรณ์ บ.ม.(เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย)
นอกจากนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิทางราชการ ได้แก่ เงินสินไหมทดแทนในประกันชีวิตแบบภัยสงคราม เงินณาปณกิจสงเคราะห์ เงินเยียวยาจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นต้น อย่างไรก็ตาม กองทัพบกขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่านที่ สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ทั้งนี้จะให้การดูแลช่วยเหลือครอบครัวในทุกๆด้านต่อไป
**กอ.รมน.ภาค4แจงปืนหาย20กระบอก
ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4)ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหาร หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 38 ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงบางประเด็นจากกรณีการนำเสนอข่าว ข้อมูลกรณีสงสัยว่า ผู้ก่อเหตุได้ตัดกระแสไฟฟ้าภายในฐานปฏิบัติการก่อนก่อเหตุนั้น ได้ตรวจสอบพบว่า กระแสไฟฟ้ายังใช้ได้ตามปกติ
สำหรับกรณีที่อาวุธปืนได้หายไปและมีข้อสงสัยว่า มีจำนวนเท่าไรนั้น ในเบื้องต้นเชื่อว่า มีปืนที่เป็นของทางราชการถูกคนร้ายหยิบฉวยไปประมาณ 20 กว่ากระบอก ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นผู้แจ้งความเคลื่อนไหวกับฝ่ายคนร้ายจะมีการตรวจสอบในประเด็นดังกล่าวต่อไปเช่นกัน
โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้เชิญตัวชาวบ้าน 7 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวนเบื้องต้น โดยหลังการตรวจสอบได้ส่งบุคคลกลุ่มดังกล่าว 6 คนกลับบ้านไปแล้วเหลือไว้เพียง 1 คน
**มทภ.4สั่งสอบ5ผู้ต้องสงสัยยิงถล่ม
ทางด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่า เป็นกลุ่มของนายมะแซ อุเซ็ง แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่ รวมถึงเรื่องเกลือเป็นหนอนที่กำลังมีการตั้งข้อสงสัยจากหลายฝ่าย โดยหลังจากนี้จะมีการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก
"ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะมีช่องว่างทำให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุได้ เพราะมีบางช่วงที่มีการจัดกิจกรรมมวลชน ซึ่งทำให้คนนอกสามารถเข้ามาในฐานได้ โดยที่ผ่านมา ทหาร โดยเฉพาะ ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 15121ซึงเป็นที่รักของชาวบ้าน อาจเป็นช่องว่างให้คนร้ายก่อเหตุได้ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องโยกย้ายฐานที่ตั้งไปที่อื่น แต่จะมีการปรับเปลี่นมาตรการ เพื่อลดช่องว่าง ส่วนเรื่องอาวุธหาย ขณะนี้กำลังตรวจสอบ"
**“เทือก”รูดซิบปากอาวุธปืนหายเพียบ
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มโจรใต้ลอบยิงถล่มฐานปฏิบัติการทหารว่า เขากำลังปฏิบัติการกันอยู่อย่าไปกดดันให้เขาได้ปฏิบัติหน้าที่ เดี๋ยวเขาส่งรายละเอียดมาตนจะรายงานให้ทราบ
ส่วนที่มีข่าวว่าคนร้ายขโมยเครื่องกระสุนไป 5 พันนัด พร้อมอาวุธปืนกลและอาก้า 50-60 กระบอกเพื่อเตรียมไปปฏิบัติการก่อการร้ายอีกครั้งในเดือนก.พ.-มี.ค.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่สั่งรายละเอียดรายงานมาให้ทราบก่อน แล้วจะรายงานให้สื่อมวลชนทราบ หากพูดไปก่อนจะถูกหาว่ายกเมฆ
**โจรใต้ป่วนไม่หยุด-จนท.เจ็บอีกอื้อ
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบวานนี้ (21) ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยช่วงเวลาประมาณ 09.00 น.กลุ่มคนร้ายได้ลอบวางระเบิดบริเวณโรงเรียนป่าบอน หมู่ที่ 1 ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัยครู ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ คือ ด.ต.อุดม กาเซ็ม อายุ 43 ปีและ จ.ส.ต.บุครี มิหนา อายุ 38 ปีทั้งสองสังกัด ผบ.หมู่ ป.สภ.โคกโพธิ์ มีบาดแผลบริเวณใบหน้า ลำตัว และแน่นหน้าอกเนื่องจากแรงกระแทก หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งเพิ่มความเข้มในการรักษาความสงบไปทั่วทั้งจังหวัด
ต่อมาเวลา 14.20 น.กลุ่มคนร้ายได้ยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิตอีก 1 นาย คือ อส.ทพ.มะนาแซ มีซา อายุ 30 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43-17 อยู่บ้านเลขที่ 19/2 บ้านจางา ม.2 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยเหตุเกิดที่บริเวณเชิงสะพานกอแลบีเละ ม.6 ต.ปะกาฮารัง ขณะที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์กลับจากทำละหมาดที่มัสยิดเพื่อกลับบ้านพักเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามหลังแล้วชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต.