ยะลา - พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมติดตามสถานการณ์ และกำชับเร่งไล่ล่าโจรใต้ถล่มฐานทหารพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติให้แก่หน่วยต่างๆ ในพื้นที่
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ อาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ.สุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.(ปป.4) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ และเร่งรัดคดีกรณีโจรใต้ถล่มฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม เช่น พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต./ผบ.ศปก.ตร.สน.พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัด ซึ่งประกอบด้วย ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวมตลอดถึงหัวหน้าหน่วยตำรวจที่ขึ้นการควบคุม และหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ หัวหน้าศูนย์ ส่วนงานในสังกัดศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า รวมทั้งสิ้นประมาณ 150 นาย ทั้งนี้ เพื่อประเมินผลการปฏิบัติ กำชับเร่งรัดติดตามคดี วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.(ปป.4) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.54 ที่ผ่านมา ตนพร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุคนร้ายโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยได้มีการแต่งตั้งชุดทำงาน เพื่อติดตามสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยมอบให้ พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานต่างๆ ซึ่งในขณะนี้ก็มีความคืบหน้าพอสมควร แต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดได้ พร้อมทั้งได้กำชับเร่งไล่ล่าจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้โดยเร็ว
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ ฝ่ายตรงข้ามยังคงก่อเหตุอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในภาพรวม แต่ตัวเลขของเหตุการณ์ก็ลดลง กลุ่มคนร้ายมีการปฏิบัติการเป็นช่วงๆ พยายามให้เห็นว่ากลุ่มยังมีศักยภาพในการก่อเหตุอยู่ จากการตรวจสอบกลุ่มที่ลงมือก่อเหตุโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 มีการใช้กำลังจาก 3 พื้นที่ คือ พื้นที่ยะลา พื้นที่ อ.บาเจาะ และ พื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รวมตัวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มคนร้ายมีการแบ่งส่วนการปฏิบัติ แต่ในระยะหลังกลุ่มคนร้ายมีกำลังน้อยลง จึงมีการรวมตัวกันเพื่อปฏิบัติการ และในครั้งนี้ตนเองยังได้กำชับและเน้นย้ำให้แต่ละหน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ มีการบูรณาการกับทางเจ้าหน้าที่ทหาร ในการเร่งติดตามอาวุธปืนที่สูญหายไป และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา และดำรงชีวิตประจำวันด้วยความไม่ประมาท และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐโดยการแจ้งเบาะแสต่างๆ
