xs
xsm
sm
md
lg

สมควรปลด สุเทพ-ประวิตร-กษิต เพื่อรักษาความมั่นคง-อธิปไตยไทย!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ
ผ่าประเด็นร้อน

ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงในฝ่ายความมั่นคงของชาติ กลับมีความคิดและทัศนคติที่ถูกมองว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติอย่างคาดไม่ถึง

การแสดงท่าทีและคำพูดหลายครั้งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ได้มีเจตนาจริงจังในการรักษาอธิปไตยของชาติ ตรงกันข้ามมีแต่ข่าวที่สร้างความสงสัย มีพิรุธในเรื่องของ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ตามมาอยู่บ่อยครั้ง

ที่ผ่านมาหากติดตามความเคลื่อนไหวของ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมไปถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ ล้วนแสดงออกที่เป็น “บวก” กับฝ่ายกัมพูชา มากกว่าจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ หรือคนไทย

การให้ข้อมูลและการให้สัมภาษณ์หลายต่อหลายครั้งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าบุคคลดังกล่าวมีความพยายามบิดเบือน สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นชาติ เหมือนกับว่ามีเจตนาเพื่อกลบเกลื่อนความผิดและความล้มเหลวของตัวเอง รวมไปถึงมีเจตนาเฉไฉ “สร้างเรื่องเพื่อกลบเรื่อง” อยู่ตลอดเวลา
 
หากไล่เรียงไปทีละคน เริ่มจาก สุเทพ ที่ทำหน้าที่รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง มักแก้ต่างรักษาผลประโยชน์ให้ฝ่ายตรงข้าม อ้างอยู่เพียงอย่างเดียวเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
 

แม้ว่าไม่ต้องย้อนกลับไปพิจารณาบทบาททางการเมืองในอดีตที่มักถูกมองภาพพจน์ในลักษณะ “สีเทา” ติดตัว ตัดตอนเอาเฉพาะแค่รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นต้นมาลองหลับตานึกดูว่าเขาได้ทำหน้าที่สมกับตำแหน่งที่เป็นอยู่หรือไม่ ได้ทำหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติได้อย่างสมภาคภูมิหรือไม่ หากไม่เชื่อก็ลองเค้นหาคำตอบมาให้ได้เป็นรูปธรรมสักเรื่อง

ตรงกันข้ามกว่าสองปีที่ดำรงตำแหน่งมีแต่ข่าวอื้อฉาว มีแต่ข้อกล่าวหาในทางมิชอบให้ได้ยินอยู่เนืองๆ จริงอยู่บางครั้งอาจมองว่าเป็นข้อกล่าวหาทางการเมือง แต่รับรองว่าทุกเรื่องย่อมมีความไม่ชอบมาพากลซุกซ่อนอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเข้าไปทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) การรับผิดชอบดูแลปัญหาชายแดนภาคใต้ หรือการเข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการน้ำมันปาล์มแห่งชาติ ที่มีการพิจารณานำเข้าน้ำมันปาล์ม เป็นต้น ล่าสุดยังมีเรื่องข้อสงสัยในเรื่องการเข้าไปเป็นประธานแบ่งปันผลประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนอ่าวไทย ซึ่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อกัมพูชาได้รายงานอ้างคำพูดของ ฮุนเซน ที่ระบุว่าจะส่ง “สกอาน” รองนายกฯกัมพูชามาเจรจากับ สุเทพ ที่ประเทศไทยในเร็วๆนี้

จากข่าวดังกล่าวทำให้ปะติดปะต่อ และนำไปสู่คำตอบที่ว่าทำไมท่าทีของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงของไทยที่ชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ จึงต้องอ่อนข้อให้กับฝ่ายตรงข้าม และเอาอกเอาใจผู้นำกัมพูชาจนผิดวิสัยปกติ 

วกมาเฉพาะปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา กรณี 7 คนไทยถูกกัมพูชาจับกุม สุเทพ ก็เป็นคนแรกๆที่ออกมาสรุปทันที “คนพวกนี้ผิด” อ้างเพียงแค่ว่าดูจากคลิปแล้วรุกล้ำแดนกัมพูชาลึกเข้าไปถึง 1.2 กิโลเมตร จากนั้นก็บอกว่าให้ยอมรับคำตัดสินของศาลประเทศนั้นหน้าตาเฉย

หรือกรณี “ธงชาติ” กัมพูชาบนประตูวัดแก้วศิขาคีรีสวาระ เขากลบเกลื่อนแก้ต่างให้อีกว่า เป็นแค่ “ธงวัด” แต่เมื่อมีหลักฐานภาพถ่ายตบหน้าจนดิ้นไม่ออก ก็เปลี่ยนคำพูดใหม่ว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกลาโหม ต่างประเทศ กำลังแก้ปัญหาอยู่ พร้อมทั้งหันมาหงุดหงิดใส่ภาคประชาชนที่เปิดโปงว่าอย่ากดดันทำให้เสียความสัมพันธ์

ถัดมาก็เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนแรก ไม่เคยสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยส่วนใหญ่เลยแม้แต่น้อย เพราะตลอดสองปีที่เขาคุมกองทัพ แต่กลับปรากฏว่าปล่อยให้กัมพูชารุกล้ำดินแดนเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งในกรณีแผ่นป้าย ต่อเนื่องมาจนถึง ธงชาติ ท่าทีของเขาก็ไม่ต่างจากรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง จนบางครั้งถ้าอ่านหนังสือพิมพ์หรือฟังแค่คำพูดคงจะนึกว่านี่คือรัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชาเป็นแน่แท้

ส่วน กษิต ภิรมย์ ก็ได้สร้างความเจ็บปวดในหัวใจคนไทยไม่น้อยหลังจากมีท่าทีเป็นตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ทั้งที่เคยด่า เหยียดหยามผู้นำกัมพูชาว่า “กุ๊ย” แต่มาวันนี้กลับเอาตัวรอดเพียงเพื่อรักษาเก้าอี้ต่อไป ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งการพูดดำให้เป็นขาว การออกมาปกป้อง เอ็มโอยู 43 หรือยกเอาเรื่อง “ประชาคมอาเซียน” มากลบเกลื่อนในเรื่องเขตแดนและอธิปไตยของแต่ละชาติ รวมไปถึงการ “บิดเบือน” ว่ากลุ่มพันธมิตรฯต้องการให้ทำสงครามและขับไล่แรงงานกัมพูชากลับประเทศ ขณะเดียวกันที่ผ่านมาเขาไม่เคยแสดงท่าที่เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือคนไทยที่มีหัวใจรักชาติในการเขาไปพิสูจน์เขตแดนในพื้นที่แต่อย่างใด
 
พฤติกรรมและท่าทีดังกล่าวมาทั้งหมดของ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีต่างประเทศ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะรักษาผลประโยชน์ของคนไทย และประเทศชาติอย่างเข้มแข็ง เท่าที่ควรจะเป็น ตรงกันข้ามกลับทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับคนไทยรักชาติเสียอีก คนเหล่านี้ไม่สมควรที่จะอยู่ในตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวกับผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติอีกต่อไป !!
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กษิต ภิรมย์
กำลังโหลดความคิดเห็น