xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” จวก “กษิต” หยาม พธม.ซัด กต.เห็นการค้าเหนือกว่าอธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (แฟ้มภาพ)
เลขาฯ การเมืองใหม่ ซัด “กษิต” โต้พันธมิตรฯ ตัดตอนข้อเท็จจริง ปัดบีบทำสงคราม ชูเขมรปลดป้ายก็ไม่เห็นต้องรบ ฉะวิธีคิดกระทรวงการต่างประเทศ เห็นการค้าดีกว่าอธิปไตย ไล่ไปกราบขอโทษ “นช.แม้ว” หยันรัฐกอดเอ็มโอยู 43 กลัวเสียหน้าฐานลงนามเอาไว้ จวกพูดหยามม็อบเกิน

วันนี้ (27 ม.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ตนคิดว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตอบโต้พันธมิตรฯ ด้วยวิธีตัดตอนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า พันธมิตรฯ กำลังบีบให้รัฐบาลทำสงคราม ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะพันธมิตรฯ ก็ปฏิเสธสงคราม ซึ่งเราเห็นว่า วิธีกดดันกัมพูชามีหลายวิธี โดยไม่ต้องทำสงคราม ยกตัวอย่างเช่น การปลดป้ายเขมรประณามไทย ก็เป็นวิธีที่ไม่เห็นต้องทำสงคราม คงไม่มีใครเรียกร้องให้รัฐบาลนี้ประกาศสงครามกับกัมพูชาหรอก เพราะไม่มีประโยชน์ และคงไม่มีใครเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะกล้าคิดทำเช่นนั้น เพราะตกอยู่ในสภาพเป็นเบี้ยล่างกัมพูชาเกือบทุกเรื่อง

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ข้ออ้างของ นายกษิต ที่ระบุว่า กัมพูชาพึ่งพิงการบริโภคจากไทย 60-70 เปอร์เซ็นต์ หากทางการไทยทำอะไรเป็นการกดดันกัมพูชาจะกระทบผลประโยชน์ทางธุรกิจนั้น ก็ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องนี้ แต่ถ้าเอาเรื่องนี้มาเป็นสาระหลักก็ไม่ต้องพูดเรื่องสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แสดงว่า ทางการไทยก็เห็นดีเห็นงามกับการค้าการลงทุนที่ละเมิดอธิปไตย และไม่ใส่ใจเรื่องสิทธิมนุษยชน และอธิปไตยของชาติ

“วิธีคิดแบบนี้ มันสะท้อนแนวนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลนี้ได้เป็นอย่างดี ว่า ผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่เหนืออธิปไตย และมองอธิปไตยเป็นเพียงสินค้า ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ ถ้ากระทรวงการต่างประเทศ คิดแบบนี้ก็ควรออกแถลงการณ์สนับสนุนรัฐบาลเผด็จการพม่า และเปิดเสรีทางการค้าการลงทุนไปซะเลย แล้วก็อย่าลืมไปขอโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วยที่เคยวิจารณ์วิธีคิดของรัฐบาลทักษิณในช่วงคบหากับรัฐบาลเผด็จการพม่า” นายสุริยะใส กล่าว

ส่วนข้อเรียกร้องให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่ใช่แค่พันธมิตรฯ เท่านั้นที่เสนอ นักวิชาการผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองหลายท่าน ก็เสนอว่าจำเป็นและทำได้ เหตุผลเดียวที่รัฐบาลกอดเอ็มโอยู 43 ไว้แน่น ก็เพราะกลัวเสียหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนไปลงนามไว้ ยังฟังไม่ขึ้นว่าเราได้ประโยชน์อย่างที่นายกฯ อธิบาย ซึ่งโดยส่วนตัวผมเคารพท่านทูตกษิต แต่วิธีคิดแบบนี้ และการโจมตีกล่าวหาพันธมิตรฯ ด้วยถ้อยคำที่เหยียดหยามหลายครั้ง มันมากเกินไป อย่าลืมว่า อำนาจไม่ได้ทำให้คนเรามีความชอบธรรมได้ตลอดไป เพราะความชอบและความจริงต่างหากคืออำนาจ


กำลังโหลดความคิดเห็น