“พิภพ” ยันไม่ได้มาไล่นายกฯ แค่วอนให้รักษาแผ่นดิน ซัดใครกันแน่ชักศึกเข้าบ้านถอนป้ายบนเขาวิหารอำนาจรัฐมีไม่ใช้ดันโยนให้ทหารไทยไปเจอทหารเขมร ท้านายกฯ ถ่ายทอดเวทีพันธมิตรฯ ทางสื่อฟรีทีวี พร้อมชวนขึ้นเวทีถกประเด็นต่อประเด็นพิสูจน์ใครพูดเท็จ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายพิภพ ธงไชย”
วันที่ 25 ม.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ที่เรามาชุมนุมไม่ได้มีจุดประสงค์ขับไล่รัฐบาล วันนี้ที่เรามาตรวจสอบรัฐบาลประชาธิปัตย์ กดดันให้ทำหน้าที่รักษาแผ่นดิน คนที่นิยมชื่นชอบประชาธิปัตย์ ต้องตั้งคำถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่อย่างเพียงพอแล้วหรือไม่ ต้องแยกเรื่องประชาธิปัตย์กับประเทศชาติให้ได้ ไม่ว่าพรรคใดขึ้นมาเป็นรัฐบาลหากทำให้ประเทศชาติเสียหายเราก็จะออกมากดดันเสมอ ที่เรารับไม่ได้มากที่สุดเขมรทำป้ายบนเขาพระวิหารประณามว่าทหารไทยลุกลามแผ่นดินเขมรตรงจุดนี้ เพื่อชี้ให้ต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยชอบรุกราน ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่ของไทย เรื่องนี้ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเรียกร้องให้นายกฯ ใช้อำนาจความเป็นรัฐบาลสั่งให้ถอนออกไปแต่ไม่ทำ เราจึงมาเรียกร้องให้นายกฯ ทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีของประเทศชาติ
อย่างไรก็ดี ตนเชื่อนายกฯไม่คิดจะขายชาติ แต่มีพฤติกรรมที่จะนำไปสู่การขายชาติได้มากที่สุด หากเราเสียดินแดนแม้แต่นิ้วเดียว จะลุกลามขยายไปในพื้นที่อีกมหาศาล นายกฯ บอกว่ามีเอ็มโอยู 43 ทำให้เราไม่เสียดินแดน นายกฯ หลับตาพูดหรือไม่ ก่อนมีเอ็มโอยู 43 บนเขาวิหารมีทหารไทยตรึงกำลังอยู่ แต่พอมีเอ็มโอยู 43 ชาวเขมรลุกคืบตั้งชุมชน ตลาด รอบเขาพระวิหาร และก่อนมีเอ็มโอยู 43 ไทยกับเขมรอาจโต้แย้งกันบ้างแต่ก็ไม่ได้รบกัน พอมีเอ็มโอยู43 ทำให้ไทยติดกับดักเนื่องจากมีข้อกำหนดห้ามใช้กำลังทหาร ประเด็นนี้ตนอยากถามนายกฯ ว่า บนเขาวิหาร เขมรใช้ทหารหรือป่าว กรณีสร้างวัด ตั้งชุมชน เขมรเปลี่ยนแปลงข้อตกลงแล้วหรือไม่
นายพิภพกล่าวถึงคำพูดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ยืนยันไม่เลิกเอ็มโอยู 43 และไม่ถอนตัวจากภาคีมรดกโลก การกระทำเช่นนี้เป็นการท้าทายพี่น้องประชาชน วันนี้มีพี่น้องมาเป็นเรือนหมื่น อย่างไรก็ดี นายอภิสิทธิ์เป็นคนดื้อตาใสคงไม่เปลี่ยนท่าทีง่ายๆ ฉะนั้นหากจะทำให้นายกฯ หมดความดื้อ พี่น้องเรือนหมื่นต้องจับกลุ่มกันและอยู่รวมกันกดดันทุกวัน เอ็มโอยู43 ไม่มีประโยชน์ควรยกเลิกไปเสีย ตนอยากให้นายกฯ ลองไปอ่านวัตถุประสงค์การก่อตั้งองค์การยูเนสโก แล้วจะรู้ว่า เขามีจุดประสงค์หากจะกำหนดข้อผูกพันใดต้องไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยก แต่คณะกรรมการมรดกโลกต่อกรณีเขาพระวิหาร ก่อให้เกิดความขัดแย้ง มีปัญหาโต้แย้งอยู่ ถือได้ว่าคณะกรรมการชุดนี้มีความคลุมเคลือ
ทั้งนี้ หากตนเป็นนายกฯ จะเขียนจดหมายต่อว่าคณะกรรมที่วินิจฉัยการเป็นมรดกโลกว่ากระทำผิดวัตถุประสงค์ขององค์การยูเนสโก ด้วยเหตุนี้ไทยจึงไม่ยอมรับข้อผูกพันใดๆ ที่คณะกรรมการชุดนี้ทำทั้งสิ้น อย่างไรก็ดีเรื่องนี้รัฐบาลสามารถประท้วงได้ทันที ข้อที่เรียกร้องให้ผลักดันชาวกัมพูชาออก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการเสียดินแดนในที่สุด ไม่เกี่ยวกับสงครามใดๆทั้งสิ้น แต่เขาไม่ได้พูดสิ่งหนึ่งว่า ถ้าจะทำอย่างนั้นได้ต้องตกลงกันในเรื่องเขตแดนให้เรียบรอ้ยก่อน ละเลยการพูดถึงปัญหาเขตแดน กล่าวได้ว่าเป็นนักวิชาการขายตัว ไม่คำนึงถึงความถูกต้องในเรื่องประชาธิปไตยอันเป็นประเด็นสำคัญ
นายพิภพกล่าวต่อว่า ปัญหาเขตแดนเป็นปัญหาร่วมที่พี่น้องคนไทยต้องร่วมกันต่อสู้ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาอยู่ในร่มของพันธมิตรฯ ทุกคนทุกสีต้องร่วมกัน นายกฯ พูดมาได้อย่างไรว่ารัฐบาลไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ไปรับรองคนทั้งรัฐบาลได้อยางไร อย่างกรณีเขตชายแดนเขมร รู้อยู่แก่ใจว่าเต็มไปด้วยนักการเมืองที่มุ่งหวังเข้ามากอบโกย โดยเฉพาะ รองนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ หากจะพูดว่าเฉพาะตัวนายกฯเองไม่มีผลประโยชน์ตรงนี้ตนเชื่อ แต่วันนี้นายกฯกล้าร้บรองหรือไม่ว่า ไม่ได้พายเรื่อให้โจรนั่ง ดังนี้หากจะหยุดการเมืองที่ล้มเหลว ต้องออกมาเดินไปในทางเดียวกันกับพี่น้องประชาชน
“นายกฯ ไม่มีสิทธิที่จะพูดความเท็จออกทางทีวีที่เป็นภาษีของประชาชน อย่างไรก็ดี หากจะพูดว่าพูดเท็จดูเหมือนเป็นการใส่ร้ายเกินไป ต้องพูดว่าถูกครึ่งผิดครึ่ง นายกฯ กล้ารับรองหรือไม่ที่พูดออกทางทีวีนั้น ไม่มีความคลุมเคลือ พูดไม่หมดใช่หรือไม่ หากนายกฯเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง กล้าถ่ายทอดเวทีพันธมิตรฯ ออกอากาศทางสื่อสารธารณะไปทั่วประเทศหรือไม่ เมื่อนายกฯ จะโต้แย้งประเด็นใดก็สามารถเข้ามาโต้แย้งได้เป็นระยะ เพื่อจะได้ให้ประชาชนวิเคราะห์ ว่าใครผิดใครถูก” นายพิภพกล่าว
นายพิภพกล่าวทิ้งท้ายว่า การเคลื่อนไหวของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ผ่านมา แต่เดิมคนที่นิยมชื่นชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีคนไม่เห็นด้วย เมื่อเราเอาข้อมูลว่ากันด้วยเหตุผล เอาความจริงมาพูด ช่วงหลังจึงได้มีการแทใจขับไล่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยจนสำเร็จ ในเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันต้องใช้เวลา ความจริงย่อมรักษาแผ่นดินนี้ได้ ที่กดดันนายกฯ เราไม่ต้องการอะไรนอกจากอยากให้ทำเพื่อชาติรักษาดินแดนให้ได้ เราไม่อยากให้เกิดสงครามซึ่งการทำสงครามนั้นต้องใช้ทหารเป็นแนวหน้าเราก็รักเห็นใจทหารเหมือนกัน การที่นายกฯ ไม่ใช่ความเป็นรัฐบาลกดดัน อย่างเรื่องป้ายหินบนเขาวิหาร ก็โยนให้ผู้นำกองทัพบกไปแก้ปัญหา เมื่อให้ทหารไปเจอกับทหารตรงนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนชักศึกเข้าบ้าน