“ถาวร” โวสถานการณ์ใต้ดีขึ้น ยอมรับเป็นเรื่องปกติถูกซุ่มโจมตี ปัดวิจารณ์หละหลวมเกรงขัดคอ “กองทัพ” เผยวันเกิดเหตุ “จนท.โอไอซี” เข้าพบ “มท.1” ถามรัฐใช้ความรุนแรง ยันเดินหน้ายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “เบตง-สุคิริน” เตรียมหารือหน่วยงานความมั่นคง
วันนี้ (24 ม.ค.) นายถาวร เสนเนียม รมช.ศึกษาธิการ กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ว่า ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.ศอ.บต.มีผลบังคับใช้แล้ว และได้ผ่านระเบียบว่าด้วยการปฏิบัติ รวมทั้งยกร่างระเบียบการย้ายข้าราชการที่มีความประพฤติปฏิบัติไม่ดีออกจากพื้นที่ และยกร่างระเบียบคณะทำงานยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะการค้าตามแนวชายแดน ส่วนแผนยกร่างการปฏิบัติงานในปี 2555 นำร่อง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ที่ยื่นของบประมาณผูกพันปี 2555-57 ที่ประชุมสรุปให้ กอ.รมน. และศอ.บต.หารือ และไปวางแนวทางร่วมกันในปีงบประมาณ 2556-57 โดยกรอบในปีงบประมาณ 2555 นั้นได้อนุโลมให้รับหลักการการของบประมาณในปี 2554 ไปก่อน ทั้งนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการดูแลด่านตามแนวชายแดน ส่วนตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.คนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานนั้น เรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะเลือกบุคคลเข้ามารับตำแหน่ง และตนยังไม่ได้หารือกับนายกฯ ในเรื่องนี้เลย
เมื่อถามว่าเหตุความรุนแรงในพื้นที่นั้นยังคงอยู่ ล่าสุดมีการโจมตีฐานปฏิบัติการร้อย ร.15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จนทำให้ทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายนาย รวมทั้งยังเกิดเหตุในพื้นที่ต่างๆ อีกหลายแห่ง แต่รัฐบาลกลับบอกว่าสถานการณ์ดีขึ้น นายถาวรกล่าวว่า สถานการณ์ดีขึ้น มันเป็นเรื่องปกติ ตรงไหนอ่อนแอก็ย่อมอ่อนแอ ตรงไหนแข็งแกร่งก็แข็งแกร่ง เหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่เกี่ยวกับการยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่มันเกี่ยวว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำงานกันจริงหรือไม่ กำลังพลใน 40 กว่าอำเภอนั้น ระบุชัดว่าหน่วยไหนรับผิดชอบพื้นที่ใดบ้าง
เมื่อถามว่า หากยังเกิดเหตุแบบนี้ เจ้าหน้าที่รัฐยังหละหลวมในการทำงาน นายถาวรกล่าวว่า อย่าใช้คำว่าหละหลวม เมื่อถามว่าภาพที่ออกมาพบว่าผู้ก่อความไม่สงบยังใช้ความรุนแรงอยู่ แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับบอกว่าสถานการณ์ดีขึ้น นายถาวรกล่าวว่า รู้กันอยู่ว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบต้องการใช้วิธีดังกล่าวยั่วยุเจ้าหน้าที่รัฐ ตนไม่อยากวิจารณ์ในเรื่องนี้เพราะเกรงว่าจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์กับกองทัพ เมื่อถามว่าภาพที่ออกมานั้นมีความรุนแรงและอุกอาจ นายถาวรกล่าวว่า ปริมาณการก่อเหตุในปีนี้มันมากเท่าปริมาณการก่อเหตุ 2,000 กว่าครั้งในรอบปีที่ผ่านๆ มาหรือไม่ ยุคก่อนนั้นแต่ละปีมีเหตุรุนแรง 900 กว่าครั้ง แต่ยุคนี้เหลือ 800 กว่าครั้ง มันดีกว่าเมื่อก่อนที่มีการเสียชีวิต 1,900 กว่าศพ ตอนนี้มีการเสียชีวิต 400 กว่าศพ มันต้องนำตัวเลขเหล่านี้มาเปรียบเทียบ
“ปี 2551 เกิดเหตุ 1,200-1,400 กว่าครั้ง ปี 2552 ลดลงเหลือ 900 กว่าครั้ง ปี 2553 เหลือ 800 กว่าครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง แต่เหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นนั้นต้องไปตรวจเช็กกับผู้ที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นจะให้คำตอบได้ว่าในพื้นที่นั้นๆ เกิดเหตุใดขึ้นผมไม่อยากก้าวก่ายงานของคนอื่น วันนี้ภาคใต้นั้นมีกี่กองร้อยไปคิดเอาเองโดยไม่ต้องออกจากปากผม” นายถาวรกล่าว
นายถาวรกล่าวด้วยว่า ตนพูดตรงๆ ว่าฝ่ายตรงข้ามยั่วยุเพื่อให้รัฐใช้ความรุนแรง เพื่อหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม OIC ในช่วงเดือน มี.ค. และการประชุมครั้งดังกล่าวกระทรวงการต่างประเทศจะไปชี้แจง เพราะวันที่ 19 ม.ค.ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ OIC เข้าพบนาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย โดยมาหาข้อมูลและมาตรวจสอบตามเป้าหมายว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงกับคนไทยมุสลิมหรือไม่ ตนทราบว่า OIC ไม่เคยถามว่าเลยว่าผู้ก่อความไม่สงบกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์จนบาดเจ็บและเสียชีวิตเท่าใด
“ยืนยันจะขอยกเลิกพื้นที่ภาวะฉุกเฉินต่อไปแน่นอนจังหวัดอื่นๆ ที่ผมจะเสนอยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น ขอหารือกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในช่วงประชุม ครม.เช้าวันนี้แล้ว คือผมจะเสนอยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นด้วยกับสิ่งที่เสนอไป แต่มันต้องหารือร่วมกับหน่วยงานอื่นๆด้วย ส่วนจะเสนอให้ ครม.พิจารณาเมื่อใดนั้น มันก็ต้องย้อนไปดูว่าหน่วยงานอื่นๆ จะพิจารณาอย่างไรในเรื่องนี้” นายถาวรกล่าว