xs
xsm
sm
md
lg

พท.จี้รัฐตอบเอาเงินไหนสมทบ 9 ของขวัญ หยันปูดงบกลางแก้เกี้ยวมุขแป้ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีมศก.เพื่อไทย อ้างผลงานค้านนำเงินประกันสังคมสมทบสวัสดิการในโครงการประชาวิวัฒน์ ไล่ประชาธิปัตย์ไปดูคลิป "อรรถวิชช์" พูดบอกจะเอามาใช้ แต่โฆษกพรรคบอกไม่ใช่ จี้รัฐตอบจะเอาเงินจากที่ไหนมาใช้ แนะอย่าเล่นภาษาจนชาวบ้านงง เชื่อปูดงบกลางปี หวังแก้เกี้ยวมุข 9 ของขวัญแป้ก แย้มเตรียมหาเสียงสวัสดิการเหมือนกัน

วันนี้ (17 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช. คลัง ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมากล่าวหาพรรคเพื่อไทยพูดเท็จ และ ชี้แจงรัฐบาลไม่ได้มีความคิดที่จะนำเงินจากกองทุนประกันสังคมมาใช้สมทบ เงินสวัสดิการในประชาวิวัฒน์ 9 ข้อนี้แต่อย่างไร ตนเองรู้สึกโล่งใจและดีใจแทนผู้อยู่ในโครงการประกันสังคมทั้ง 9.5 ล้านคน และ อยากให้ผู้ประกันตนทั้ง 9.5 ล้าน คนได้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยได้ปกป้องผลประโยชน์ท่านแล้ว โดยอยากให้ โฆษกพรรคปชป. และประชาชนทั้งหลายได้เข้าไปดูคลิปเทปบันทึกรายการ คมชัดลึก ในวันจันทร์ที่ 10 มกราคม ซึ่งตนเองได้ส่งให้ผู้สื่อข่าวได้ดูกันแล้ว โดย ตนเองและ ดร. ณรงค์ เพชรประเสร็ฐ นักวิชาการด้านสวัสดิการ ผู้ร่วมรายการ ได้คัดค้าน ส.ส.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์และคณะทำงานในโครงการประชาวิวัฒน์ในความคิดดังกล่าว และได้บอกชัดเจนว่าไม่น่าจะทำได้

นายพิชัย กล่าวต่อว่า แต่ โฆษก ศก. ปชป. ยืนยันว่ารัฐบาลเริ่มดำเนินการที่จะแก้กฏหมายดังกล่าว และ ส.ส. อรรถวิชช์ ยังได้บอกอีกว่าได้สอบถามไปยัง เลขาธิการ สปส. แล้วและเลขาฯบอกว่าทำได้ ดังนั้นจึงอยากให้ เลขาสปส. ได้ออกมายืนยันว่ามีเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ถ้าหากตรวจสอบจากสื่อจะพบว่าได้มีการพูดถึงการแก้กฏหมายนี้หลายหน แต่ประชาชนยังไม่เข้าใจว่าแก้ไปทำอะไร ซึ่งในรายการจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันเป็นเวลานาน และ ดร.ณรงค์ได้คัดค้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง จึงไม่น่าที่จะเป็นการเข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ตนเองอยากให้ ส.ส. อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษก ศก. ปชป. และคณะทำงานประชาวิวัฒน์ ได้ออกมาให้รายละเอียดมากกว่า เพราะ นพ.บุรณัชย์ ที่เป็นโฆษกพรรคทางการเมืองอาจจะไม่มีข้อมูลที่แท้จริง โดยมีคำถามที่อยากจะสอบถามเพิ่มเติม เช่นถ้า นายอรรถวิชช์ โฆษก ศก. ปชป. ปฏิเสธ ในเรื่องดังกล่าวและเห็นว่าเป็นการเข้าใจผิด ก็อยากให้รัฐบาลออกมาระบุว่าจะนำเงินสมทบนี้มาจากที่ใด เพราะเงินสมทบนี้อาจจะถึงหนึ่งหมื่นสี่พันล้านบาทได้ ถ้าหากไม่ได้นำมาจากกองทุนประกันสังคม รัฐบาลก็จะต้องเป็นผู้สมทบเงินดังกล่าวเอง ดังนั้นก็ไม่ใช่ สองพันล้านบาท อย่างที่ได้แถลงออกมา อย่างนี้ใครเป็นผู้พูดเท็จ

"คำพูดที่ว่า “การดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวทำภายใต้กรอบปฏิรูป คือ เพิ่มความโปร่งใสในการบริหารงบ ใช้ระบบการมีส่วนร่วม และ ขยายการครอบคลุมด้วยการเพิ่มงบสมทบช่วยเหลือผู้ประกันตนนอกระบบ ทำให้เงินประกันสังคมมียอดสูงขึ้น ไปจนถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบและผู้ใช้แรงงาน และขอยืนยันว่านโยบายดังกล่าวเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับ ประชาชน.” ยอมรับเลยว่าไม่เข้าใจ เพราะไม่ได้ระบุว่าเงินสมทบมาจากที่ใด หากรัฐบาลจะต้องการให้กองทุนนี้ขยายขึ้นมาเองโดยรัฐบาลไม่สมทบก็เท่ากับเป็น การไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน จึงอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้ภาษาง่ายๆและระบุให้ชัดเจนว่าเงินสมทบมาจากที่ใด อย่าได้เล่นภาษาทำให้ประชาชนสับสน และอยากให้พิสูจน์ด้วยการกระทำไม่ใช่ด้วยคำพูด เพราะผลงานรัฐบาลที่ผ่านมามีแต่คำพูดมากกว่าการกระทำ ดังนั้นเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้ง 5 วันแล้ว เหตุใดถึงได้พึ่งมาแก้ข่าว ทำให้สงสัยว่าที่แก้ข่าวช้าเป็นเพราะพยายามหาเหตุผลที่จะแก้ตัวอยู่หรือเปล่า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และ ถ้าหากได้ดูคลิปรายการจะเห็นว่า จากข้อมูลที่โฆษก ศก. ชี้แจงแสดงว่า รัฐบาลได้เตรียมการและดำเนินการในเรื่องนี้ไปมากแล้ว ไม่น่าจะใช่การเข้าใจผิดแต่อย่างไร" นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย ยังกล่าวต่อว่า การที่ออกมาพูดถึงงบกลางปีหลังจากที่พึ่งออกมาแถลงนโยบายประชาวิวัฒน์ 9 ข้อได้ไม่กี่วัน ทำให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลคงสำรวจแล้วว่านโยบายประชาวิวัฒน์ 9 ข้อนี้คงจะแป้ก และมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวสูง เพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทุกภาคส่วนอย่างมากใช่หรือไม่ ทั้งๆที่ได้จ่ายค่าที่ปรึกษาไปถึง 69 ล้านบาท เพราะไม่น่าที่จะมีเหตุผลใดที่จะประกาศงบกลางปีในทันที และไม่ควรออกงบกระตุ้นเลยด้วยซ้ำเพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว และเริ่มที่จะมีปัญหาเงินเฟ้อ โดยเรื่องนี้ผู้ว่า แบงค์ชาติก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่ารัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องออกงบกระตุ้นแต่ อย่างไร เพราะจะทำให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 90 หน่วย และโรงงานอุตสหากรรมทั้งหลาย ฝากถามว่าการที่รัฐบาลจะผลักภาระค่าใช้จ่ายนโยบายใช้ไฟฟ้าฟรีถาวรกว่า 30,000 ล้าน บาทโดยจะมาคิดกับผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นนั้น จะมีโครงสร้างการเก็บเพิ่มอย่างไร เพื่อจะได้เตรียมตัวและคำนวณต้นทุนสินค้าได้ถูกต้อง โดยหวังว่าจะเป็นการเข้าใจผิดเช่นกัน เพราะจะได้ไม่ต้องขึ้นราคาสินค้าที่ผลิต

ทั้งนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า ในเรื่องเศรษฐกิจนี้เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือสูงจะมาพูดกลับไป กลับมาหรือแต่งเรื่องขึ้นมาเองไม่ได้ ไม่เหมือนกับเรื่องการเมืองที่อาจจะพูดกลับไปกลับมาตลอด ดังนั้นจึงอยากให้โฆษกทางเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ารัฐบาลจะนำเงินสมทบนี้มาจากที่ใด หากรัฐบาลจะสมทบเองหรือไม่สมทบก็ต้องบอกออกมา ประชาชนจะได้พูดความจริง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทางไหน ประชาชนก็จะตัดสินได้ว่าใครเป็นผู้พูดเท็จ โดยพรรคเพื่อไทยอยากแจ้งกับแรงงานนอกระบบกว่า 24 ล้านคนนี้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เตรียมโครงการสวัสดิการไว้แล้ว ซึ่งจะดีกว่าและไม่สับสนเหมือนนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์คิดอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น