ตาก-วัวตากขาดตลาด ทำราคาพุ่ง เกษตรกรแห่ขายหมดคอก หลังราคาทะลุหมื่น
วันนี้ (17 ม.ค.54) ที่ตลาดโพธิ์ทอง ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ,ตลาดวัวมารวย - ตลาดวัววังประจบ ซึ่งเป็นตลาดวัวที่มีการซื้อขายวัวมากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ คลาคล่ำไปด้วยพ่อค้าวัวท้องถิ่นที่กว้านซื้อวัวจากชาวบ้านมาขายให้กับพ่อค้าวัวต่างถิ่นขายดิบขายดีสร้างกำไรชั่วข้ามคืน เพราะราคาวัวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และหาซื้อได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
นายเชื้อ นุ่มปราง อายุ 68 ปี เกษตรผู้เลี้ยงวัว บ้านบ่อไม้หว้า ต.น้ำรึม อ.เมืองตาก เปิดเผยว่า ราคาวัวปีที่ผ่านมาตกต่ำอย่างมาก ขายได้อย่างเก่งได้ตัวละ 4,000 บาท เนื่องจากมีคนเลี้ยงมากแต่คนซื้อน้อย พอปลายปีราคาก็เริ่มดี เพราะมีพ่อค้าคนกลางต่างถิ่นเข้ามาซื้อกันมากเพื่อส่งขายต่างประเทศจากตัวละ 4-5พันก็ทะลุถึงหมื่นกว่าเกือบสองหมื่นบาท ทำให้ผู้เลี้ยงวัวต่างขายวัวทิ้งเป็นคอกๆสร้างรายได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
“ปกติถ้าเราจะขายวัวต้องต้อนไปขายที่ตลาดวัว แต่ปัจจุบันบางช่วงมีคนมาขอซื้อถึงบ้านเลยทีเดียว”
ขณะที่นายธีระ อนันต์วรปัญญา ปศุสัตว์ตาก ระบุว่า การกว้านซื้อวัวในจังหวัดตาก ส่งผลให้วัวเริ่มขาดแคลน เพราะวัวพื้นเมืองใน จ.ตาก ถูกกว้านซื้อไปเพื่อการบริโภคในภาคอีสาน และอีกส่วนหนึ่งถูกส่งไปขายในประเทศกัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้พบว่ามีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวพากันขายวัวกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้ราคาดี โดยเฉพาะวัวอายุ 2 ปี หากขายในจังหวัดจะได้ราคาตัวละ 7,000-8,000 บาท แต่หากส่งไปขายแถบอีสานและประเทศเพื่อนบ้านขณะนี้จะได้ราคาที่ 11,000 - 13,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นปศุสัตว์จังหวัดตากเป็นห่วงว่าจะทำให้วัวในพื้นที่ขาดแคลนมากขึ้น ขณะเดียวกันหากผู้เลี้ยงเห็นแก่ราคามากจนเกินไปอาจส่งผลกระทบในอนาคตได้ เพราะถ้าขายไปทั้งหมดแล้วต้องการกลับมาเลี้ยงภายหลัง จะต้องมีต้นทุนซื้อแม่พันธุ์ในราคาสูง
ดังนั้น หากเกษตรกรต้องการขาย ควรเหลือแม่พันธุ์หรือดำรงพันธุ์ไว้ และควรขายเฉพาะที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เพราะในอนาคตแนวโน้มราคาวัวในประเทศจะดีขึ้นมากกว่านี้
สำหรับสถิติการนำเข้าวัวจากพม่า ปี 2553 มีการนำเข้าโคและกระบือจากพม่าที่ผ่านพิธีการนำเข้ากับศุลกากรตาก จำนวนทั้งสิ้น 33,908 ตัว คิดเป็นมูลค่ากว่า 145 ล้านบาท ไม่รวมกับการลักลอบนำเข้า ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ที่คาดว่าจะมียอดสูงกว่าการนำเข้าในระบบอีกมาก