กาฬสินธุ์ - คณะกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติภาคประชาชนกาฬสินธุ์เดือด นายทุนต่างถิ่นรุกกว้านซื้อต้นแคป่าพันธุ์ไม้พื้นเมือง และลักลอบขโมยขุด พบเบาะแสซื้อราคาต้นละ 200 บาท นำไปขาย 5,000- 10,000 บาท รุดตรวจสอบความเสียหาย และหาแนวทางแจ้งความเอาผิดผู้ลักลอบทำลายและขนย้ายพันธุ์ไม้อนุรักษ์ ในเขตควบคุมของธนาคารต้นไม้ฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุภัทรชัย หันจรัส ผู้อำนวยการศูนย์วิสาหกิจชุมชนฟื้นภูมิไท อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหายในบริเวณที่นานางสมร แก้วกล้า อายุ 46 ปี ราษฎรบ้านโนนตูม หมู่ 4 ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับแจ้งต้นแคป่าในกรรมสิทธิ์ของสมาชิกและในเขตพื้นควบคุมของธนาคารต้นไม้ ถูกขโมยขุดและขนย้ายไปเป็นจำนวนมาก
นางสมร กล่าวว่า ตนออกมาสำรวจที่นาก็ต้องตกใจ เพราะต้นแคป่าได้ถูกมิจฉาชีพขุดไปจำนวน 2 ต้น นอกจากนี้ ยังมีต้นแคป่าของเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันถูกขุดไปหลายต้น จึงได้นำความเข้าแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ทราบความเสียหาย และเร่งสืบหาคนร้ายเพราะเชื่อทำเป็นขบวนการ
ด้าน นายสุภัทร กล่าวว่า เบาะแสที่พบ คือ ช่วงนี้จะมีนายทุนจากต่างจังหวัด เข้ามากว้านซื้อต้นแคป่าหรือแคทุ่งจากชาวบ้าน ในราคาต้นละประมาณ 200 บาท โดยจะนำไปขายต่อให้แก่แหล่งรับซื้อในราคาต้นละ 5,000-10,000 บาท ทำให้ชาวบ้านบางรายที่ไม่เห็นคุณค่าขายให้
นอกจากนี้ ยังพบว่าถือโอกาสลักลอบขุดเอาต้นแคป่าของคนอื่นด้วย ซึ่งถือเป็นการโจรกรรมทรัพย์สินของคนอื่น และทำลายทรัพยากรที่เป็นทรัพย์สินของธนาคารต้นไม้ ที่ขณะนี้ได้แจ้งความที่ สภ.ยางตลาด เพื่อหาช่องทางเอาผิดกับผู้ประกอบการดังกล่าวแล้ว
สาเหตุที่มีนายทุนมากว้านซื้อและลักลอบขุดต้นแคป่า เพราะเป็นต้นไม้พื้นเมืองที่หายากและกำลังจะสูญพันธุ์ไป ซึ่งคณะกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ กำลังดำเนินการอนุรักษ์และปลุกจิตสำนึกให้แก่ประชาชนได้ร่วมกันหวงแหนต้นไม้ เพื่อลดภาวะโลกร้อนและรักษาระบบนิเวศสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โดยเฉพาะต้นแคป่ามีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นอาหารสาธารณะจึงไม่ควรจะทำลายหรือขายให้นายทุนเพียงต้นละ 200 บาท ขณะที่นายทุนเอาไปค้ากำไรถึงต้นละ 5,000-10,000 บาท ซึ่งจะต้องช่วยกันกำหนดมาตรการป้องกันและเอาผิดกับผู้ลักลอบขุดและขนย้ายให้ถึงที่สุด
สำหรับต้นแคป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10 - 20 เมตร ใบเรียวแหลมยาว ขอบใบหยักไปมา ดอกคล้ายรูปแตร ปลายบาน 5 กลีบ ออกเป็นช่อตั้งที่ปลายยอด สีนวล กลิ่นหอม ฝักกลมยาวประมาณ 15-40 ซม.ช่อละ 3-4 ฝัก ดอกแคทุ่ง มีรสขม จึงไม่นิยมเอามากินสด โดยมักนำมาลวกน้ำร้อนแล้วกินเป็นผักคล้ายสะเดา กินกับอาหารประเภทป่นลาบช่วยขับเสมหะ ขับลม ใบใช้ตำพอกบาดแผล ต้มเอาน้ำบ้วนปาก เปลือก แก้ท้องเฟ้อ ใช้กับสตรีหลังคลอด เมล็ด แก้ปวดประสาท แก้โรคชัก ราก แก้เสมหะ และลม บำรุงโลหิต ล้วนมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุภัทรชัย หันจรัส ผู้อำนวยการศูนย์วิสาหกิจชุมชนฟื้นภูมิไท อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหายในบริเวณที่นานางสมร แก้วกล้า อายุ 46 ปี ราษฎรบ้านโนนตูม หมู่ 4 ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับแจ้งต้นแคป่าในกรรมสิทธิ์ของสมาชิกและในเขตพื้นควบคุมของธนาคารต้นไม้ ถูกขโมยขุดและขนย้ายไปเป็นจำนวนมาก
นางสมร กล่าวว่า ตนออกมาสำรวจที่นาก็ต้องตกใจ เพราะต้นแคป่าได้ถูกมิจฉาชีพขุดไปจำนวน 2 ต้น นอกจากนี้ ยังมีต้นแคป่าของเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันถูกขุดไปหลายต้น จึงได้นำความเข้าแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ทราบความเสียหาย และเร่งสืบหาคนร้ายเพราะเชื่อทำเป็นขบวนการ
ด้าน นายสุภัทร กล่าวว่า เบาะแสที่พบ คือ ช่วงนี้จะมีนายทุนจากต่างจังหวัด เข้ามากว้านซื้อต้นแคป่าหรือแคทุ่งจากชาวบ้าน ในราคาต้นละประมาณ 200 บาท โดยจะนำไปขายต่อให้แก่แหล่งรับซื้อในราคาต้นละ 5,000-10,000 บาท ทำให้ชาวบ้านบางรายที่ไม่เห็นคุณค่าขายให้
นอกจากนี้ ยังพบว่าถือโอกาสลักลอบขุดเอาต้นแคป่าของคนอื่นด้วย ซึ่งถือเป็นการโจรกรรมทรัพย์สินของคนอื่น และทำลายทรัพยากรที่เป็นทรัพย์สินของธนาคารต้นไม้ ที่ขณะนี้ได้แจ้งความที่ สภ.ยางตลาด เพื่อหาช่องทางเอาผิดกับผู้ประกอบการดังกล่าวแล้ว
สาเหตุที่มีนายทุนมากว้านซื้อและลักลอบขุดต้นแคป่า เพราะเป็นต้นไม้พื้นเมืองที่หายากและกำลังจะสูญพันธุ์ไป ซึ่งคณะกรรมการบริหารธนาคารต้นไม้ระดับชาติภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ กำลังดำเนินการอนุรักษ์และปลุกจิตสำนึกให้แก่ประชาชนได้ร่วมกันหวงแหนต้นไม้ เพื่อลดภาวะโลกร้อนและรักษาระบบนิเวศสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
โดยเฉพาะต้นแคป่ามีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นอาหารสาธารณะจึงไม่ควรจะทำลายหรือขายให้นายทุนเพียงต้นละ 200 บาท ขณะที่นายทุนเอาไปค้ากำไรถึงต้นละ 5,000-10,000 บาท ซึ่งจะต้องช่วยกันกำหนดมาตรการป้องกันและเอาผิดกับผู้ลักลอบขุดและขนย้ายให้ถึงที่สุด
สำหรับต้นแคป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10 - 20 เมตร ใบเรียวแหลมยาว ขอบใบหยักไปมา ดอกคล้ายรูปแตร ปลายบาน 5 กลีบ ออกเป็นช่อตั้งที่ปลายยอด สีนวล กลิ่นหอม ฝักกลมยาวประมาณ 15-40 ซม.ช่อละ 3-4 ฝัก ดอกแคทุ่ง มีรสขม จึงไม่นิยมเอามากินสด โดยมักนำมาลวกน้ำร้อนแล้วกินเป็นผักคล้ายสะเดา กินกับอาหารประเภทป่นลาบช่วยขับเสมหะ ขับลม ใบใช้ตำพอกบาดแผล ต้มเอาน้ำบ้วนปาก เปลือก แก้ท้องเฟ้อ ใช้กับสตรีหลังคลอด เมล็ด แก้ปวดประสาท แก้โรคชัก ราก แก้เสมหะ และลม บำรุงโลหิต ล้วนมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร