“มาร์ค” ยืนยันจัดงบกลาง ไม่ได้หวังมัดใจพรรคร่วมฯ ระบุ 84,000 ล้าน ส่งเข้าเงินคงคลัง ย้อนถามเพื่อไทยข้องใจอะไรช่วยแจกแจงให้ชัด พร้อมรับมือฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่หอประชุมคุรุสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ต้องดูตัวญัตติ และเนื้อหาสาระ ว่า มีประเด็นอะไรบ้าง และหากฝ่ายค้านต้องการที่จะยื่นอภิปรายมุ่งเน้นไปที่เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน และ ประเด็นการชุมนุมที่ผ่านมานั้น ทุกหน่วยงานต้องพร้อมที่จะตอบทุกเรื่อง รัฐบาลไม่มีความหนักใจในประเด็นอะไรเลย และพร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น ส่วนประเด็นที่ถูกนำมาอภิปรายอาจจะถูกนำไปขยายผลต่อ เพราะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง เตรียมตัวอย่างเต็มที่ในการอภิปรายรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นอย่างนี้มาทุกครั้ง เพราะเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่า ในส่วนของสภาควรจะมีการพิจารณาอย่างไรหรือไม่ กรณีนายจตุพรถ้าศาลมีคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องการถอนประกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องดูคำตัดสินของศาลในวันที่ 20 ม.ค.ก่อน โดยทางศาลจะแจ้งมาที่ประธานสภา จากนั้นประธานสภาจะดำเนินการอย่างไรเป็นเรื่องของสภา อย่างเช่น หากมีการจับกุมคุมขังอยู่นอกสมัยประชุมพอถึงสมัยประชุมก็ต้องแจ้งประธานมา แล้วประธานจะต้องมาดำเนินการตามขั้นตอนอีกที
เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทย มองว่า งบกลาง 8.4 หมื่นล้าน ที่รัฐบาลอนุมัตินั้น เพื่อต้องการเกลี่ยให้พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อต่อรองเรื่องแก้รัฐธรรมนูญนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะไปเกลี่ยเรื่องอะไร ก็เป็นเงินชดใช้เงินคงคลัง ใครจะไปเกลี่ยอะไร 84,000 ล้าน คืนคลังหมดไม่มีอะไรเลย ไม่มีโครงการอะไรเลย จะเกลี่ยยังไง มันไม่มีโครงการ ช่วยบอกหน่อยว่าจะเกลี่ยยังไง ช่วยไปถามคนตั้งข้อสังเกตหน่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทย แจกแจงรายละเอียดมาหรือยัง ว่า จะเกลี่ยไปพรรคไหนอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์ ถามกลับว่า มันจะเกลี่ยยังไงครับ ตนจะอธิบายว่า 84,000 ล้าน เป็นการชดใช้เงินคงคลัง เหมือนกับงบใช้หนี้เราจะไปเกลี่ยกับอะไรครับ เมื่อถามต่อว่า จุดประสงค์ที่ทำงบกลางขึ้นมาเพื่ออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพื่อที่จะชดใช้เงินคงคลังเป็นหลัก ถามว่าทำไมคำตอบคือว่า เมื่อใดฐานะทางการเงินของรัฐบาลดีขึ้น ซึ่งในขณะนี้เราคาดว่าเก็บเงินเกินเป้าได้ประมาณแสนล้าน การชดใช้หนี้เร็วขึ้นเป็นการบ่งบอกถึงเรื่องการมีวินัย และจะช่วยให้การจัดงบปี 2555 ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาใช้เขาก็จะได้มีอิสระมากขึ้นในการจัดทำงบประมาณต่างๆ ตนว่ามันดีกับทุกฝ่าย ดีกับประเทศ ดีกับฐานะการคลัง ส่วนจะไปจินตนาการว่าทำโครงการตนก็ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำตรงนี้จะเป็นการลดการถูกโจมตีในภายหลังด้วยหรือไม่ ว่า เป็นการทิ้งภาระให้กับรัฐบาลชุดต่อไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆแล้วถ้าอยู่เฉยๆก็ไม่มีอะไร ก็หมายความว่าไปจัดงบปี 2555 และในงบปี 2555 ก็จะถูกบังคับโดยกฎหมายว่ามีรายการนี้อยู่ 84,000 ล้าน เราเห็นว่าฐานะการคลังเมื่อมันดีกว่าที่เราคาดไว้ก็คืนเงินไปเสียก่อน ปี 2555 จะได้จัดงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาได้เต็มที่เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า รัฐบาลชุดต่อไปเมื่อถ้าพรรคเพื่อไทยเข้ามาก็ไม่สามารถกล่าวอ้างได้ว่าต้องมารับภาระ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง เพราะตนต้องเป็นธรรมกับรัฐบาลชุดใหม่เขา จะได้ไม่มีใครมาบอกว่าตั้ง 84,000 กว่าล้าน จะต้องมาจ่ายให้กับรัฐบาลที่กู้ไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อถามต่อว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นการผูกมัดใจกันไว้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะไปมัดยังไงล่ะครับ ตนก็ยังงงอยู่