ชาวบ้านสระแก้ว แฉนายกฯ เรียกพบที่ทำเนียบ ห้ามพูด 7 คนไทยถูกจับจุดไหน อ้างเพื่อช่วย 7 คนไทยได้ง่ายขึ้น แต่ถูกหักหลัง ปล่อย “ศิริโชค”ออกมาโกหกบ่อน้ำยูเอ็น-บ้านหนองจานอยู่ในดินแดนเขมร ทั้งที่หลักฐานยืนยันชัดอยู่ในเขตไทย แถมเมื่อกลับลงพื้นที่ยังถูกข่มขู่ ห้ามพูด โดนจัดม็อบออกมาต้าน ขณะผู้ว่าฯ สระแก้ว กล่าวหาชาวบ้านเอาเอกสารเท็จยื่น “อภิสิทธิ์”
วันเสาร์ที่ 15 ม.ค. ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการเชิญชาวบ้านในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว ที่มีปัญหาเรื่องเขตแดน รวมทั้งนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุย
นายวีรพล โสภา แกนนำชาวบ้าน ได้เล่าถึงการเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่า หลังจากที่เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ชาวบ้านได้ไปออกรายการสภาท่าพระอาทิตย์สัญจรที่ อบต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยการถ่ายทอดสดทางเอเอสทีวีแล้ว ก็ได้รับการประสานงานจากรัฐบาลว่าอยากจะเอาข้อมูลไปให้นายกฯ โดยเฉพาะเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดิน หลังจากไปพบนายกฯ พูดคุยกันเกือบชั่วโมง นายกฯ ก็ยอมรับยว่ารั้วลวดหนามตัดผ่านที่ดินทำกินของประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์ทั้ง น.ส.3 ก.และ ส.ค. 1 และรับปากว่าจะแก้ไขปีญหาโดยพล็อตเอกสารรสิทธิลงบนพื้นที่ และรับปากว่าจะมีการแก้ไขเรื่องที่ดินทำกินให้ ซึงชาวบ้านก็บอกว่าถ้าลงตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วก็ขอให้คืนที่ดินตรงนั้นให้กับชาวบ้าน ชาวบ้านก็พอใจที่นายกฯ จะช่วย
นายวีรพล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม นายกฯ บอกกับชาวบ้านว่าปัญหาเฉพาะหน้าคือ ช่วย 7 คนไทยที่ถูกจับกุมก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการช่วยเหลือ 7 คนไทย จึงขอร้องว่าอย่าเพิ่งพูดว่าคนไทยทั้ง 7 ถูกจับที่ไหน เพราะจะทำให้การช่วยทั้ง 7 คนยากขึ้น ซึ่งคำขอร้องตรงนี้ก็ได้ผล เพราะพี่น้องร่วมมืออย่างดี ออกจากทำเนียบก็เดินทางกลับเลย แม้ว่าจะมีโปรแกรมต้องแถลงข่าวถึงเรื่องราวปัญหาที่สระแก้วที่มี 30 กว่าปีที่เขาไม่มีที่ทำกินและร้องเรียนมา 10 กว่าปีให้รัฐบาลแก้ไขแต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนแก้ไขได้ ชาวบ้านมีนัดกับทีวีหลายช่อง แต่เมื่อนายกฯ รับปากว่าจะแก้ไขให้ แต่ขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่อง 7 คนไทยก่อน ก็เลยกลับบ้าน ทิ้งรายการทีวีไป
นายวีรพลกล่าวต่อว่า แต่พอกลับลงไปในพื้นที่ ผู้ว่าฯ ก็เกณฑ์คนออกมาออกมาต่อต้าน คืนที่กลับไปก็เริ่มถูกคุกคามในพื้นที่ คือคำขอร้องของนายกฯ ได้ผล แต่ถ้าผู้ว่าไม่ทำการอย่างนั้น และนายศิริโชค โสภาไม่บอกว่า บ้านหนองจานเป็นที่ดินกัมพูชา ชาวบ้านก็คงไม่ออกมาอีกอย่างนี้หรอก
นายธิติพัทธ์ เสมาทอง นายก อบต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า เมื่อตนกลับไป ก็มีหลายๆ อย่าง มีคนมาถามหา ว่านายกฯ อบต.ไปไหนมาไหน แต่ที่ตรงนี้ เป็นที่ทำกินตั้งแต่สมัยพ่อแม่มา มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง แต่มีคนกล่าวร้ายว่าเป็นคนชักนำศึกเข้าบ้าน แผ่นดินตรงนี้พ่อแม่ทำกินมาตั้งแต่สมัยสีหนุ ทุกคนอายุ 70-80 หมดแล้วที่ทำกินมาตลอด สมัยรัฐบาลลอนนอลก็ทำกินมาตลอด จนสมัยเขมรแดงมาครองกัมพูชา คนอำเภอโคกสูงหาว่าตนสร้างปัญหาความเดือดร้อนตามแนวชายแดน แต่ตรงนี้ อธิปไตยและที่ทำกินตรงนี้ ถ้าตนเกิดไม่ทันก็จะไม่พูดและขับเคลื่อนตรงนี้ให้ชัดจน คือป่ากัมพูชาเป็นที่เลี้ยงวัวของตนมาตั้งแต่เด็ก จึงรู้หมดว่าที่ตรงนี้เป็นของใคร
กรณีคนไทยทั้ง 7 คนถูกจับ ก็จอดรถที่ถนนศรีเพ็ญ แล้วเดกินมาทชตามคันนาของนายเบ ซึ่งนายสมศรี ลูกชายนายเบ บอกว่ามีที่นาอยู่ที่หลักเขต 46 แต่เข้าไปไม่ได้ เพราะมีทหารเขมรคุ้มครองอยู่ ซึ่งจากการดูวิดีโอคลิป 20 นาที ชาวบ้านได้ดูครบแล้ว ยืนยันว่า 7 คนไทยอยู่บนถนน ยังไปไม่ถึงสระน้ำ ดังนั้นต้องอยู่ในเขตไทย
ที่นายศิรโชค โสภา โพสต์ในเพซบุ๊กอ้างว่า ชาวบ้าน 27 คน ระบุทั้ง 7 คนถูกจับในเขตเขมรนั้น นายธิติพัทธ์ ยืนยันว่า ทั้ง 7 คนถูกจับในเขตไทย เพราะเดินอยู่บนถนนยังไปไม่ถึงสระน้ำที่ยูเอ็นขุด และที่นายศิริโชคอ้างว่า นายก อบต.บ้านใหม่หนองไทรยอมรับว่าสระน้ำไม่ได้อยู่ในฝั่งไทยก็ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าสระน้ำยูเอ็นอยู่ในเขตไทย เพราะที่นาของตนอยู่ด้านตะวันออกของสระน้ำ
นอกจากนี้ ที่นายศิริโชคอ้างว่า ทั้ง 7 คนล้ำแนวหลักเขตที่ 46-47 ก็ไม่เป็นจริง เพราะแนวที่ดินของลุงบุญจันทร์ เกตุธาติ จะอยู่ทางตะวันออกเฉียดกับบ่อน้ำยูเอ็น ซึ่งอยู่ติดกับที่นาของพ่อตาตนเอง ซึ่งแนวเอกสารสิทธิ์มันเฉียงมาตามหลักเขต 46 47 คือหลัก 46 -47 อยู่ติดกับที่ดินลุงบัญจันทร์ โดยหลักเขตอยู่ทางทิศใต้ของสระน้ำ
ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ทุกคนที่มาร่วมรายการยืนยันตรงกันว่าสระน้ำอยู่ในเขตไทย
ที่นายศิริโชคบอกว่า ค่ายอพยพบ้านหนองจานเป็นของกัมพูชา นายธิติพัทธ์ยืนยันว่าไม่ถูกต้อง เพราะตอนที่เจ้าหน้าที่ดูแลศูนย์อพยพกัมพูชา ก็พบว่าหลักเขตสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ตอนที่ยูเอ็นให้ประชาชนกัมพูชาเขยิบเข้าไปอยู่หลักเขตที่ 48 ซึ่งก็มีความสมบูณณ์ ยังไม่มีคันคูของเขมรเฮ็งสัมริน ตอนนั้นเฮ็งสัมรินยังไม่เข้ามกวาดล้าง ผมยืนยบัน เพราะเคยทำกินตรงนั้นมา
ด้านนางนีรนุช เกตุธาตุ ลูกสาวนายบุญจันทร์ เกตุธาตุ ยืนยันว่า ตนเคยอยู่บริเวณนั้นตั้งแต่เด็ก ๆ มีเอกสารสิทธิ์ เคยอยู่อาศัยจริง จนเขมรอพยพมา จึงเข้าไปไม่ได้ คนไทยทั้ง 7 คนถูกจับขณะเดินมา จึงอยู่ในพื้นที่ไทยแน่นอน ที่นายศิริโชคว่าชาวบ้านเข้าใจผิด นางนีรนุชยืนยันว่า เข้าใจผิดได้อย่างไร อยู่มาตั้งแต่เด็กๆ
ชาวบ้านยืนยันว่า ที่ดินตรงนั้นพ่อบุกเบิกตั้งแต่เป็นหนุ่มและทำกินตั้งแต่พ่อแต่งงานใหม่ๆ จนมีลุก 7 คน แล้วไปทำเอกสารสิทธิ์ทิ่ดินที่อำเภออรัญประเทศ แล้วชาวบ้านตำบลโคกสูงพูดได้อย่างไรว่าเป็นพื้นที่ของเขมร ยืนยันว่า พื้นที่ของเราเป็นที่ดินของประเทศไทย อยู่มาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยโกงว่าเป็นที่ดินเขมร ขอร้องว่าผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายอย่าพูดโจมตีว่าเป็นของกัมพูชา มันเป็นที่ดินไทยจริงๆ ขอร้องท่านหยุดเคลื่อนไหว อย่าโจมตีนายธิติพัทธ์ว่าก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน พูดได้อย่างไร ท่านเป็นคนไทยหรือเปล่า ท่านรักประเทศไทยหรือไม่
จ.ส.อ.ฤทธี เคยประสิทธิ์ เจ้าของที่ดินในหลักเขตที่ 46-48 อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่เคยเข้าพบนายกฯ และรับปากนายกฯ ว่าจะไม่พูดตลอด 1 สัปดาห์ผ่านมา หลังจากที่นายกฯ รับปากจะช่วย กล่าวว่า นายกฯ รับปากแบบขอไปที ให้เราไม่ต้องพูด ให้เรื่องมันง่ายลง ซึ่งคนไทยทั้ง 7 คนจะโดนตัดสินแบบไหนตนไม่ทราบ แต่พอตนกลับไป ก็มีคนมาถามว่าไปมีที่ดินตรงนั้นได้อย่างไร เพราะตนอยู่อรัญประเทศ
จ.ส.อ.ฤทธี กล่าวต่อว่า พ่อของตนเป็นครูขี่ม้าสอนหนังสือ เงินเดือนเดือนละ 16 บาท ตนมีพี่น้อง 9 คน พ่อเล่าให้ฟังว่า ไปเจอที่ดินตรงนี้ ที่บ้านอ่างศิลา หลักเขตที่ 48 มีคลองน้ำอุดมสมบูรณ์ดีก็ไปชวนชาวบ้านที่บ้านโคกสูงมาจับจองที่ดินทำกินเมื่อปี 2500 แล้วยื่นเรื่องขอเอกสารสิทธิ์ที่กิ่งอำเภอตาพญา เจ้าหน้าที่ที่ทำเอกสารสิทธิคือ นายบุญส่ง คงพิกุล เสียชีวิตไปแล้ว 3 ปี ตนจึงไปหาน้องเมียของนายบุญส่งที่เคยรังวัดที่ดิน ซึ่งก็ยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวพ่อของตนและชาวบ้านไปจองไว้ตั้งแต่ปี 2500 แล้วมาทำเอกสารที่อรัญประเทศบ้าง ตาพญาบ้าง พ่อยังเปิดสอนหนังสือวันอาทิตย์ที่อรัญประเทศ เคยเป็นนายกเทศมนตรี เคยเป็น สจ. และเคยลงสมัคร ส.ส. แต่แพ้นายเสนาะ เทียนทอง
จ.ส.อ.ฤทธีกล่าวต่อว่า ที่ดินของพ่อตนมีเอกสารสิทธิ์ แต่ต่อมาตนหาไม่เจอ จึงไปถามหาคนที่เคยทำกินในที่ดินของพอ่ แต่ก็เสียชีวิตแล้ว จึงไปหาคนรู้จัก แล้วรู้ว่าคนที่มีที่ดินอยู่ติดกันคือนายตุ่น กาพิมาย ซึ่งในเอกสารของนายตุ่นก็มีชื่อพ่อของตนคือนายมานิต เคยประสิทธิ์ ซึ่งมีที่ดินอยู่ติดกัน ที่หลักเขต 48 ตนจึงไปกิ่งอำเภอโคกสูง เพื่อหาเอกสาร และทำเรื่องยื่นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อครั้งไปที่เกาะช้าง และในจังหวะที่เขาเปิดสำรวจ ก็ไปยื่นแสดงความจำนง ขอยื่นเสียภาษีที่ดินตรงนี้ โดยมีชาวบ้านรับรองว่านายมานิตย์ เคยเป็นเจ้าของที่ดินตรงนั้นจริง ซึ่งปลัดอำเภอก็ทำให้ ตนก็เสียภาษีมาตลอด บางปีไม่ไม่ได้เสียก็โดนปรับ ก็ไม่ว่าอะไร แต่บางคนก็หาว่าตนโมเม เอาเอกสารปลอมมาอ้าง แต่ตนยืนยันว่า แม้ไม่ได้เกิดตรงนั้นแต่ก็มีสิทธิทำกินต่อเพราะเป็นที่ดินของพ่อ ถ้าไม่คิดว่าเป็นของพ่อจริงๆ จะลาออกจากราชการเพื่อมาตามเรื่องนี้ทำไม อยู่กินเงินเดือนไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งตนได้ลาออกตั้งแต่หลังจากยื่นเรื่องให้อดีตนายกฯ ที่เกาะช้าง เพื่อเอาที่ดินที่พ่อของตนหามาด้วความลำบากคืนมาให้ได้ ตนได้เปิดเผยเอกสารแล้ว ก็ขอให้หยุดดจมตีตนได้แล้ว
นายปานเทพ กล่าวเปิดประเด็นการข่มขู่ ไม่ให้ชาวบ้านให้ข้อมูลเรื่อง 7 คนไทยถูกจับที่บริเวณใด นายธิติพัทธ์ บอกว่า เรื่องข่มขู่นี้ มีคนที่รักตนโทร.มาบอวก่าให้ระวังตัว เพราะที่ทำนี้มีคนไม่พอใจ ตนก็ถามว่าที่เรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินของพ่อตาและญาตพี่น้อง มันผิดตรงไหน มันถูกกฎหมาย มันไม่ผิดกฎหมาย ที่ตรงนี้ ไม่ใช่แค่เพิ่งตอนนายวีระ สมความคิดถูกจับ แต่ทำกินมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลลอนนอลแล้ว
นายปานเทพ สรุปว่า ชาวบ้านยืนยันว่า ค่ายอพยพอยู่ในไทย ที่ดินนายบบุญจันทณ์ อยู่ด้านตะวันออกของสระ 7 คนไทยเดินไปยังไม่ถึงสระต้องอยู่ในพื้นที่ไทย ที่บอกว่าชาวบ้านไปพบนายกญ แล้วยอมรับว่าสระอยู่ในเขตกัมพูชา ก็ไม่จริง แนวหลักเขตที่ 46-47 ต้องอยู่ด้านตะวันออกของบ่อย้ำยูเอ็น และที่ดินนางนีรนุช ก็ยู่ด้านขอบสระ ชาวบ้านได้ดูวิธีโอ 20 นาทีเต็มแล้ว ยืนยันว่า คนรไทยถูกจับในเขตไทย เพราะยังเดินไปไม่ถึงบ่อน้ำเลย
นายเทพมนตรี ลิปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า อยากเรียนนายกฯ ว่าการที่นายกฯ ให้ชาวบ้านไปพบก็ต้องคุ้มครองความปลอดภัยให้เขาด้วย ถ้ามีคนใดคนหนึ่งถูกยิงตายหรือจบชีวิตลง นายกฯ ต้องรับผิดชอบ นายกฯ ต้องดูเลคุ้มครอง นายกฯ อยากรู้ความจริง เมื่อความจริงเปิดเผย นายกฯ ต้องรับผิดชอบในฐาะนผู้นำ
ประเด็นที่ 2 ที่ดินนายบุญจันทร์ ที่เป็น ส.ค.1 มีความชัดเจนว่าทิศใต้จดเขตแดน ดังนั้นเขตแดนที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศเอาไปอ้าง เป็นเขตแดนที่ถูกเคลื่อนย้ายน ดังนั้นอย่าบังคับให้ชาวบ้านต้องโกหก ถ้าบังคับให้เขาไม่พูดความจริง ก็คือให้เขาโกหก นายกฯ โกหกคนอื่นแล้ว อย่าให้คนอื่นโกหกด้วย หลายครั้งที่นายกฯ รับปากแล้วทำไม่ได้ คราวนี้ท่านก็ทำไมได้อีก เพราะถ้าทำได้ ชาวเขมรอพยพต้องถูกผลักดันออกไป
นายเทพมนตรี กล่าวอีกว่า นายศิริโชคก่อกรรมทำเข็ญกับชาวบ้านไว้มาก ที่ออกมาคัดค้านโต้แย้งเรื่องบ่อน้ำ อยากให้นายศิริโชคไปอ่านหนังสือ “เรื่องราวของชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเขมรอพยพในไซต์ 2” ซึ่งเขาพูดถึงบ้านหนองจาน ในหนังสือมีเรื่องบ้านหนองจาน บริเวณที่ตั้งศูนย์อพยพในประเทศไทย ดังนั้นการที่นายศิริโชคไปบอกว่า บ้านนหงอจานและบ่อนำยูเอ็นอยู่ในเขมร ทำให้นายกฯ เสื่อมเสียมาก
กรณที่มีการระดมคนออกมาต่อต้าน นายธิติพัทธ์กล่าวว่า คนที่ออกมาเพิ่งเกิด ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง เป็นคนรุ่นหลัง ถ้าจะถามต้องไปถามพ่อแม่ดีกว่า จะชัดเจนกว่า เด็กรุ่นหลังไม่รู้ว่าหลักเขตอยู่ตรงไหน นายอำเภอ ผู้ว่าฯ เคยไปดูหลักเขตหรือไม
นอกจากนี้ นายธิติพัทธ์กล่าวว่า ผู้ว่าฯ สระแก้วยังไปกล่าวหว่าเอกสารที่ตนนำมายื่นนายกเป็นเอกสารเท็จ โดยพูดที่หอประชุมอำเถภอโคกสูง ว่า นายกฯ อบต.เอาเอกสารเท็จไปยื่นนายก ซึ่งคนที่อยู่ในหอประชุมรับไม่ได้โทร.มาบอกตน เพราะคนที่ถูกยึดที่ดินตั้งแต่แนวหลักเขตที่ 46-47 รับไม่ได้ ที่พูดออกมาอย่างนี้
ช่วงต่อมาของรายการ ได้มีการเปิดเทปเสียงสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ปราศรัยเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับประเทศไทย นายวีระพล โสภา แกนนำกลุ่มทวงคืนแผ่นดินแม่ จ.บุรีรัมย์ กล่าวประเด็นนี้ ว่า คลิปอันนี้เปรียบเสมือน สมเด็จฯฮุนเซน ท้ารบนายอภิสิทธิ์ โดยเนื้อหาที่ปราศรัย คือ ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะต้องจับเข่าคุยกับไทย กรณีที่รัฐบาลเคยรับปากเรื่องพื้นที่ 1 ต่อ 2 แสน รวมถึงเรื่องหลักเขตแดนต่างๆ ว่าทำไมทั้งสองประเทศยังมีปัญหากันอยู่