xs
xsm
sm
md
lg

ไข่แม้วปูดรัฐจัดทำงบกลางปีซ่อนเร้น คาดใช้ในการหาเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกเพื่อไทยปูดข่าวรัฐสั่งจัดทำงบกลางปี 54 อ้างฟื้นฟูสภาพความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติ ถือเป็นวาระซ่อนเร้น คาดนำงบก่อนนี้ไปใช้ในการหาเสียงและต่อรองแบ่งปันงบประมาณกับพรรคร่วม เพื่อเป็นเงื่อนไขต่อรองเรื่องการแก้ รธน. พร้อมวอนกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติคิดให้รอบคอบก่อนยกพลป่วนชายแดน หวั่นตึงเครียดเพิ่ม

วันนี้ (13 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับทราบข้อมูลจากหน่วยงานราชการว่ารัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานเตรียมการจัดทำงบประมาณกลางปี 2554 ขึ้น โดยอ้างว่าเพื่อจะนำมาฟื้นฟูสภาพความเสียหายที่เกิดจากปัญหาภัยพิบัติที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งจะนำไปชดเชยเงินคงคลังที่รัฐบาลได้นำมาใช้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะต้องตั้งงบประมาณใช้คืนในงบประมาณปี 2555 ได้จำนวน 8.2-8.3 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลอ้างว่าจัดเก็บภาษีรายได้เกินเป้าหมาย ในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2553 สามารถจัดเก็บได้เกินเป้าหมาย ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่าการจัดทำงบกลางปี 54 ของรัฐบาลครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้น เป็นแบบเร่งด่วน มุบมิบ มีเงื่อนงำ ไม่โปร่งใส การทำงบกลางปีโดยหลักการจะจัดทำในช่วงที่เศรษฐกิจแย่เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการจ้างงานต่างๆ แต่เมื่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อ้างว่าบริหารประเทศแล้วเศรษฐกิจดี จีดีพีโต และรัฐบาลจะจัดทำงบกลางปีอย่างเร่งด่วนไปทำไม

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่ออีกว่า อยากถามไปยังรัฐบาลว่าการจัดทำงบประมาณกลางปี 54 รัฐบาลจะใช้งบส่วนนี้นำไปเพื่อหาเสียง และต่อรองแบ่งปันงบประมาณกับพรรคร่วมรัฐบาล และน่าจะหวังใช้งบประมาณปิดปากพรรคร่วมในเกมแก้รัฐธรรมนูญ ที่แกนนำรัฐบาลต้องการ ส.ส.เขต 375 และบัญชีรายชื่อ 125 คน แต่พรรคร่วมต้องการเขต 400 และบัญชีรายชื่อ 100 คน ถ้าเป็นไปอย่างที่ได้รับทราบข้อมูลมาว่ารัฐบาลจะใช้งบประมาณกลางปีที่เป็นภาษีประชาชนเพื่อต่อรองทางการเมืองในประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมที่เห็นต่างกันอยู่ เป็นเรื่องที่สังคมต้องประณามแกนนำรัฐบาลที่มีความคิดเช่นนี้ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง จึงอยากให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ชี้แจงเหตุผลถึงความจำเป็นในการทำงบประมาณกลางปีแบบลุกลี้ลุกรน ทั้งที่อายุของรัฐบาลชุดนี้ใกล้จะหมดวาระลงอีก 10 เดือนกว่า ทำไมไม่รอจัดทำงบประมาณ ปี 55 ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจ

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่ทางการกัมพูชาให้ประกันตัวนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ และนางนฤมล จิตรวะรัตนา ที่ถูกจับกุมตัวไปแล้ววงเงินประกัน 1 หมื่นบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศนั้น ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่ทั้งสองคนได้รับการประกันตัว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวก็เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่อย่างไรก็ตาม ทางศาลของประเทศกัมพูชายังมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศนั้น ถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น และถือเป็นความล้มเหลวในนโยบายต่างประเทศและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยขอให้รัฐบาลพยายามเจรจาให้มีการประกันตัวอีกทั้ง 5 คนด้วย

ส่วนกรณีที่กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติจะเดินทางไปปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาที่อรัญประเทศนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยอยากจะให้กลุ่มได้คิดอย่างรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง เพราะพรรคเพื่อไทยกลัวว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้เกิดความตึงเครียด และจะยิ่งเป็นการไปซ้ำเติมกลุ่มคนไทยที่โดนจับตัวไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น