xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงจำลอง” ยันความพร้อม 25 ม.ค.ชุมนุมปกป้องแผ่นดิน-“พิภพ” จวก “มาร์ค” ทำชาติเสียศักดิ์ศรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิภพ ธงไชย และ พลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ (จากซ้ายไปขวา)
แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันความพร้อมชุมนุมปกป้องแผ่นดินไทย 25 ม.ค.นี้ จี้ นายกฯ ทำ 3 ข้อ “ถอนตัวมรดกโลก-ยกเลิก MOU43-ผลักดันเขมรออกไป” ชี้ กรณีจับกุม 7 คนไทย กัมพูชาทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ แต่นายกฯ เมินใช้กำลังทหารที่เหนือกว่าสร้างอำนาจต่อรอง “พิภพ” ชี้ ไทยตกเป็นเบี้ยล่างเขมร เสียศักดิ์ศรี จวกนายกฯ เบรกชุมนุม ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน

วันนี้ (9 ม.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ พลตรี จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในระหว่างการตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว ระหว่างการแถลงข่าวกรณี 7 คนไทยถูกทหารกัมพูชาจับกุม เมื่อถามถึงการเสนอข้อมูลต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเสียดินแดนให้แก่กัมพูชา ได้ให้ข้อมูลมาตลอด ซึ่งเรื่องนี้มีเวลาเป็นปีๆ ที่มาบอกว่า ดินแดนไทยได้เสียบางส่วนแล้ว และอีกมโหฬารมหาศาล หากจำกันได้ที่เรายื่นเอกสารเป็นทางการ ก็จากการประชุมที่นี่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 บอกว่าให้ออกมาทำหน้าที่ปกป้องดินแดน เวลาผ่านไปเป็นปีๆ ก็ไม่ยอมทำ แล้วเราก็ออกตระเวนเดินสายเสวนา ซึ่งคนสนิทของนายกฯ ก็ฟัง และก็มีการบันทึกให้นายกฯ ตลอดเวลา

“เราพูดมาโดยตลอดนะครับ เมื่อวานนี้ก็เพิ่งจะไปเพชรบุรี แล้วพรุ่งนี้ก็จะไปที่นครสวรรค์อีก เราทำงานหนักมากนะ ถ้านายกฯ ทำตามที่เราเสนอ คือทำ 3 ข้อ ข้อแรกคือ ถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลก ข้อสองก็คือ ยกเลิกบันทึกความจำ หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า MOU ปี 2543 และสาม ผลักดันเขมรออกไป ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ เกิดมาก่อนผู้ใหญ่ที่อยู่ในราชการขณะนี้นานนักหนา ท่านยืนยันว่าสามารถทำได้ทุกขณะ ทำได้ทันที ไม่มีปัญหาอะไร ก็ไม่ยักทำ ดีกว่าที่เราจะมาเดินเสวนา ง่ายกว่าเราเยอะแยะ” พลตรีจำลอง กล่าว

พลตรี จำลอง กล่าวต่อว่า เราชุมนุมมาแล้ว 5 วัน ไม่ได้ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ช่วงการประชุมมรดกโลกที่บราซิล ที่ศูนย์เยาวชนดินแดง และช่วงเดือนพฤศจิกายน เหน็ดเหนื่อยแค่ไหนสำหรับประชาชนผู้รักชาติ และหวงแหนแผ่นดินไทย นายกฯ ทำสามอย่างง่ายมากแต่ไม่คิดจะทำต่อไปอีก จึงขอฝากสื่อมวลชน เรื่องนี้ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในบ้านเมือง เป็นของทุกคน 63 ล้านคนที่จะต้องรับผิดชอบต่อไป

เมื่อถามว่า คิดว่า นายกฯ มีเหตุผลอย่างไรถึงไม่ดำเนินการ พลตรีจำลองกล่าวว่า น่าจะถามว่าทำไมไม่ทำ ในเมื่อทำง่ายด้วย ง่ายกว่าประชาชนที่ดิ้นรนเรื่องนี้เป็นปีๆ ตลอดเวลาที่คนไทยทั้ง 7 คนถูกจับ เราเป็นห่วงเป็นใย ใช้ความพยายามโทรศัพท์คุยกันเสมอและติดต่อประสานงาน แต่เราให้ความช่วยเหลือไม่ได้ เพราะตัวนายกฯ เองยังไม่ช่วย แล้วใครมาช่วย เราติดต่อกับญาติของผู้ที่ถูกจับบางคน ฝากความระลึกถึงไปถึงเขา ถามสภาพความเป็นอยู่ของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ล้วนแล้วแต่เป็นห่วงทั้งสิ้น และใช้เวลาตลอดเวลาที่ได้เอกสารโดยแน่ชัด วันนี้เถียงเราไม่ได้สักข้อหนึ่ง

ทั้งนี้ พลตรี จำลอง เรียกร้องไปยังรัฐบาล ต้องไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลกัมพูชา ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไรก็ตาม เพราะกัมพูชาทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่จับคนไทยในดินแดนไทย อีกทั้งต้องใช้มาตรการเด็ดขาดอย่างเป็นรูปธรรม บีบบังคับให้ทางการกัมพูชาปล่อยตัวคนไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งเห็นว่า กองทัพเหนือกว่ากัมพูชา รวมทั้งฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่า อย่าใช้กำลังกองทัพเพียงแค่อวดเด็กและอวดผู้ใหญ่เท่านั้น แต่นอกเหนือกว่าภารกิจที่ต้องทำ คือการปกป้องดินแดน

“แล้วทำไมไม่เอาอำนาจในการต่อรองนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อกรณีเขมรบ้างล่ะครับ เขาใช้กันทั้งนั้นนะประเทศที่มีข้อพิพาท ไม่อย่างนั้นมีกองทัพไว้ทำไมครับ ถ้าไม่ใช้เพื่อการต่อรอง ไม่ใช่ว่าจะต้องไปเข่นฆ่านะ เข่นฆ่ามันก็ตายด้วยกันทั้งสองฝ่าย มันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ แต่ทำไมไม่ใช้เลย ทำไมเงียบฉิบ เงียบกริบเลย ยังกับเราเป็นประเทศราชเขา มันใหญ่อะไรนักหนาฮุนเซน ผมขอร้องนะครับ ถ้านึกได้อย่าเรียกสมเด็จ ให้เกียรติมากเกินไป คนแบบนี้ เรียกนายฮุนเซนก็มากมายแล้ว” พลตรี จำลอง กล่าว

เมื่อถามถึงการชุมนุมในวันที่ 25 มกราคมนี้ จะมีการนำเรื่องนี้ไปกล่าวบนเวทีหรือไม่ พลตรีจำลองกล่าวว่า มีเรื่องน่าฟังเยอะเลย ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป คราวนี้เราพร้อมยิ่งกว่าคราวที่แล้ว การชุมนุมของเราชัดเจนมาก คือ ชุมนุมเพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรีทำสามอย่าง เมื่อทำสามอย่างแล้ว ดินแดนบางส่วนที่เราเสียไปแล้วสามารถเอากลับคืนมาได้ทันที และดินแดนที่เราจะเสียไปอย่างมหาศาลก็คือ ดินแดนบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,800 ไร่ และดินแดนตามขอบตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชาอีก 1.8 ล้านไร่ และพื้นที่ในทะเลซึ่งมีทรัพยากรคือแก๊สและน้ำมันอยู่ใต้ทะเลอีก จึงขอฝากเสียสละความสุขส่วนตัวมาชุมนุมในวันดังกล่าว ไม่มีอะไรที่มันใหญ่ยิ่งที่จะทำอันตรายต่อประเทศชาติเท่ากับสถานการณ์ในขณะนี้

ด้าน นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ เผิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่า ตอนนี้มีกระแสจากนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าเราเคลื่อนไหวมากก็มีผลต่อคนไทยที่ถูกจับอยู่ โดยจุดยืนของเรา การเคลื่อนไหวนี้เราต้องการให้มีการปล่อยคนไทยโดยไม่ต้องรับคำสั่งของศาลกัมพูชาใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้กำลังใจคนไทย 7 คน ซึ่งประกอบไปด้วย ส.ส.ผู้นำประชาชนและประชาชน ซึ่งมีความสำคัญเท่ากันหมด แล้วกับครอบครัว ตนเข้าใจและเป็นห่วงมาก เพราะคุกเขมรก็ลำบากมากๆ ไม่รู้ว่าจะอยู่นานเท่าไหร่

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทำด้วยความเป็นห่วงคนไทยทั้ง 7 คนกับครอบครัว ไม่ต้องการให้ขึ้นศาล ขณะเดียวกันเราก็เป็นห่วงศักดิ์ศรีของประเทศชาติ ห่วงปัญหาเรื่องเขตแดน เรื่องผลประโยชน์ของสังคมไทย เรื่องอธิปไตย เรื่องสิทธิเสรีภาพของพลเมือง การที่นายกรัฐมนตรีห้ามหรือขอร้องใดๆ โดยขอให้ไว้ใจตัวนายกรัฐมนตรี และขอไม่ให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน หรือแม้แต่ส่งสัญญาณมายังพันธมิตรฯ ว่า ไม่ควรจะเคลื่อนไหวหรือพูดอะไรมากไป ถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีขั้นพื้นฐานในเรื่องเสรีภาพและการแสดงความคิดเห็น ประเด็นก็คือที่ไม่ไว้ใจนายกรัฐมนตรี เพราะการแสดงท่าทีของนายกฯ ถึงแม้ว่าจะดีอย่างไร แต่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำประเทศ เพราะแสดงท่าทีที่ดี และจุดยืนที่ดีแล้วต้องมีการสั่งการ

“การแสดงท่าทีที่เราเรียกร้องมาตั้งแต่ต้น ก็คือ เหมือนนานาประเทศ ที่เขาจะแสดงท่าที ถ้าคนของตัวเองถูกจับจากทหารต่างชาติ โดยไม่ถูกต้อง จะต้องเรียกทูตมา ประเทศจีนเรียกทูตมา 6 ครั้งนะครับ และกดดันไม่ให้นำตัวไปขึ้นศาล กดดันด้านเศรษฐกิจ ต่อรองและกดดันด้านการทหารเพื่อศักดิ์ศรีของทหารไทยและประเทศชาติ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการนำไปสู่สงคราม หรือการเกิดการปะทะกันขึ้น ถ้าเทียบกรณีนี้กับจีน กับญี่ปุ่น หรือเกาหลี หรือสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยถือว่ามีความเสียศักดิ์ศรีมาก ในนานาประเทศตอนนี้เรากลายเป็นประเทศเป็นเบี้ยล่างของเขมร แม้แต่กรณีเขตแดนระหว่างเขมรกับเวียดนาม ที่มีการสำรวจเขตแดนของ ส.ส.เขมร ปรากฏว่า เวียดนามได้มีการล้ำเขตแดนหรือเอาเขตแดนของเขมรไปในด้านเขตแดนติดกับเวียดนาม ก็ไม่มีการปฏิบัติเหมือนกับที่รัฐบาลกัมพูชาปฏิบัติต่อคนไทยทั้ง 7 คน” นายพิภพกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น