“อภิสิทธิ์-สุเทพ-กษิต” พึ่งไม่ได้แล้ว ส่วนทหารก็เต็มไปด้วยคนรับผลประโยชน์จากการขนของเถื่อนผ่านทางชายแดนกัมพูชา จึงไม่ต้องหวังว่าพวกนี้จะช่วยไทย หวัง “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นที่พึ่งสุดท้าย ขอแค่ตอบว่าบริเวณ 7 คนไทยถูกจับเป็นค่ายอพยพเดิมหรือไม่ เพราะถ้าใช่ก็ชัดเจนว่าเราไม่ได้ล้ำแดน พร้อมแฉแผนสุดอัปยศหากจับคนไทยครั้งนี้ไร้ “พนิช” คนอื่นโดนสั่งเก็บหมดแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันอังคารที่ 4 ม.ค. โดยมี น.ส.กมลพร วรกุล รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมือง (ภาคประชาชน) นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ร่วมพูดคุยในรายการ
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า เรื่อง 7 คนไทยถูกเขมรจับตัว แค่วันแรกพวกเสื้อแดงก็บอกกันทาง SMS แล้วว่าเขมรให้ของขวัญเสื้อแดง งงว่าพวกนี้เป็นเสื้อแดงไทยหรือเขมรกันแน่ การต่อสู้ของเราทำความจริงให้ปรากฏมันยาก เพราะเขมรเป็นเอกภาพ แต่ของเรามันหลากหลายทั้งเสื้อแดง พันธมิตรฯ รัฐบาล ซึ่งภาพที่ปรากฏตรงนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไรก็เอามายืนยัน เรื่องคลิปในยูทิวบ์ก็ต้องดูว่ามาจากไหนเพราะมันเป็นวีดีโอที่ทางฝ่ายเราถ่ายไว้แล้วถูกเขมรยึดไป เราก็เห็นว่าคลิปมันแบ่งเป็นฉากๆ ไม่ได้ครบต่อเนื่องทั้งหมด อันนี้ต้องดูของจริง
พวกเสื้อแดง กรรมาธิการในส่วนพรรคเเพื่อไทย ก็ออกมากันใหญ่ กกต. ก็บ้าจี้ไปด้วย จะเอาศาลเขมรมาตัดสินสถานภาพ ส.ส.พนิช บ้าไปใหญ่แล้ว คนไทยทั้ง 7 คน ยังถือว่าบริสุทธิ์ ตนคิดว่าที่นายพนิชทำอย่างนี้ก็เพื่ออยากแสดงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลต้องการแก้ปัญหาจริง ไม่ได้อยากยั่วยุ แต่ก็ยังมีพวกสื่อหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ และรัฐบาลบางส่วน ออกมากล่าวหาว่าพวกนี้หาเรื่องสร้างความวุ่นวาย ตรงนี้ทั้งหมดเราเป็นคนไทย ต้องยืนยันว่าเมื่อก่อนในอดีตไทยเคยบอกว่าจีนเป็นมหามิตร สหรัฐฯ เป็นมหามิตร แต่สรุปแล้วไม่มีใครในประเทศไหนที่จะเห็นประเทศอื่นดีกว่าคนของประเทศตัวเอง เราต้องเอาหลักฐานต่างๆ ต่อสู้เพื่อให้ข้อเท็จจริงมา
นายเทิดภูมิกล่าวว่า พื้นที่บริเวณหมุด 46 มีความขัดแย้งมานานแล้ว เป็นพื้นที่ให้เขมรอพยพมาอยู่ อันนี้ไม่คลุมเครือ ต้องมีจิตใจเป็นไทยหน่อยโดยเฉพาะรองนายกฯ และรมว.กลาโหม พอเราโดนจับปุ๊บก็พูดเลยว่าไทยล้ำแดนเขมร พูดแบบนี้ไม่ได้มันจะยิ่งทำให้เขมรเอาคำพูดพวกนี้ไปเป็นข้อต่อสู้
ที่ไม่ไล่เขมรออกจากพื้นที่ เพราะนายทหารชั่วทั้งหลายแหล่ได้ผลประโยชน์ในการตัดไม้บริเวณชายแดน พวกนายทุน นักการเมือง พวกนี้ได้ประโยชน์หมด นายฮุนเซนอ่านออกว่าไทยแตกแยกเลยรุกหนัก เราก็ต้องศึกษาเขาแต่นี่เขาศึกษาเราอย่างเดียว เรื่องนี้ต้องชี้แจงให้ได้ อภิสิทธิ์ต้องเลือกว่าจะเป็นวีรบุรุษ หรือเป็นนักการเมืองชั่ว
น.ส.กมลพรกล่าวว่า นายสุเทพก็ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้ต้องเจรจา ประเทศไทยดำเนินการโดยส่งนายกษิตไปเจรจากับฮอร์นัมฮง แล้วก็มีนักข่าวถามขึ้นว่าอย่างนี้รัฐบาลไทยต้องขอโทษกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพก็ตอบว่าการเจรจาจะสามารถอธิบายข้อเท็จจริงได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยืนยันจะต้องทำตามข้อเท็จจริง แต่หากจำเป็นต้องขอความเห็นใจก็ต้องทำกัน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นคนโทรศัพท์ไปคุยกับทางกัมพูชาให้จับตัว 7 คนไทย นายสุเทพบอกว่าข่าวเช่นนี้จะต้องระมัดระวังในการนำเสนอ ส่วนตัวไม่คิดว่า พล.อ.ประวิตร จะทำเช่นนั้น ซึ่งวันนี้ พล.อ.ประวิตรก็จะทำการฟ้องนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ออกมาปูดเรื่องนี้ด้วย
นายอมรเทพกล่าวเสริมว่า ไม่ขอพูดถึงเขมร เพราะมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เคยแม้แต่หักหลังกันเอง เขมรส่วนหนึ่งที่รักชาติเคยมากินข้าวแดงแกงร้อนที่ชายแดนไทย พึ่งกำลังทหารไทยในการช่วยรบกับเวียดนาม แต่ก็ลืมไปหมด เราจึงไม่ต้องพูดถึง แต่อยากพูดถึงปัญหาที่มันคาราคาซังรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่กล้าแก้ปัญหาเพราะกลัวการลูบหน้าปะจมูก เพราะบริเวณนั้นเป็นเส้นทางเถื่อน ในอดีตช่วงหลังสงครามใหม่ๆ ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แถวสระแก้ว อรัญฯ จากเขมรทั้งนั้น เป็นไม้เถื่อน พลอยเถื่อน ซึ่งพลอยเถื่อนนี่นายพลที่สลึมเสลอความจำเสื่อมได้ประโยชน์ และก็มีพลเอกคนหนึ่งนามสกุลยาบูด พวกนี้หาประโยชน์กับนายพลอดีตคนไทย ที่เกิดเกาะกงทำมาหากินที่เมืองไพลิน ขนพลอยเถื่อนเหล่านี้โดยใช้เส้นทางนี้แหละเอาพลอยออกต่างประเทศและเอาเข้าสู่ไทยใหม่ ตรงนั้นมันเป็นเส้นทางอิทธิพล มันไม่ใช่พ่อค้าธรรมดา แต่เป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง สมคบกัน
อย่างที่บอกเรื่องนี้เสื้อแดงไม่เคลื่อนไหว เพราะนายหัวไม่อยากเคลื่อน หากเคลื่อนก็จะเข้าตัวเอง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นหาผลประโยชน์ในเขมร ทั้งเพชร พลอย บ่อนเถื่อน สิ่งหนึ่งที่อัปยศอดสูที่ทางการไทยลูบหน้าปะจมูกก็คือการจารกรรมลักรถไปขายในเขมร ก็ใช้เส้นทางนี้แหละ รัฐบาลที่ผ่านมาเคยแก้ปัญหาอะไร กองกำลังบูรพาในอดีตช่วงสงครามเวียดนามเป็นทหารแท้ๆ แต่วันนี้อยากถามว่าวันนี้เป็นบูรพาแมวหรือเปล่า ทุกคนรู้นายทหารรักชาติมีอยู่จริงแต่บรรดาหัวๆเป็นใครทำมาหากินอย่างไร และหนักกว่านั้นกองกำลังที่รักษาอีสานทั้งอีสาน วันนี้มีคนหนึ่งมีเมียน้อยค้าของเถื่อนอยู่ที่นี่ ใช้เส้นทางนี้แหละหาผลประโยชน์ ฝากความหวังไม่ได้เลยกับทหารวันนี้
“ตอนนี้พึ่งได้เพียง พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว ต้องออกมาพูด คนเหล่านี้ไม่มีทางไปเจรจากับเขมรเพราะทำมาหากินมาด้วยกัน เป็นและที่อาจารย์ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พูดเป็นเรื่องจริงและหนักกว่านั้นอีก แต่พี่วีระเหนือชั้นกว่าที่หนีบนายพนิชไปได้ ถ้ามีแค่พี่วีระกับคนไทยไม่งั้นมีการสั่งให้เก็บเลย โดยอ้างว่ามีการต่อสู้ นี่คือความอัปยศของสังคมไทย” นายอมรเทพ กล่าว
นายอมรเทพกล่าวอีกว่า แต่เกิดวีรกรรม 7 คนนี้ดีแล้ว เพราะทำให้ฝีแตก จะต้องมีการแก้ปัญหาแน่นอน ทีนี้จะแก้ปัญหาด้วยการให้ไทยไปขึ้นศาลเขมร คนไทยและทหารไทยบางส่วน ยอมได้หรือ ที่จะต้องยอมเสียอธิปไตย เรายอมได้หรือ วันนี้คิดว่าคนรักชาติจำนวนมากยอมไม่ได้ รอเวลาเท่านั้นแหละที่จะรวมตัวกัน จับมือกัน และเรื่องนี้ที่เก้าอี้อภิสิทธิ์จะต้องร้อน ตนได้คุยกับเพื่อนหลายๆคนก็เห็นตรงกันว่านายกฯ ทำงานแบบขอทาน รักษาอำนาจไปวันๆ ไม่คิดแก้ปัญหาประเทศชาติและอธิปไตย ที่เรื่องเงียบก่อนหน้านี้เพราะผู้มีอำนาจปิดเรื่องนี้ไว้ ไม่แปลกใจชาวบ้านสู้เรื่องนี้มานานแต่ว่ารัฐไทย ไม่ว่าจะเป็นทหาร กระทรวงต่างประเทศ หน่วยงานกลางต่างๆ กลับซุกในลิ้นชัก เพราะไม่กล้าไปจัดการ เพราะหากจัดการจะเท่ากับไปแหย่หนวดเสือผู้ใหญ่เขมรที่จับมือกับผู้ใหญ่ไทย จับมือกันทำมาหากิน คุณเอาความเป็นเอกราชไปแลกกับกำไรไม่กี่ร้อยล้าน
นายอมรเทพกล่าวต่ออีกว่า เริ่มต้นต้องประกาศศักดิ์ศรีของความเป็นไทย อยากเห็นทหารผู้กล้าลุกขึ้นมาท้าทายเขมรให้ปล่อยคนไทยใน 24 ชั่วโมงแบบไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ก็ดูอยู่ว่าพล.อ.ประยุทธ์กลับมาจากต่างประเทศแล้วหรือยัง อยากถามวิธีคิดของท่าน ถ้าท่านยังหลักลอยก็สงสารประเทศไทย
พูดตรงๆ ว่าชื่นชมท่านมาก ท่านทำให้ประชาชนอุ่นใจ วันนี้มีกลุ่มในเฟซบุ๊คชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์อยู่ คราวนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่าหวังได้หรือไม่ได้ แค่ตอบคำถามว่าหมู่บ้านนี้คือค่ายอพยพเดิมใช่หรือไม่ ตอบแค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเราไม่ได้รุกล้ำไปในเขมร ตอนนี้ไม่หวังนายกฯ สุเทพ กษิต แล้ว เหลือแต่แม่ทัพใหญ่ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นอำนาจหนึ่งที่ทำให้สังคมขับเคลื่อน แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เป็นหลักให้ประเทศ ไม่สามารถรักษาอาณาเขตของไทยได้ ความทรงจำที่ดีงามที่มอบให้ท่านก็จะหมดไป และท่านก็ไม่ต่างกับบูรพาแมวคนอื่นๆ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันอังคารที่ 4 ม.ค. โดยมี น.ส.กมลพร วรกุล รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้เชิญ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมือง (ภาคประชาชน) นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ และนายเทิดภูมิ ใจดี รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ร่วมพูดคุยในรายการ
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า เรื่อง 7 คนไทยถูกเขมรจับตัว แค่วันแรกพวกเสื้อแดงก็บอกกันทาง SMS แล้วว่าเขมรให้ของขวัญเสื้อแดง งงว่าพวกนี้เป็นเสื้อแดงไทยหรือเขมรกันแน่ การต่อสู้ของเราทำความจริงให้ปรากฏมันยาก เพราะเขมรเป็นเอกภาพ แต่ของเรามันหลากหลายทั้งเสื้อแดง พันธมิตรฯ รัฐบาล ซึ่งภาพที่ปรากฏตรงนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไรก็เอามายืนยัน เรื่องคลิปในยูทิวบ์ก็ต้องดูว่ามาจากไหนเพราะมันเป็นวีดีโอที่ทางฝ่ายเราถ่ายไว้แล้วถูกเขมรยึดไป เราก็เห็นว่าคลิปมันแบ่งเป็นฉากๆ ไม่ได้ครบต่อเนื่องทั้งหมด อันนี้ต้องดูของจริง
พวกเสื้อแดง กรรมาธิการในส่วนพรรคเเพื่อไทย ก็ออกมากันใหญ่ กกต. ก็บ้าจี้ไปด้วย จะเอาศาลเขมรมาตัดสินสถานภาพ ส.ส.พนิช บ้าไปใหญ่แล้ว คนไทยทั้ง 7 คน ยังถือว่าบริสุทธิ์ ตนคิดว่าที่นายพนิชทำอย่างนี้ก็เพื่ออยากแสดงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลต้องการแก้ปัญหาจริง ไม่ได้อยากยั่วยุ แต่ก็ยังมีพวกสื่อหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ และรัฐบาลบางส่วน ออกมากล่าวหาว่าพวกนี้หาเรื่องสร้างความวุ่นวาย ตรงนี้ทั้งหมดเราเป็นคนไทย ต้องยืนยันว่าเมื่อก่อนในอดีตไทยเคยบอกว่าจีนเป็นมหามิตร สหรัฐฯ เป็นมหามิตร แต่สรุปแล้วไม่มีใครในประเทศไหนที่จะเห็นประเทศอื่นดีกว่าคนของประเทศตัวเอง เราต้องเอาหลักฐานต่างๆ ต่อสู้เพื่อให้ข้อเท็จจริงมา
นายเทิดภูมิกล่าวว่า พื้นที่บริเวณหมุด 46 มีความขัดแย้งมานานแล้ว เป็นพื้นที่ให้เขมรอพยพมาอยู่ อันนี้ไม่คลุมเครือ ต้องมีจิตใจเป็นไทยหน่อยโดยเฉพาะรองนายกฯ และรมว.กลาโหม พอเราโดนจับปุ๊บก็พูดเลยว่าไทยล้ำแดนเขมร พูดแบบนี้ไม่ได้มันจะยิ่งทำให้เขมรเอาคำพูดพวกนี้ไปเป็นข้อต่อสู้
ที่ไม่ไล่เขมรออกจากพื้นที่ เพราะนายทหารชั่วทั้งหลายแหล่ได้ผลประโยชน์ในการตัดไม้บริเวณชายแดน พวกนายทุน นักการเมือง พวกนี้ได้ประโยชน์หมด นายฮุนเซนอ่านออกว่าไทยแตกแยกเลยรุกหนัก เราก็ต้องศึกษาเขาแต่นี่เขาศึกษาเราอย่างเดียว เรื่องนี้ต้องชี้แจงให้ได้ อภิสิทธิ์ต้องเลือกว่าจะเป็นวีรบุรุษ หรือเป็นนักการเมืองชั่ว
น.ส.กมลพรกล่าวว่า นายสุเทพก็ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้ต้องเจรจา ประเทศไทยดำเนินการโดยส่งนายกษิตไปเจรจากับฮอร์นัมฮง แล้วก็มีนักข่าวถามขึ้นว่าอย่างนี้รัฐบาลไทยต้องขอโทษกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพก็ตอบว่าการเจรจาจะสามารถอธิบายข้อเท็จจริงได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยืนยันจะต้องทำตามข้อเท็จจริง แต่หากจำเป็นต้องขอความเห็นใจก็ต้องทำกัน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นคนโทรศัพท์ไปคุยกับทางกัมพูชาให้จับตัว 7 คนไทย นายสุเทพบอกว่าข่าวเช่นนี้จะต้องระมัดระวังในการนำเสนอ ส่วนตัวไม่คิดว่า พล.อ.ประวิตร จะทำเช่นนั้น ซึ่งวันนี้ พล.อ.ประวิตรก็จะทำการฟ้องนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ออกมาปูดเรื่องนี้ด้วย
นายอมรเทพกล่าวเสริมว่า ไม่ขอพูดถึงเขมร เพราะมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เคยแม้แต่หักหลังกันเอง เขมรส่วนหนึ่งที่รักชาติเคยมากินข้าวแดงแกงร้อนที่ชายแดนไทย พึ่งกำลังทหารไทยในการช่วยรบกับเวียดนาม แต่ก็ลืมไปหมด เราจึงไม่ต้องพูดถึง แต่อยากพูดถึงปัญหาที่มันคาราคาซังรัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่กล้าแก้ปัญหาเพราะกลัวการลูบหน้าปะจมูก เพราะบริเวณนั้นเป็นเส้นทางเถื่อน ในอดีตช่วงหลังสงครามใหม่ๆ ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แถวสระแก้ว อรัญฯ จากเขมรทั้งนั้น เป็นไม้เถื่อน พลอยเถื่อน ซึ่งพลอยเถื่อนนี่นายพลที่สลึมเสลอความจำเสื่อมได้ประโยชน์ และก็มีพลเอกคนหนึ่งนามสกุลยาบูด พวกนี้หาประโยชน์กับนายพลอดีตคนไทย ที่เกิดเกาะกงทำมาหากินที่เมืองไพลิน ขนพลอยเถื่อนเหล่านี้โดยใช้เส้นทางนี้แหละเอาพลอยออกต่างประเทศและเอาเข้าสู่ไทยใหม่ ตรงนั้นมันเป็นเส้นทางอิทธิพล มันไม่ใช่พ่อค้าธรรมดา แต่เป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง สมคบกัน
อย่างที่บอกเรื่องนี้เสื้อแดงไม่เคลื่อนไหว เพราะนายหัวไม่อยากเคลื่อน หากเคลื่อนก็จะเข้าตัวเอง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นหาผลประโยชน์ในเขมร ทั้งเพชร พลอย บ่อนเถื่อน สิ่งหนึ่งที่อัปยศอดสูที่ทางการไทยลูบหน้าปะจมูกก็คือการจารกรรมลักรถไปขายในเขมร ก็ใช้เส้นทางนี้แหละ รัฐบาลที่ผ่านมาเคยแก้ปัญหาอะไร กองกำลังบูรพาในอดีตช่วงสงครามเวียดนามเป็นทหารแท้ๆ แต่วันนี้อยากถามว่าวันนี้เป็นบูรพาแมวหรือเปล่า ทุกคนรู้นายทหารรักชาติมีอยู่จริงแต่บรรดาหัวๆเป็นใครทำมาหากินอย่างไร และหนักกว่านั้นกองกำลังที่รักษาอีสานทั้งอีสาน วันนี้มีคนหนึ่งมีเมียน้อยค้าของเถื่อนอยู่ที่นี่ ใช้เส้นทางนี้แหละหาผลประโยชน์ ฝากความหวังไม่ได้เลยกับทหารวันนี้
“ตอนนี้พึ่งได้เพียง พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว ต้องออกมาพูด คนเหล่านี้ไม่มีทางไปเจรจากับเขมรเพราะทำมาหากินมาด้วยกัน เป็นและที่อาจารย์ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พูดเป็นเรื่องจริงและหนักกว่านั้นอีก แต่พี่วีระเหนือชั้นกว่าที่หนีบนายพนิชไปได้ ถ้ามีแค่พี่วีระกับคนไทยไม่งั้นมีการสั่งให้เก็บเลย โดยอ้างว่ามีการต่อสู้ นี่คือความอัปยศของสังคมไทย” นายอมรเทพ กล่าว
นายอมรเทพกล่าวอีกว่า แต่เกิดวีรกรรม 7 คนนี้ดีแล้ว เพราะทำให้ฝีแตก จะต้องมีการแก้ปัญหาแน่นอน ทีนี้จะแก้ปัญหาด้วยการให้ไทยไปขึ้นศาลเขมร คนไทยและทหารไทยบางส่วน ยอมได้หรือ ที่จะต้องยอมเสียอธิปไตย เรายอมได้หรือ วันนี้คิดว่าคนรักชาติจำนวนมากยอมไม่ได้ รอเวลาเท่านั้นแหละที่จะรวมตัวกัน จับมือกัน และเรื่องนี้ที่เก้าอี้อภิสิทธิ์จะต้องร้อน ตนได้คุยกับเพื่อนหลายๆคนก็เห็นตรงกันว่านายกฯ ทำงานแบบขอทาน รักษาอำนาจไปวันๆ ไม่คิดแก้ปัญหาประเทศชาติและอธิปไตย ที่เรื่องเงียบก่อนหน้านี้เพราะผู้มีอำนาจปิดเรื่องนี้ไว้ ไม่แปลกใจชาวบ้านสู้เรื่องนี้มานานแต่ว่ารัฐไทย ไม่ว่าจะเป็นทหาร กระทรวงต่างประเทศ หน่วยงานกลางต่างๆ กลับซุกในลิ้นชัก เพราะไม่กล้าไปจัดการ เพราะหากจัดการจะเท่ากับไปแหย่หนวดเสือผู้ใหญ่เขมรที่จับมือกับผู้ใหญ่ไทย จับมือกันทำมาหากิน คุณเอาความเป็นเอกราชไปแลกกับกำไรไม่กี่ร้อยล้าน
นายอมรเทพกล่าวต่ออีกว่า เริ่มต้นต้องประกาศศักดิ์ศรีของความเป็นไทย อยากเห็นทหารผู้กล้าลุกขึ้นมาท้าทายเขมรให้ปล่อยคนไทยใน 24 ชั่วโมงแบบไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ก็ดูอยู่ว่าพล.อ.ประยุทธ์กลับมาจากต่างประเทศแล้วหรือยัง อยากถามวิธีคิดของท่าน ถ้าท่านยังหลักลอยก็สงสารประเทศไทย
พูดตรงๆ ว่าชื่นชมท่านมาก ท่านทำให้ประชาชนอุ่นใจ วันนี้มีกลุ่มในเฟซบุ๊คชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์อยู่ คราวนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่าหวังได้หรือไม่ได้ แค่ตอบคำถามว่าหมู่บ้านนี้คือค่ายอพยพเดิมใช่หรือไม่ ตอบแค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเราไม่ได้รุกล้ำไปในเขมร ตอนนี้ไม่หวังนายกฯ สุเทพ กษิต แล้ว เหลือแต่แม่ทัพใหญ่ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นอำนาจหนึ่งที่ทำให้สังคมขับเคลื่อน แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เป็นหลักให้ประเทศ ไม่สามารถรักษาอาณาเขตของไทยได้ ความทรงจำที่ดีงามที่มอบให้ท่านก็จะหมดไป และท่านก็ไม่ต่างกับบูรพาแมวคนอื่นๆ