“เทพเทือก” รับบ้อท่าป้องกันเหตุบึ้มป่วนเมือง อ้างพื้นที่กว้างคุมยาก ทำได้แค่เข้มงวดมากขึ้น และตามสืบสวนหาคนผิดมาลงโทษ ฝันอยากให้ฝันร้ายจบในวันนี้ พรุ่งนี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) กล่าวถึงการลอบยิงและขวางระเบิดใส่สถานการณ์ราชการ สื่อและหน่วยทหาร ว่า เราจะพยายามทำหน้าที่ให้แข็งแรงที่สุดในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตนทราบดีว่า การโจมตีสถานที่ราชการมาจากกลุ่มบุคคลที่ยั่วยุให้สถานการณ์แรงยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดปัญหาในบ้านเมือง รัฐบาล ทหาร และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติด้วยความอดทน แต่ว่าจะมุ่งมั่นสืบสวนเอาคนผิดมาลงโทษตรงไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีช่องโหว่ตรงไหน เพราะ ศอ.รส.เองก็มีการปรับโดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่บนทางด่วนมากขึ้นแล้ว แต่ยังคงเกิดเหตุคนร้ายใช้ทางด่วนยินระเบิดเข้าใส่สถานที่ต่างๆ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องสารภาพว่า พื้นที่ต่างๆ กว้างขวางเลยเกิน อาวุธเครื่องมือบางอย่างก็ไม่ใช่มีขนาดใหญ่ซุกซ่อนไปได้ และสามารถยิงมาจากระยะที่ไกลร่วมครึ่งกิโลเมตร เพราะอย่างนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่จะใช้ความระมัดระวังเข้มงวดให้มากขึ้นด้วย
เมื่อถามว่า อะไรเป็นสิ่งที่น่าห่วงมากสุด ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงกับการก่อวินาศกรรมตามจุดต่างๆ นายสุเทพ กล่าวว่า พวกเราก็กังวลกันทุกประเด็น ได้รายงานกับพี่น้องประชาชนตั้งแต่ต้นว่า การข่าวของเรา และต่างประเทศได้แจ้งเตือนมาตลอด ว่า จะมีการก่อวินาศกรรม เหตุร้าย พวกตนพยายามเรียนประชาชนแต่ต้นเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก และถูกกล่าวหาว่า ไม่ตื่นตูมไปกว่าเหตุ แต่ข้อเท็จจริงก็เป็นอย่างที่เห็น เราก็พยายามหาทางสกัดกัน แหล่งเก็บอาวุธ แต่ต้องยึดหลักทางกฎหมาย ทำให้การทำงานล่าช้า ส่วนเรื่องผู้ชุมนุมที่เป็นห่วง คือได้ติดตามการปราศรัยพบเห็นชัดเจนว่า ได้มีการบิดเบือนยุยงปลุกปั่นที่เป็นเท็จให้เกิดความเกลียดชังขึ้นในหมู่พี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 28 มี.ค.ที่ยังไม่แจ้งสถานที่ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อยู่ เป็นการบ่งบอกสัญญาณอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้บ่งบอกอะไร ท่านนายกฯ และ ครม.ได้แต่งตั้งให้มี ศอ.รส.ท่านมอบอำนาจเต็มที่ ศอ.รส.ดำเนินงานได้เต็มที่ ท่านไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการปฏิบัติงานของเราแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ก็จะเรียนให้ทราบสถานการณ์ตลอดเวลา อย่างผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าไปทำเนียบรัฐบาล ศอ.รส.จะตัดสินใจดำเนินการอย่างไร เหมือนกรณีวันนี้ได้กราบเรียนนายกฯได้ทราบถึงสถานการณ์กรมทหารราบที่ 11 เราอาจจำเป็นต้องใช้กฎหมายมากกว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อย่าห่วงเลย รายงานกันอย่างใกล้ชิด
ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีในวันจันทร์ที่ 28 มี.ค.นี้นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ภารกิจของนายกรัฐมนตรีที่ต้องไปต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ เป็นภารกิจที่สำคัญต่อบ้านเมือง ต้องไปปฏิบัติ เมื่อถามว่า แม้หากว่าจะต้องประกาศกฎอัยการศึกยังต้องไปอีกหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกประกาศเฉพาะกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ หากกลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้ามา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประกาศกฎอัยการศึกที่กรมทหารราบที่ 11 กลุ่มผู้ชุมนุมก็สามารถไปเคลื่อไหวที่อื่นได้แล้วจะรับมืออย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปคาดการณ์อะไรในทางร้ายก่อนเลย เมื่อเราได้พูดจาให้เข้าใจ ทางผู้ชุมนุมก็จะได้ตระหนักในข้อเท็จจริง เหตุเหล่านั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ เมื่อถามว่า ทาง ศอ.รส.จะมั่นใจได้อย่างไรว่าประกาศกฎอัยการศึกดูแลพื้นที่ราบ 11 ได้ แต่จะไม่เกิดจลาจลทั่วเมือง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ามีเหตุอะไรที่มากกว่าที่กฎหมายความมั่นคงจะดูแลได้ ก็ยังมีกฎหมายที่เราเคยใช้มาแล้ว กรณีที่มีสถานการณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น แต่ ศอ.รส.ต้องพิจารณาตามความจำเป็น ว่า การใช้กฎหมายที่มีความแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ก็ต้องกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอยู่บ้าง
ส่วนเราต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนภาวนาเหมือนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกวัน ขอให้สถานการณ์นี้เป็นฝันร้ายจบได้ภายในวันนี้ พรุ่งนี้จะมีความสุขทั้งประเทศ เมื่อถามว่า การยกระดับความรุนแรงของผู้ชุมนุมยังมั่นใจอยู่ หรือว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง ยังเอาอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับตอนนี้เอาอยู่ และจะพิจารณาตามสถานการณ์ ตนตอบเหตุผลล่วงหน้าไม่ได้