xs
xsm
sm
md
lg

“ทหารแตงโม”เงามรณะ หนอนบ่อนไส้ในศอ.รส.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรื่องมันฟ้อง
โดย...กรงเล็บ

"มีนาเดือด"โดยฝีมือคนเสื้อแดงผ่านไปกว่า 10 วันแล้ว คนกรุงเทพฯกลายเป็นคนที่น่าเห็นใจที่สุดนอกจากจะต้องผจญกับปัญหารถติด ยังต้องคอยขวัญผวาว่าจะได้ยินเสียงระเบิดดังตูมตามระหว่างคืน ณ จุดใดของเมืองหลวงหรือไม่

ล่าสุดคนร้ายย่ามใจถึงขนาดยิงเอ็ม 79 ใส่กระทรวงสาธารณสุขซึ่งใช้เป็นสถานที่ประชุม ครม. กันกลางวันแสก ๆ หลังจากที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากสถานที่ดังกล่าว เพื่อประชุม กอ.รมน.ต่อที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

ไม่แน่ว่า คนสั่งให้ยิงอาจมีเจตนาต้องการให้เสียงระเบิดดังระหว่างการประชุม ครม. หรือระหว่างที่ อภิสิทธิ์ กำลังแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพราะผู้ที่ต้องการโค่นอำนาจรัฐย่อมไม่ประสงค์ที่จะเห็นรัฐบาลสามารถกลับมาทำงานได้อย่างราบรื่น

เนื่องจากจะมีผลอย่างยิ่งในเชิงสัญลักษณ์ ว่ารัฐบาลยังกุมสภาพควบคุมสถานการณ์ได้ และจะดูเข้มแข็งมากขึ้นในสายตาของประชาชน

จะใช้คนเสื้อแดงเข้าขวางการประชุม ก็ดูจะไม่ได้ผลเพราะภาพลักษณ์การเผาบ้าน เผาเมืองยังหลอกหลอนผู้คนทั้งประเทศ จนต้องมีการปรับกลยุทธ์พยายามเป็นไพร่ที่ปกปิดความกระหายเลือดเอาไว้ ดังนั้นแนวทางการทำลายความเชื่อถือ คือการทำให้สังคมไทยตกอยู่ในอันตราย แม้แต่รัฐยังอยู่ในภาวะดูแลตัวเองไม่ได้ จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ถูกนำมาใช้

ที่น่าสังเกตุคือ ทำไมผู้ก่อเหตุจึงสามารถเล็ดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารมาก่อเหตุได้ โดยรู้ช่วงรอยต่อที่เป็นช่องว่างระหว่างการถอนกำลังของเจ้าหน้าที่ ราวกับมี “หน่วยสอดแนม”ในกองกำลังผสมที่มีการสนธิกำลังกันทั้ง ทหาร ตำรวจและพลเรือน จนทำให้กำหนดจุดและเวลาในการลงมือที่สามารถขับรถหนีปนเปไปกับความสับสนของจราจรในเมืองหลวงได้อย่างลอยนวล

หรือไม่ก็คนก่อเหตุต้องเป็นคนที่มีความรู้ในด้านยุทธวิธีการสับเปลี่ยนกำลังของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทำให้สามารถมองทะลุวางแผนได้อย่างแม่นยำในการก่อเหตุแต่ละครั้ง

สิ่งที่เกิดขึ้นใช่ว่าทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.ที่มี สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฝ่ายความมั่นคง นั่งหัวโต๊ะ ซึ่งส่วนใหญ่นายกฯอภิสิทธิ์ จะอยู่ร่วมประเมินสถานการณ์ด้วยเกือบทุกครั้ง จะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะรู้ดีว่าองค์ประกอบของ ศอ.รส. ที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น มีลักษณะอุ้ยอ้ายและยากต่อการกลั่นกรองผู้เข้าร่วมประชุม

แยกแยะลำบากว่า จะมีใครแปลงร่างเป็นอีกาคาบข่าวไปบอกฝ่ายตรงข้ามบ้าง

เพราะเพียงแค่ สุเทพ ขยับสมองคิดจะประชุม ครม.ที่กระทรวงสาธารณสุข แกนนำเสื้อแดงก็รู้รวดเร็วเสียยิ่งกว่าเป็นแมลงหวี่ แมลงวันในห้องประชุมเสียอีก โดยณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มักอ้างว่าได้รับทราบข้อมูลจาก

ทหารแตงโม คือ ภายนอกสีเขียวแต่ในใจสีแดง

แต่ข่าววงในแย้งว่า ความจริงไม่น่าจะเป็น “ทหารแตงโม”ที่ทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ แต่เป็น “ทหารหน้าเงิน”อกหักจากตำแหน่งที่รู้ตัวว่า ไม่มีทางได้ขึ้นครองอำนาจหากยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

ประกอบกับมีนายทหารกลุ่มหนึ่งที่อ้างว่า ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่บ้านสี่เสาฯในการแต่งตั้งโยกย้าย ที่กลุ่มบูรพาพยัคฆ์ผงาดขึ้นยกแผงและวางขุมกำลังต่อท่อทายาทกันเรียบร้อย ชนิดที่ต่างกลุ่มต่างขั้วหมดสิทธิ์เกิด

จึงกลายเป็นว่า คนเหล่านี้มีศัตรูคนเดียวกับกลุ่มเสื้อแดงก็เลยเข้าด้วยช่วยเหลือ หวังล้มรัฐบาลซึ่งจะกระทบชิ่งไปถึงอำนาจในกองทัพที่จะเปลี่ยนมือไปพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วย

สิ่งที่เกิดขึ้นใช่ว่าผู้ใหญ่ในกองทัพจะไม่รับรู้ เพียงแต่จับมือใครดมไม่ได้เท่านั้น วิธีการป้องกันจึงทำได้แค่เพียงออกมาประชุมกลุ่มเล็กเฉพาะระดับผู้บริหาร เช่น อภิสิทธิ์ สุเทพ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ จันททร์โอชา รอง ผบ.ทบ. และผู้เกี่ยวข้องอีกไม่กี่คน ป้องกันความลับรั่วไหล

แต่กระนั้น ความผิดพลาดก็ยังเกิดขึ้นหลายครั้ง

เช่นกรณีล่าสุดที่ อภิสิทธิ์ ตกอยู่ในวงล้อมของคนเสื้อแดงที่หนองคาย ทั้งที่เป็นพื้นที่ที่ทหารเข้าไปดูแลชาวบ้านอย่างใกล้ชิด พล.อ.อนุพงษ์ มั่นใจความปลอดภัย นายกรัฐมนตรีเกินร้อย ถึงขนาดออกปากว่า เอาหัวแม่ทัพภาค 2เป็นประกัน แต่ก็ยังเกิดเหตุจนได้

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จึงถือว่าความมั่นคงของชาติอยู่บนความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง ทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐที่คำนึงถึงประโยชน์ของตัวเองมากกว่าการรักษาความสงบสุขให้กับบ้านเมือง และจากความอ่อนหัดในการบริหารสถานการณ์ของผู้ใหญ่ในกองทัพเอง

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดสำหรับ อภิสิทธิ์ วันนี้ จึงไม่ใช่การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง แต่เป็นการกุมสภาพรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับบ้านเมืองที่เกิดเหตุท้าทายอำนาจรัฐรายวัน และมีแนวโน้มจะขยายตัวลุกลามไปถึงการก่อเหตุที่มีชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเหยื่อ ซึ่งไม่ได้เป็นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและคนเสื้อแดงมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวย เพื่อเป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้ประชาชนหันมารุมสหบาทารัฐบาล โทษฐานที่คุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชนตามภาระหน้าที่ของตัวเองไม่ได้

ถ้าการชุมนุมคนเสื้อแดงปิดเกมรัฐไม่ได้ นอกจากทักษิณ ชินวัตร จะหันมาเล่นไพ่ในสภาผ่าน ส.ส.เพื่อไทยต่อแล้ว คนกรุงเทพฯก็อาจต้องฟังเสียงระเบิดแทนเสียงเพลงต่อไป ที่หวังว่าเหตุการณ์จะสงบหากเสื้อแดงยุติการชุมนุมอาจจะประเมินอย่างตื้นเขินเกินไป

ทางที่ดีที่สุดคือ ต้องจับคนก่อเหตุและสาวไปถึงต้นตอให้ได้ เมื่อนั้นสังคมจึงจะอยู่ในภาวะปกติ

กำลังโหลดความคิดเห็น