"ส.ว.วรินทร์" เผย พระม็อบแดงผิดพระธรรมวินัย เร่งมหาเถรสมาคมตรวจสอบ หลังเข้าข่ายผิดอาญา ชี้ ทำพิธีพราหมณ์ปลอมเดรัจฉานวิชาของพวกนอกศาสนา แนะ รบ. แจงประชาชนเข้าใจความหมายอำมาตย์ ป้องกันตกเป็นเหยื่อม็อบแดงหลอกใช้ ด้าน กมธ.สิทธิฯ ยัน หลังคุยแกนนำแดง โบ้ยผิดรัฐหากเกิดรุนแรง เตือน เจาะเลือดสังเวยม็อบผิดจริยธรรมแพทย์ ระวังเชื้อโรคเข้าสู่ตัว ย้ำ ยุบสภาผ่าทางตันการเมืองไทยไม่ได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
วานนี้ (17 มี.ค.) รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น.มี น.ส.รัตน์ติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้มีการเชิญ นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา และนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน มาร่วมพูดคุยในรายการเพื่อหาคำตอบว่าการยุบสภาเป็นการผ่าทางตันการเมืองไทยได้จริงหรือไม่
นายวรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะกรรมาธิการศิลปะและวัฒนธรรม มีการแถลงหลายประเด็น อาทิ เรื่องพระภิกษุที่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งในความจริงแล้วพระไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ เพราะว่าการที่พระออกมาเคลื่อนไหวมันไม่สมควรกับพระสมณะหรือผู้ทรงศีล รวมทั้งที่สำคัญพระมาพูดจากในที่สาธารณะโดยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ ไม่เป็นตามพระธรรมวินัย
นายวรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนอีกเรื่องเป็นลักษณะของการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม การไปเอาเลือดมาทำพิธีไสยศาสตร์ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นเดรัจฉานวิชา จึงห้ามพระภิกษุไปยุ่งเกี่ยว แต่เมื่อวานจะเห็นว่ามีพระนำเลือดไปสาดตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แบบนี้ถือว่ามันไม่เหมาะสม ทางคณะกรรมาธิการฯ จึงอยากให้มหาเถระสมาคมเข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากลักษณะแบบนี้เข้าข่ายความผิดทางอาญา
"นี่เราไม่ได้หมายความว่าพระเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองไม่ได้ แต่เผอิญพระวินัยไม่ให้ และอีกอย่างกฏหมายรัฐธรรมนูญก็ยังไม่ได้ให้ ทางคณะกรรมาธิการฯจึงออกมาเรียกร้อง" นายวรินทร์ กล่าว
นายวรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการทำพิธีพราหมณ์จะมุ่งทำให้คนมีความสุข ทำให้คนรักกัน แต่ไอ้ที่มาทำพิธีสาปแช่งคนอื่น ถือเป็นวิธีทางไสยศาสตร์หรือพวกเดรัจฉาน หรือพวกนอกศาสนา
นายวรินทร์ กล่าวถึงประเด็นการใช้สถาบันองคมนตรีเป็นเป้าในการชุมนุม ว่า หากรัฐบาลออกมาอธิบายเรื่องนี้จริงจัง ก็จะเรียนรู้วิวัฒนาการได้ว่ามีที่มาอย่างไร และอำมาตย์ได้สร้างคุณให้แผ่นดินอย่างไร เมื่อเทียบกับนักการเมืองในแต่ละยุคเป็นอย่างไร
นพ.นิรันดร์ กล่าวถึงกรณีที่พูดคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงว่า เมื่อวานได้มีโอกาสคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงที่นำประชาชนขึ้นมาชุมนุม ก็เลยมีการถามว่าเป้าหมายแกนนำคืออะไร ทางฝ่ายดังกล่าวต้องการมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการทำงานรัฐบาลและก็ผลักดันให้มีการยุบสภา โดยกรรมาธิการฯ กังวลว่าจะมีการใช้ความรุนแรง อย่างเช่นเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ดังนั้น จึงถามเรื่องความรับผิดชอบหากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ฝ่ายแกนนำเสื้อแดงบอกว่าเป็นหน้าที่รัฐในการควบคุมดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง ฉะนั้น จึงมีการเดินหน้าไปหารัฐบาล เพื่อประสานเรื่องนี้ ในการหาวิธีใช้กฏหมายไม่ให้เกิดความรุนแรงในสังคมไทย
นพ.นิรันดร์ กล่าวในส่วนประเด็นการเทเลือดว่า ตามหลักวิชาชีพแพทย์ ถือว่าการเอาเลือดออกเป็นการช่วยเหลือผู้คน แต่ในกรณีนี้ มันเป็นประเด็นทางการเมือง ในทางจริยธรรมตนไม่เห็นด้วย เลือดเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ไม่ควรจะทำมาเป็นประเด็นทางการเมือง และเราไม่รู้ว่าเลือดออกจากร่างกายจะมีเชื้อโรคอะไรหรือไม่ ที่สามารถติดต่อผู้อื่นได้ เมื่อออกจากตัวเราเป็นสิ่งปฏิกูลแล้ว
นพ.นิรันดร์ กล่าวต่อมาถึงประเด็นเรื่องการยุบสภาว่า ต้องมาดูจริงว่าหากอยากเปลี่ยนตัวฝ่ายบริหารเพราะเหตุใด เป็นข้ออ้างในการต่อสู้ทางการเมืองหรือไม่ ดังนั้น การที่จะเอารัฐสภาเป็นเครื่องสังเวยในการแก้ไขปัญหา ตนคิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และงบประมาณในเรื่องการเลือกตั้ง มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง รวมทั้งคำถามต่อไป หากมีการเลือกตั้งใหม่และมันเปลี่ยนโฉมหน้าทางการเมืองหรือไม่ เลิกทะเลาะกันหรือไม่ ไม่มันยังเหมือนเดิม เพราะสังคมตกอยู่ในธุรกิจการตลาด