เรื่องมันฟ้อง
โดย...กรงเล็บ
ผ่านพ้นการข่มขู่ของคนเสื้อแดงที่ยื่นคำขาดให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องยุบสภาภายในเที่ยงวันที่ 15 มีนาคมมาได้อย่างราบรื่น แต่สถานการณ์ก็ยังไม่น่าวางใจ
เพราะเมื่อแนวทางการใช้จำนวนผู้ชุมนุมมากๆ มากดดันรัฐบาลไม่เป็นผล การปรับยุทธศาสตร์เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ก็จะเกิดขึ้นตามมาเป็นระลอก
เห็นได้จากการประกาศยกระดับการต่อสู้โดยใช้เลือดคนเสื้อแดงชโลมแผ่นดิน แม้จะไม่ได้ตามยอด 1 ล้านลิตร แต่ภาพความสยดสยองในการหลั่งเลือดโลมพื้นดินหน้าทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านพักนายกรัฐมนตรี ก็ปรากฏขึ้นในประเทศไทยแล้ว
**และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า แกนนำคนเสื้อแดงพร้อมสละเลือดเนื้อของมวลชนที่ไว้เนื้อเชื่อใจพวกเขาเพื่อการต่อสู้ครั้งนี้
ในเชิงสัญลักษณ์ต้องการเลียนสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 7 ตุลา 51 เป็นศรย้อนกลับไปที่ อภิสิทธิ์ ซึ่งเคยประกาศไม่ขอข้ามกองเลือดประชาชนเข้าไปประชุมรัฐสภาในการแถลงนโยบายของรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์
**เป็นวิธีคิดที่สะท้อนชัดว่า เสื้อแดง กับ ทักษิณ เหมือนกันชนิดแยกไม่ออก คือ เอาแต่รูปแบบมาบิดเบือน แต่ไม่เคยดูในเรื่องของเนื้อหา ขอเพียงแค่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นพอ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความถูกต้องใดๆ ทั้งสิ้น
กรณี 7 ตุลา ประชาชนถูกปราบปรามโดยเจ้าหน้าที่รัฐอย่างอำมหิต จนเป็นเหตุให้เลือดนองหน้ารัฐสภา แต่กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นแกนนำเสื้อแดงกระหายเลือด สูบเลือด สูบเนื้อมวลชนของตัวเองมาเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ความพยายามที่จะยกระดับกดดันรัฐบาลด้วยวิธีนี้ นอกจากจะล้มเหลวมิอาจบรรลุเป้าหมายที่จะทำให้ อภิสิทธิ์ ยุบสภาได้แล้ว
ยังทำให้เสียแนวร่วมมวลชนที่เริ่มกังขา และมีคำถามกับแนวทางของ “สามเกลอ”มากขึ้น โดยเฉพาะกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งกระจายไปทั่วประเทศ ยิ่งทำให้คนทั้งสังคมปฏิเสธวิธีการที่สิ้นคิดนี้
** นั่นเท่ากับว่า การชุมนุมครั้งนี้จะเริ่มนับถอยหลังไปสู่ความพ่ายแพ้ในที่สุด
ชัยชนะเดียวที่คนพวกนี้พอจะอาศัยได้ คือ การทำไสยศาสตร์ใส่ประเทศที่พราหมณ์มนต์ดำ ผู้ทำพิธีเองก็ยังยอมรับอย่างหน้าชื่นว่า เป็นอัปมงคลที่นอกจากจะทำลายผู้ถูกกระทำ และตัวผู้กระทำเองแล้ว ยังจะส่งผลให้ชาติบ้านเมืองฉิบหายด้วย
หากผลของการร่ายมนต์ดำ โดยใช้เลือดเป็นเครื่องสังเวยนำมาซึ่งความวิบัติของชาติดังว่า ก็น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่า เหตุใดพราหมณ์ ผู้นี้จึงยังยินยอมที่จะประกอบพิธีกรรมอัปมงคลเช่นนี้
มีเพียงเหตุผลเดียวที่อธิบายเรื่องนี้ได้ คือ คนที่ไปรวมตัวกันรับใช้ นช.ทักษิณ ชินวัตร ล้วนแต่เป็นพวกที่นอกจากจะขาดหิริ โอตัปปะแล้ว ยังเป็นประเภทบูชาเงินเป็นพระเจ้าด้วย จึงไม่น่าแปลกที่พวกเขาจะพร้อมใจกันทำทุกวิถีทาง เพียงเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง โดยไม่คำนึงว่า ชาติจะประสบกับความหายนะอย่างไร
ผลของคุณไสยครั้งนี้ยังไม่มีใครรู้ ว่าจะทำให้บ้านเมืองต้องพังพินาศจริงหรือไม่ ? แต่กรรมที่ตามทันให้เห็นแล้ว คือ “สามเกลอหัวขวด” ที่ทำท่าว่าอาจจะกลายเป็น “สามเกลอหัวขาด” เอาได้ง่าย ๆ
**หัวขาดทั้งในแง่การนำคนเสื้อแดงที่กำลังถูกช่วงชิงไปจากมือ โดย “กลุ่มแดงสยาม”และ “แก๊งเดนสงคราม” ของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง
หัวขาดทั้งในเรื่องความปลอดภัยในชีวิต เพราะเกิดกระแสหนาหูว่า กลุ่มฮาร์ดคอร์และทักษิณ ที่ต้องการปิดเกมเร็ว ก็จะเดินเกมแรง และแน่นอนว่าการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่การจลาจล เผาบ้าน เผาเมืองได้ ต้องมีชนวนในการจุด
**สามเกลอ จึงถูกเลือกให้เป็นผู้เสียสละพลีชีวิตเพื่อโหมเชื้อไฟให้ผู้คนเกิดความคับแค้น จับอาวุธหันเข้าหา ทหาร ตำรวจ
ปัญหาอยู่ที่ว่าไม่มีใครคิดจะเผาตัวเองพลีกายเพื่อการต่อสู้ ความปลอดภัยของ สามเกลอ จึงแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะไม่รู้ว่าจะถูกแดงด้วยกันล่อกันเองเมื่อไหร่ ทำให้ทั้งสามคนระวังตัวแจ ระแวงว่า ชีวิตอาจปลิดปลิวได้ทุกเมื่อ ระหว่างขึ้นเวทีปราศรัย !
แต่ไม่ว่าชีวิตไร้ค่าของสามเกลอจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเซ่นสังเวยเพิ่มเติมหรือไม่ สิ่งที่ปรากฏชัดแล้วคือ อำนาจการนำมวลชนเสื้อแดง กำลังจะถูกเปลี่ยนมือ หลังจากที่แนวทางการต่อสู้ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ นช.ทักษิณ คาดหมายเอาไว้
จุดเปลี่ยนของสถานการณ์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น และแน่นอนว่า ย่อมไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านเหตุการณ์ตามที่คนไทยวาดฝันไว้ว่า อยากให้ทุกอย่างเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย เพราะสัญญาณของความรุนแรงเริ่มส่งกลิ่นอายไปทั่วประเทศแล้ว จากการยิงเอ็ม 79 สร้างสถานการณ์ในหลายพื้นที่ กรุงเทพฯ และยังป่วนปาประทัดยักษ์ ในหลายจุดที่เชียงใหม่อีกด้วย
** การชักธงรบของกลุ่มแดงสยามและเสธ.แดงที่เคลื่อนตัวออกมาพร้อม ๆ กัน ทวงคืนการนำให้กับขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งล้วนแต่เป็นแก๊งกระหายเลือดนั้น คงทำให้คนในสังคมไม่สบายใจกับสภาพการณ์ดังกล่าว
การปฏิวัติตามแนวทางที่ จักรภพ เพ็ญแข เคยเสนอกับ ทักษิณ จะถูกนำกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง คือ ต้องปฏิวัติเปลี่ยนโครงสร้างประเทศใหม่ทั้งหมด แต่จะให้ผลในเชิงลบอย่างยิ่งกับทักษิณ เพราะเป็นการตอกย้ำชัดเจนว่า ทักษิณ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มบุคคลที่แสดงออกชัดเจนมาโดยตลอดว่า
**ไม่เอาเจ้า มีแนวคิดล้มล้างสถาบันฯ เพียงเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย
ความพยายามที่จะสร้างภาพจงรักภักดีของนช.ทักษิณ หลังจากเผลอแสดงสันดานดิบให้คนไทยได้เห็นผ่าน ไทมส์ ออนไลน์ ก็จะสิ้นมนต์ขลังไปโดยปริยาย ประกอบกับประเทศประชาธิปไตยหลายชาติ ส่งข่าวเตือนว่า ทักษิณเข้าข่ายผู้ก่อการร้าย เพราะสั่งให้มีการก่อวินาศกรรมในประเทศบ้านเกิดของตัวเอง
**ก็ยิ่งทำให้ทักษิณห่างไกลจากการเป็น “ผู้ชนะบนความพ่ายแพ้ของชาติ” ไปทุกที
**นี่คืออันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นระลอกใหม่สำหรับคนไทย สิ่งที่ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ควรทำคือ อธิบายให้สังคมเห็นชัดเจนว่า ความต้องการของ “แดงสยาม” เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร และการที่ไม่สามารถตัดสินใจทางการเมืองเพื่อยุติปัญหาในขณะนี้เป็นเพราะอะไร
ฉายภาพให้สังคมไทยเห็นชัดเจนว่า เรากำลังต่อสู้อยู่กับความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปสู่ระบอบการปกครองอีกรูปแบบหนึ่งที่ยังไม่ชัดเจนนักว่าเป็นอย่างไร
** แต่ที่เด่นชัดคือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเราจะได้ นช.ทักษิณ มาเป็นผู้ปกครองประเทศอีกครั้ง โดยล้มล้างกติกาทุกอย่างที่เป็นอุปสรรคกับตัวเอง
คนไทยจะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้หรือ ถ้าไม่ยอมสังคมไทยต้องมีส่วนร่วมประคับประคองสถานการณ์นี้ด้วยความอดทน อย่าปล่อยให้การใช้ความรุนแรงมาข่มขู่เราและร่วมกันรักษาสถาบันหลักของชาติเอาไว้ ตอบแทนที่องค์พ่อหลวงเสียสละพระวรกายเพื่อพสกนิกรของพระองค์มาตลอดพระชนม์ชีพ