เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (15 มี.ค.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงการนัดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 16 มี.ค. ที่หลายฝ่ายเป็นห่วงต่อสถานการณ์การชุมของกลุ่มเสื้อแดงโดยนายชัย ยังยืนยันว่า ในวันนี้ ( 16 มี.ค.) ยังมีการประชุมร่วมรัฐสภาตามปกติ ในเวลา 09.00 น. ไม่มีเปลี่ยนแปลง
นายชัย กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ หากกลุ่มเสื้อแดงจะมาปิดล้อมรัฐสภา ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะเป็นผู้ดูแลสถานการณ์ ซึ่งจะได้ปรึกษาหารือกัน โดยผู้ชุมชุมก็สามารถจัดตัวแทนมาพูดคุยปัญหากันได้ บ้านเมืองเรามีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองดูแล ตนไม่ห่วง
เมื่อถามว่า หากสมาชิกรัฐสภาระบุว่าจะบอยคอตไม่ร่วมประชุม จะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ก็มาประชุมตามปกติ หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ประชุมไม่ได้
**วิปรัฐบาลเสนอ"ปู่ชัย"งดประชุม
นายวิทยา แก้วภารดัย ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่าวิปรัฐบาลได้หารือกันแล้วมีความเห็นตรงกันว่า ควรการงดการประชุมรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เพราะเกรงว่า การประชุมจะไปจุดชนวน ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งอาจทำให้ผูชุมนุมมาปิดล้อมเหมือนที่เกิดขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ วิปรัฐบาลจะนำผลหารือดังกล่าวไปแจ้งนายชัย ชิดชอบ ประะธานสภาผู้แทนราษฎร ทราบ และแม้ว่าล่าสุดยังติดต่อนายชัยไม่ได้ ขณะเดียวกันยอมรับว่าได้หารือกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ก็มีความเห็นตรงกันในการหารือครั้งนี้แล้ว
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา วิปรัฐบาล กล่าวว่า มติวิปรัฐบาลได้ออกไปแล้วว่า ควรจะงดการประชุมรัฐสภาในวันนี้ และได้แจ้งไปยังสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลได้รับทราบแล้ว โดยในวันนี้ จะไม่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมสภา ซึ่งการประชุมสภาต้อง 313 เสียง
ทั้งนี้ ได้มีหนังสือจากวิปรัฐบาลไปยังประธานรัฐสภาแล้ว ซึ่งหากประธานรัฐสภายังจะให้มีการประชุมต่อไป ส.ส.รัฐบาล ก็จะไม่เข้าประชุมสภา
**ติง"ชัย" ควรใช้สติในการทำงาน
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ออกมาเรียกร้องให้ นายชัย สั่งเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันนี้ออกไปก่อน เนื่องจากไม่มีวาระที่เร่งด่วน หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งนัดประชุมในช่วงเวลาที่กำลังมีความตึงเครียดเช่นนี้
" ผมและสมาชิกวุฒิสภาจำนวนมาก ไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย กับเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง กรณี 7 ตุลา 51 อีก จึงอยากเรียกร้องให้นายชัย พิจารณาในเรื่องนี้ด้วย และในฐานะประธานรัฐสภา ต้องวางตัวเป็นกลาง ยิ่งในภาวะวิกฤติของบ้านเมือง อย่าพยายามเล่นเกมการเมืองต่อรองในพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีเจตนาอะไรแอบแฝง เพราะคงไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่า หากมีการนัดประชุมร่วมรัฐสภา ก็จะมีการผลักดันให้มีการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ยื่นเข้าสู่ระเบียบวาระมาก่อนหน้านี้ รวมถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. ของ นพ.เหวง โตจิราการ ที่ยื่นมาก่อนหน้านี้ด้วย จึงยิ่งน่าหวั่นเกรงว่า อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น และเกรงว่าจะทำให้เกิดการนองเลือด เพราะจะทำให้มวลชนที่ค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปะทะกับมวลชนคนเสื้อแดงอีก จึงอยากฝากไปยังประธานรัฐสภาให้เร่งพิจารณาทบทวนอย่างมีสติด้วย
**แฉ"ชัย"มีวาระซ่อนเร้น
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า การดื้อดึง ดันทุรังเรียกประชุมรัฐสภาของนายชัย ในวันนี้ น่าเคลื่บแคลงสงสัย และเชื่อว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้น ทั้งๆที่วาระการประชุมไม่มีเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ควรรอให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายกว่านี้ ก็สามารถทำได้
"เท่าที่ทราบ มีการเตรียมนำญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับ คปพร. ขึ้นมาพิจารณาด้วย ทั้งๆที่การบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่การประชุมสภามีปัญหาความชอบทางกฎหมาย และทางกลุ่มพันธมิตรฯได้ใช้สิทธิยื่นถอดถอนประธาน ชัย ชิดชอบไปแล้ว ซึ่งในขณะนี้รวบรวมรายชื่อได้เกือบ 4 หมื่นรายชื่อ เกิน 2 หมื่นรายชื่อ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมนำส่งประธานวุฒิสภาเท่านั้น"
ทั้งนี้ นายชัย ควรรอให้กระบวนการตรวจสอบถอดถอนเรื่องนี้ยุติก่อน ซึ่งนายชัย อาจจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งก็ได้ เพราะการบรรจุร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. ที่ยื่นโดยนพ.เหวง โตจิราการ นั้น เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะร่าง คปพร.เสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งทำไม่ได้ และเนื้อหาสาระของร่าง คปพร. ยังมุ่งลดทอนพระราชอำนาจ และนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย นอกจากนี้ยังไม่มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่อย่างใด
ฉะนั้นการลักไก่บรรจุร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. เข้าสู่วาระการประชุมของสภา จึงเป็นการประทำที่ไม่ชอบ แต่นายชัย กลับไม่สนใจกระบวนการถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ โดยเรียกประชุม 2 สภา เพื่อพิจารณาในวันนี้ เท่ากับมีเจตนากระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญอีกครั้ง อย่างชัดเจน
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า อาการดื้อดึงของนายชัย ชิดชอบ ครั้งนี้ คล้ายกับการฉวยโอกาสขอออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ โดยพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องนี้แม้ต่างกรรม ต่างวาระกัน แต่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ อาจจะโยงกับยุทธศาตร์การเมืองของพรรคภูมิใจไทย ที่อยู่เบื้องหลังต้องการซ้ำเติมสถานการณ์ให้วุ่นวาย หวังดึงพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ ซึ่งเป็นการเติมเชื้อไฟความแตกแยกอย่างชัดเจน เพราะหากนายชัย และพล.ต.ท.สมยศ อยากเห็นสถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลาย เดินหน้าไปได้ ก็คงไม่เลือกพฤติกรรมมือไม่พายเอาเท้าราน้ำแบบนี้
**เชื่อส.ส.-ส.ว.ไม่ร่วมประชุม
ด้านนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่านายชัย ชิดชอบ ยังคงยืนยันที่จะให้มีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันนี้ แม้ว่าตนได้นำข้อห่วงใยของบรรดา ส.ส. และ ส.ว. ที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการประชุมในวันนี้เข้าหารือ เนื่องจากเกรงว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนที่บริเวณหน้ารัฐสภา อาจสร้างความไม่สะดวกในการเดินทาง รวมถึงอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลา 51 แต่นายชัยได้ให้เหตุผลในการทำหน้าที่ฐานะผู้แทน ซึ่งหากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ไม่สามารถประชุมสภาได้โดยปริยาย และเชื่อว่าในวันนี้ ทั้ง ส.ส.และส.ว.จะไม่เดินทางเข้าร่วมประชุม
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัว ตนคงต้องเดินทางไปในการทำหน้าที่ ฐานะรองประธานรัฐสภา แม้ลึกๆ กลัวเหมือนกันว่าจะถูกปิดล้อมจากผู้ชุมนุม ซึ่งหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็คงต้องขอให้ฝ่ายบริหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์
นายชัย กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ หากกลุ่มเสื้อแดงจะมาปิดล้อมรัฐสภา ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะเป็นผู้ดูแลสถานการณ์ ซึ่งจะได้ปรึกษาหารือกัน โดยผู้ชุมชุมก็สามารถจัดตัวแทนมาพูดคุยปัญหากันได้ บ้านเมืองเรามีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองดูแล ตนไม่ห่วง
เมื่อถามว่า หากสมาชิกรัฐสภาระบุว่าจะบอยคอตไม่ร่วมประชุม จะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ก็มาประชุมตามปกติ หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ประชุมไม่ได้
**วิปรัฐบาลเสนอ"ปู่ชัย"งดประชุม
นายวิทยา แก้วภารดัย ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่าวิปรัฐบาลได้หารือกันแล้วมีความเห็นตรงกันว่า ควรการงดการประชุมรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เพราะเกรงว่า การประชุมจะไปจุดชนวน ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งอาจทำให้ผูชุมนุมมาปิดล้อมเหมือนที่เกิดขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ วิปรัฐบาลจะนำผลหารือดังกล่าวไปแจ้งนายชัย ชิดชอบ ประะธานสภาผู้แทนราษฎร ทราบ และแม้ว่าล่าสุดยังติดต่อนายชัยไม่ได้ ขณะเดียวกันยอมรับว่าได้หารือกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ก็มีความเห็นตรงกันในการหารือครั้งนี้แล้ว
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา วิปรัฐบาล กล่าวว่า มติวิปรัฐบาลได้ออกไปแล้วว่า ควรจะงดการประชุมรัฐสภาในวันนี้ และได้แจ้งไปยังสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลได้รับทราบแล้ว โดยในวันนี้ จะไม่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมสภา ซึ่งการประชุมสภาต้อง 313 เสียง
ทั้งนี้ ได้มีหนังสือจากวิปรัฐบาลไปยังประธานรัฐสภาแล้ว ซึ่งหากประธานรัฐสภายังจะให้มีการประชุมต่อไป ส.ส.รัฐบาล ก็จะไม่เข้าประชุมสภา
**ติง"ชัย" ควรใช้สติในการทำงาน
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ออกมาเรียกร้องให้ นายชัย สั่งเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันนี้ออกไปก่อน เนื่องจากไม่มีวาระที่เร่งด่วน หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งนัดประชุมในช่วงเวลาที่กำลังมีความตึงเครียดเช่นนี้
" ผมและสมาชิกวุฒิสภาจำนวนมาก ไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย กับเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง กรณี 7 ตุลา 51 อีก จึงอยากเรียกร้องให้นายชัย พิจารณาในเรื่องนี้ด้วย และในฐานะประธานรัฐสภา ต้องวางตัวเป็นกลาง ยิ่งในภาวะวิกฤติของบ้านเมือง อย่าพยายามเล่นเกมการเมืองต่อรองในพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีเจตนาอะไรแอบแฝง เพราะคงไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่า หากมีการนัดประชุมร่วมรัฐสภา ก็จะมีการผลักดันให้มีการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ยื่นเข้าสู่ระเบียบวาระมาก่อนหน้านี้ รวมถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. ของ นพ.เหวง โตจิราการ ที่ยื่นมาก่อนหน้านี้ด้วย จึงยิ่งน่าหวั่นเกรงว่า อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น และเกรงว่าจะทำให้เกิดการนองเลือด เพราะจะทำให้มวลชนที่ค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปะทะกับมวลชนคนเสื้อแดงอีก จึงอยากฝากไปยังประธานรัฐสภาให้เร่งพิจารณาทบทวนอย่างมีสติด้วย
**แฉ"ชัย"มีวาระซ่อนเร้น
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า การดื้อดึง ดันทุรังเรียกประชุมรัฐสภาของนายชัย ในวันนี้ น่าเคลื่บแคลงสงสัย และเชื่อว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้น ทั้งๆที่วาระการประชุมไม่มีเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ควรรอให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายกว่านี้ ก็สามารถทำได้
"เท่าที่ทราบ มีการเตรียมนำญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับ คปพร. ขึ้นมาพิจารณาด้วย ทั้งๆที่การบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่การประชุมสภามีปัญหาความชอบทางกฎหมาย และทางกลุ่มพันธมิตรฯได้ใช้สิทธิยื่นถอดถอนประธาน ชัย ชิดชอบไปแล้ว ซึ่งในขณะนี้รวบรวมรายชื่อได้เกือบ 4 หมื่นรายชื่อ เกิน 2 หมื่นรายชื่อ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมนำส่งประธานวุฒิสภาเท่านั้น"
ทั้งนี้ นายชัย ควรรอให้กระบวนการตรวจสอบถอดถอนเรื่องนี้ยุติก่อน ซึ่งนายชัย อาจจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งก็ได้ เพราะการบรรจุร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. ที่ยื่นโดยนพ.เหวง โตจิราการ นั้น เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะร่าง คปพร.เสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งทำไม่ได้ และเนื้อหาสาระของร่าง คปพร. ยังมุ่งลดทอนพระราชอำนาจ และนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย นอกจากนี้ยังไม่มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่อย่างใด
ฉะนั้นการลักไก่บรรจุร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร. เข้าสู่วาระการประชุมของสภา จึงเป็นการประทำที่ไม่ชอบ แต่นายชัย กลับไม่สนใจกระบวนการถอดถอนตามรัฐธรรมนูญ โดยเรียกประชุม 2 สภา เพื่อพิจารณาในวันนี้ เท่ากับมีเจตนากระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญอีกครั้ง อย่างชัดเจน
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า อาการดื้อดึงของนายชัย ชิดชอบ ครั้งนี้ คล้ายกับการฉวยโอกาสขอออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ โดยพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องนี้แม้ต่างกรรม ต่างวาระกัน แต่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ อาจจะโยงกับยุทธศาตร์การเมืองของพรรคภูมิใจไทย ที่อยู่เบื้องหลังต้องการซ้ำเติมสถานการณ์ให้วุ่นวาย หวังดึงพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ ซึ่งเป็นการเติมเชื้อไฟความแตกแยกอย่างชัดเจน เพราะหากนายชัย และพล.ต.ท.สมยศ อยากเห็นสถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลาย เดินหน้าไปได้ ก็คงไม่เลือกพฤติกรรมมือไม่พายเอาเท้าราน้ำแบบนี้
**เชื่อส.ส.-ส.ว.ไม่ร่วมประชุม
ด้านนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เปิดเผยว่านายชัย ชิดชอบ ยังคงยืนยันที่จะให้มีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันนี้ แม้ว่าตนได้นำข้อห่วงใยของบรรดา ส.ส. และ ส.ว. ที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการประชุมในวันนี้เข้าหารือ เนื่องจากเกรงว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนที่บริเวณหน้ารัฐสภา อาจสร้างความไม่สะดวกในการเดินทาง รวมถึงอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลา 51 แต่นายชัยได้ให้เหตุผลในการทำหน้าที่ฐานะผู้แทน ซึ่งหากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ไม่สามารถประชุมสภาได้โดยปริยาย และเชื่อว่าในวันนี้ ทั้ง ส.ส.และส.ว.จะไม่เดินทางเข้าร่วมประชุม
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัว ตนคงต้องเดินทางไปในการทำหน้าที่ ฐานะรองประธานรัฐสภา แม้ลึกๆ กลัวเหมือนกันว่าจะถูกปิดล้อมจากผู้ชุมนุม ซึ่งหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็คงต้องขอให้ฝ่ายบริหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์