“เทพเทือก” กร้าว จ่อรวบแกนนำหางแดงหากทำผิดกฎหมาย ยั่วยุให้เกิดเหตุรุนแรง ไม่สนถูกขีดเส้นยุบสภา ย้ำถ้าชุมนุมโดยสงบภายใต้ กม.ไม่เป็นไร สั่งทีม กม.ตีความ “ถุงปลาร้า” เป็นอาวุธหรือไม่ รับจับตากลุ่มฮาร์ดคอร์หลายกลุ่มจ้องก่อเหตุร้าย ประเมินสถานการณ์วันอาทิตย์นี้ ก่อนตัดสินใจหาทำเนียบฯ สำรอง เฉ่ง “นช.แม้ว” พูดเท็จ ปลุกระดมรากหญ้าล้มอำมาตย์ ยัน “รัฐบาลมาร์ค” มาตามครรลองประชาธิปไตย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อบ (ผอ.ศอ.รส.) กล่าวว่า วันนี้ (12 มี.ค.) ยังไม่มีการรายงานสถานการณ์ว่ามีการก่อเหตุ ทั้งนี้ ทางฝ่ายที่เคลื่อนไหวจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ที่ตนต้องเตรียมการเอาไว้ก่อน เพราะต้องการให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ มีความอบอุ่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการป้องกันการก่อวินาศกรรม เพราะฉะนั้น ตนต้องรีบวางกำลังเสียก่อนจะได้จัดเตรียมกำลังและซักซ้อมความพร้อม ซึ่งเราอนุญาตให้เขาชุมนุมได้ตั้งแต่สนามหลวง ถนนราชดำเนิน ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ถนนด้านหน้าทำเนียบฯ คือ ถนนนครปฐมกับถนนลูกหลวง เป็นพื้นที่ที่ห้ามไม่ให้มาชุมนุม หรือปิดล้อมหรือบุกเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลไม่ได้
ส่วนที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงระบุว่าถ้าวันที่ 14 มี.ค.รัฐบาลยังไม่ยุบสภา วันที่ 15 มี.ค.จะมีมาตรการปิดล้อมกรุงเทพฯ และจะเพิ่มมาตรการรุนแรงขึ้น ตรงนี้รัฐบาลมีมาตรการการดูแลป้องกันอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร จะเพิ่มมาตรการอะไรก็ได้ ถ้าเป็นการชุมนุมโดยสงบและอยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่ทำผิดกฎหมายไม่ได้ และถ้าปิดการจราจรทำให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ เดือดร้อนก็ผิดกฎหมาย ต้องดำเนินคดี
“ข้อเรียกร้องเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผมเห็นว่าวิธีการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่การใช้กำลังเข้ามาข่มขู่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าช่วงเช้าวันที่ 15 มี.ค.ประชาชนจะสามารถมาทำงานได้ตามปกติหรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เราจะพยายามที่จะดูแลรักษาความเรียบร้อยให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดอำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นจุดแรกที่จะเกิดการปะทะกัน ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับเจ้าหน้าที่ ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลไม่ปะทะ เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับคำสั่งให้ไปปะทะกับประชาชน แต่จะพยายามที่จะขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนว่าเราจำเป็นจริงๆ ที่ไม่ให้รถที่ใช้ในไร่นา อย่างรถอีแต๋นเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ เพราะไม่ใช่รถประเภทนั้นมาวิ่งบนถนน ส่วนรถกระบะเราขอร้องอยากให้จอดอยู่ข้างนอก และเราจะเอารถบัสไปรับผู้ชุมนุมมาส่งยังที่ชุมนุมเราก็ยินดี เพราะไม่ต้องการให้ใครเอารถมาจอดขีดขวางการจราจรในกรุงเทพฯ หรือเอาไปทำอย่างอื่นที่อาจจะเป็นอันตรายต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ก็จะพยายามพูดจาด้วยเหตุด้วยผล ที่ด่านตรวจมีชุดพยาบาลคอยดูแล ถ้าใครร้อนเป็นลมมีน้ำคอยให้บริการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานข่าวหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาปักหลักบริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านของไทย รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่มีรายงานข่าว
ส่วนการชุมนุมในครั้งนี้ดูเหมือนว่าสิ่งปฏิกูลจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุม ทางรัฐบาลเตรียมมาตรการป้องกันอย่างไร เพราะจะทำให้การชุมนุมในครั้งนี้เลอะเทอะสกปรก นายสุเทพกล่าวว่า น่ากังวลใจ แม้ว่าจะเป็นการชุมนุมที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญก็ไม่ควรจะทำอะไรที่เลอะเทอะ รุนแรง ส่วนจะถือเป็นอาวุธหรือไม่ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเขาดู
ต่อข้อถามว่าจะมีการเปลี่ยนแนวทางในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะเสื้อแดงมีการเปลี่ยนอาวุธใหม่มาเป็นถุงปลาร้า นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนก็มีเท่านั้นจะไปเปลี่ยนอะไรได้นักหนา ทั้งนี้ วันเดียวกันตนจะนั่งทำงานอยู่ที่ ศอ.รส.ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ทั้งวัน สำหรับการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้นตนประเมินว่าจะชุมนุมยืดเยื้ออยู่นาน 3 วัน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่โรงพยาบาลศิริราช ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้มีคนแปลกปลอมเข้าไปก่อเหตุอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า เราทำรัดกุม 100 เปอร์เซ็นต์ ผบ.ทร.เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช มีกำลังทหารมาจากกองพล 1 กองพล 9 ช่วยดูแลรอบนอก ส่วนทางเรือบริเวณคลองบางกอกน้อย ทางกองทัพเรือเป็นผู้ดูแลทั้งหมด จะพยายามขอร้องผู้มาชุมนุมอย่าได้ทำอะไรที่คนไทยรู้สึกว่า เป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่ทำอะไรแล้วขัดต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งแผ่นดิน ท่านก็จะเสียหายไปเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสถานการณ์รุนแรงจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปควบคุมแกนนำ นายสุเทพกล่าวว่า เราทำตามกฎหมาย ถ้าผู้มาชุมนุมก่อเหตุที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือผิดกฎหมาย เราต้องจับกุม ดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องจับกุม ถ้าการฝ่าฝืนกฎหมายมาจากการยุยง ส่งเสริมของแกนนำก็ต้องจับแกนนำ นายสุเทพยังกล่าวอีกว่ายังไม่ได้เตรียมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนาะ เป็นทำเนียบฯ สำรอง มีเพียงแต่กองอำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อบ (ศอ.รส.) ซึ่งตนเป็นผู้อำนวยการดูแลอยู่ จะไปตั้งที่กรมทหารราบที่ 11 ที่บางเขน เพราะไม่อยากให้อยู่ในลักษณะการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมเดิมที่เราใช้ที่กองทัพบกอีกทั้งการเข้า-ออกคงไม่สะดวกและจะทำให้ใกล้กับผู้ชุมนุมเกินไป
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ประชุม ครม.ก็ใช้ที่ทำเนียบตามเดิมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็ประชุมที่ทำเนียบฯ เพราะทำเนียบฯ จะไม่ให้ปิดล้อม และตนไม่ทราบว่ามีคำสั่งให้ไปทำงานที่ศูนย์ราชการฯ ส่วนวันจันทร์จะทำงานได้หรือไม่นั้นก็ให้รอดูวันอาทิตย์อีกทีก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนที่มีการตั้งด่านตรวจตามจุดใหญ่ๆ บนถนนสายเอเชียเป็นการตรวจเพื่อสกัดไม่ให้เข้ามาหรือให้เข้ามากันแน่ นายสุเทพกล่าวว่า ให้เข้ามา เจ้าหน้าที่รับคำสั่งชัดเจนว่าไม่ให้สกัดกั้นขัดขวาง แต่ให้ตรวจสอบให้ชัดว่า ไม่มีอาวุธเข้ามา ไม่มีของต้องห้ามและไม่มีคนต่างด้าวปะปนมา
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงมีการโฟนอินเรียกร้องให้คนชนบท รากหญ้าออกมาต่อสู้ปลดแอกจากอำมาตย์ และการถูกกดขี่ข่มเหงของรัฐบาลจะชี้แจงอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงพยายามพูดซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศและสื่อมวลชนก็เห็นอยู่แล้ว ว่ารัฐบาลนี้มาเป็นรัฐบาลตามครรลองประชาธิปไตยทุกประการ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้รับการเลือกตั้งมาในสภาเหมือนกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยได้รับเลือกตั้ง เหมือนกับที่นายสมัคร สุนทรเวช หรือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับเลือกตั้งมาวิธีเดียวกันเลย ไม่มีอะไรแตกต่างกันแม้แต่อย่างเดียว
“เมื่อเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้ารัฐบาลก็ไม่ได้กระทำการใดที่เป็นการกดขี่ข่มเหงประชาน ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลนี้ได้ทำให้พี่น้องประชาชนซึ่งเป็นคนข้างล่างมีฐานะดีขึ้น รายได้ทางการเกษตรทุกชนิด ขายได้ราคาแพงกว่าในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ประชาชนก็มีความสุข เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ไม่ห็นว่าใครถูกกดขี่ข่มเหงแต่ประการใด สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดไป ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้ประชาชนคนกรุงเทพฯ ยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการก่อวินาศกรรมใช่หรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เรื่องวินาศกรรมต้องตื่นตัวเข้าไว้ จะไปพูดว่าไม่กังวลไม่ได้ แต่ว่าไม่ต้องตระหนกตกใจ คิดว่าเท่าที่ตนติดตามเป้าหมายของเขาคือสถานการที่ราชการ ไม่ใช่บ้านเรือนของราษฎรหรือประชาชนทั่วไป แต่ว่าเพื่อความไม่ประมาท ถ้าประชาชนได้คอยช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา เห็นอะไรผิดสังเกตโทรศัพท์ไปแจ้งที่สายด่วน 1555 หรือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารที่กระจายอยู่เต็มพื้นที่ เราก็สามารถระงับเหตุได้ เพราะแม้เป็นสถานที่ราชการก็สร้างด้วยเงินภาษีอากรของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มฮาร์ดคอร์ที่ต้องจับตาดูมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า ตนคงไประบุตัวก่อนล่วงหน้าไม่ได้ ไม่ใช่ว่าปิดบังขืนทำอย่างนั้นจะกลายเป็นการกล่าวหาหมิ่นประมาท กลายเป็นตนไปผิดกฎหมายเสียเอง แต่เราต้องระแวดระวัง เราพยายามจับตาอยู่โดยมีอยู่หลายกลุ่ม ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปฏิกิริยาของต่างประเทศได้มีคำสั่งห้ามคนของเขาเดินทางเข้ามาประเทศไทย และมีการวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ในประเทศไทยค่อนข้างมาก เราจะชี้แจงอย่างไร รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดาของประเทศเราก็มีข่าวกรอง มีการข่าวภายในประเทศเรา ต่างประเทศเขาก็มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านข่าวเหมือนกัน เป็นสิทธิของเขาที่จะเป็นห่วงประชาชน คิดว่าหน่วยงานต่างประเทศคงเห็นพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวาร มันจะโน้มไปทางด้านที่จะเป็นการก่อการร้ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น สิ่งที่ดำเนินการไปไม่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ
ต่อข้อถามว่า การที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ไปยื่นหนังสือขอให้ทางการสหรัฐอาหรับอามิเรตส์ (ยูเออี) ขับ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นประเทศนั้น จะได้รับความร่วมมือแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า เข้าใจว่า รมว.การต่างประเทศมีการเจรจาที่จะแลกเปลี่ยนตัวนักโทษยูเออีที่ เขาอยากจะขอนำตัวไปรับโทษที่ยูเออี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะต่อรองกันว่ามีคนของเราที่ต้องคดีแล้วหนีไปอยู่ที่บ้านเขาและใช้พื้นที่บ้านเขา ทำร้ายประเทศไทยอยู่ เป็นวิธีการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ตนไม่ได้รับผิดชอบงานกระทรวงต่างประเทศก็เลยตอบแทนไม่ได้ เมื่อถามว่าที่มีการระบุเรื่องว่าคนนั้นคนนี้ก่อการร้าย คำว่าการก่อการร้ายหมายถึงอะไรกันแน่ นายสุเทพกล่าวว่า การเอาระเบิดไปวางที่ศาลฎีกา เอาระเบิดมือไปขว้างที่ธนาคารกรุงเทพสาขาต่างๆ อย่างนี้ถือว่าก่อการร้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วทำไมรัฐบาลไม่เคยสอบสวนออกมาให้ได้ข้อสรุปขั้นสุดท้าย ประชาชนจะได้หายข้องใจว่าใครกันแน่ที่ลงมือทำ นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการ เมื่อก่อนมีการวางระเบิดอย่างนี้ รัฐบาลก่อนๆ ไม่ว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครๆ ก็ไม่เคยจับใครได้ แต่รัฐบาลนี้จับผู้ต้องหาได้ ขณะนี้ดำเนินคดีขังอยู่ในเรือนจำและจะดำเนินคดีก็จะปรากฏชัดเจนขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีการพิจารณาเรื่องการถอนประกันแกนนำ กลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดงอีกหรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เรียก ผบช.น.เข้าไปพบ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ว่าการดำเนินการทุกอย่างจะทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าทั้งฝ่ายเสื้อแดงและรัฐบาลอาจมีการปะทะกันจนกระทั่งเลยเถิดไปจนถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง จะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าการทำงานเจ้าหน้าที่จะไม่เลยเถิดไปถึงขนาดนั้น นายสุเทพกล่าวว่า สิ่งที่ตนให้ความมั่นใจพี่น้องประชาชนได้ดีที่สุดคือ วันนี้ประชาชนเปิดประตูบ้านออกมาก็จะเห็นตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ของเรายืนดูแลรักษาการณ์อยู่ตามถนน สามแยกสี่แยกต่างๆ โดยไม่มีอาวุธ เมื่อวานก็นำมาแสดงชัดเจนว่า มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสายตรวจลาดตระเวณเท่านั้นที่ถืออาวุธ ส่วนถ้าในการชุมนุมคราวนี้ใครจะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ตนก็ต้องมีตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาท อาวุธครบมือไว้สำหรับจัดการกับคนร้ายโดยเฉพาะ ไม่มีเป้าหมายที่จะไปจัดการอะไรกับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามแย้งว่า แต่ภาพลักษณ์ไม่ค่อยดี เหมือนประเทศอยู่ในภาวะสงคราม ทหาร ตรวจ แต่งเครื่องแบบยืนเต็มเมืองหลวงไปหมด นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าตนไม่ทำอย่างนี้ก็จะเสียหายกับบ้านเมืองเมื่อมีคนมาเผาบ้านเผาเมือง ปิดการจราจร ก่อวินาศกรรมก็จะยิ่งเสียหายมากไป สิ่งที่ทำประชาชนเห็นแล้วว่าตั้งใจจะมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ผู้สื่อข่าวแย้งอีกว่าแต่มองไปอีกแง่หนึ่งก็เป็นการตื่นตระหนกจนเกินเหตุ นายสุเทพกล่าวว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้มะรืนนี้สื่อมวลชนก็จะเปลี่ยนคำถามที่จะถามตนว่า เกินเหตุหรือไม่เกินเหตุ
ส่วนที่ประธานสภาฯ เสนอให้ใช้สภาเป็นเวทีกลางในการเจรจา และนายโคทม อารียา ผอ.สถาบันสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ออกมาเสนอแนะให้ใช้การเจรจาเพื่อหาทางออกให้วิกฤตประเทศครั้งนี้ ถือว่าสภาวการณ์เช่นนี้เลยขีดการเจรจาไปแล้วหรือยัง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เลย เจรจาได้ทุกเวลา คราวนี้รัฐบาลถึงตั้งเตรียมเจรจาขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ซึ่งเมื่อตั้งทีมขึ้นมาก็สามารถเจรจาได้ทุกเรื่องทุกประเด็น ที่ประสงค์จะให้มีการเจรจากันเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เจรจาได้ทุกแห่งแล้วแต่จะนัดหมายกัน
ส่วนที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงระบุว่าถ้าวันที่ 14 มี.ค.รัฐบาลยังไม่ยุบสภา วันที่ 15 มี.ค.จะมีมาตรการปิดล้อมกรุงเทพฯ และจะเพิ่มมาตรการรุนแรงขึ้น ตรงนี้รัฐบาลมีมาตรการการดูแลป้องกันอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร จะเพิ่มมาตรการอะไรก็ได้ ถ้าเป็นการชุมนุมโดยสงบและอยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่ทำผิดกฎหมายไม่ได้ และถ้าปิดการจราจรทำให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ เดือดร้อนก็ผิดกฎหมาย ต้องดำเนินคดี
“ข้อเรียกร้องเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผมเห็นว่าวิธีการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่การใช้กำลังเข้ามาข่มขู่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าช่วงเช้าวันที่ 15 มี.ค.ประชาชนจะสามารถมาทำงานได้ตามปกติหรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เราจะพยายามที่จะดูแลรักษาความเรียบร้อยให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดอำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นจุดแรกที่จะเกิดการปะทะกัน ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับเจ้าหน้าที่ ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลไม่ปะทะ เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับคำสั่งให้ไปปะทะกับประชาชน แต่จะพยายามที่จะขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนว่าเราจำเป็นจริงๆ ที่ไม่ให้รถที่ใช้ในไร่นา อย่างรถอีแต๋นเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ เพราะไม่ใช่รถประเภทนั้นมาวิ่งบนถนน ส่วนรถกระบะเราขอร้องอยากให้จอดอยู่ข้างนอก และเราจะเอารถบัสไปรับผู้ชุมนุมมาส่งยังที่ชุมนุมเราก็ยินดี เพราะไม่ต้องการให้ใครเอารถมาจอดขีดขวางการจราจรในกรุงเทพฯ หรือเอาไปทำอย่างอื่นที่อาจจะเป็นอันตรายต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ก็จะพยายามพูดจาด้วยเหตุด้วยผล ที่ด่านตรวจมีชุดพยาบาลคอยดูแล ถ้าใครร้อนเป็นลมมีน้ำคอยให้บริการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานข่าวหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาปักหลักบริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านของไทย รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่มีรายงานข่าว
ส่วนการชุมนุมในครั้งนี้ดูเหมือนว่าสิ่งปฏิกูลจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุม ทางรัฐบาลเตรียมมาตรการป้องกันอย่างไร เพราะจะทำให้การชุมนุมในครั้งนี้เลอะเทอะสกปรก นายสุเทพกล่าวว่า น่ากังวลใจ แม้ว่าจะเป็นการชุมนุมที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญก็ไม่ควรจะทำอะไรที่เลอะเทอะ รุนแรง ส่วนจะถือเป็นอาวุธหรือไม่ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเขาดู
ต่อข้อถามว่าจะมีการเปลี่ยนแนวทางในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะเสื้อแดงมีการเปลี่ยนอาวุธใหม่มาเป็นถุงปลาร้า นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร ตนก็มีเท่านั้นจะไปเปลี่ยนอะไรได้นักหนา ทั้งนี้ วันเดียวกันตนจะนั่งทำงานอยู่ที่ ศอ.รส.ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ทั้งวัน สำหรับการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้นตนประเมินว่าจะชุมนุมยืดเยื้ออยู่นาน 3 วัน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่โรงพยาบาลศิริราช ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้มีคนแปลกปลอมเข้าไปก่อเหตุอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า เราทำรัดกุม 100 เปอร์เซ็นต์ ผบ.ทร.เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช มีกำลังทหารมาจากกองพล 1 กองพล 9 ช่วยดูแลรอบนอก ส่วนทางเรือบริเวณคลองบางกอกน้อย ทางกองทัพเรือเป็นผู้ดูแลทั้งหมด จะพยายามขอร้องผู้มาชุมนุมอย่าได้ทำอะไรที่คนไทยรู้สึกว่า เป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่ทำอะไรแล้วขัดต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งแผ่นดิน ท่านก็จะเสียหายไปเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสถานการณ์รุนแรงจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปควบคุมแกนนำ นายสุเทพกล่าวว่า เราทำตามกฎหมาย ถ้าผู้มาชุมนุมก่อเหตุที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือผิดกฎหมาย เราต้องจับกุม ดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ต้องจับกุม ถ้าการฝ่าฝืนกฎหมายมาจากการยุยง ส่งเสริมของแกนนำก็ต้องจับแกนนำ นายสุเทพยังกล่าวอีกว่ายังไม่ได้เตรียมศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนาะ เป็นทำเนียบฯ สำรอง มีเพียงแต่กองอำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อบ (ศอ.รส.) ซึ่งตนเป็นผู้อำนวยการดูแลอยู่ จะไปตั้งที่กรมทหารราบที่ 11 ที่บางเขน เพราะไม่อยากให้อยู่ในลักษณะการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมเดิมที่เราใช้ที่กองทัพบกอีกทั้งการเข้า-ออกคงไม่สะดวกและจะทำให้ใกล้กับผู้ชุมนุมเกินไป
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ประชุม ครม.ก็ใช้ที่ทำเนียบตามเดิมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็ประชุมที่ทำเนียบฯ เพราะทำเนียบฯ จะไม่ให้ปิดล้อม และตนไม่ทราบว่ามีคำสั่งให้ไปทำงานที่ศูนย์ราชการฯ ส่วนวันจันทร์จะทำงานได้หรือไม่นั้นก็ให้รอดูวันอาทิตย์อีกทีก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนที่มีการตั้งด่านตรวจตามจุดใหญ่ๆ บนถนนสายเอเชียเป็นการตรวจเพื่อสกัดไม่ให้เข้ามาหรือให้เข้ามากันแน่ นายสุเทพกล่าวว่า ให้เข้ามา เจ้าหน้าที่รับคำสั่งชัดเจนว่าไม่ให้สกัดกั้นขัดขวาง แต่ให้ตรวจสอบให้ชัดว่า ไม่มีอาวุธเข้ามา ไม่มีของต้องห้ามและไม่มีคนต่างด้าวปะปนมา
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงมีการโฟนอินเรียกร้องให้คนชนบท รากหญ้าออกมาต่อสู้ปลดแอกจากอำมาตย์ และการถูกกดขี่ข่มเหงของรัฐบาลจะชี้แจงอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงพยายามพูดซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศและสื่อมวลชนก็เห็นอยู่แล้ว ว่ารัฐบาลนี้มาเป็นรัฐบาลตามครรลองประชาธิปไตยทุกประการ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้รับการเลือกตั้งมาในสภาเหมือนกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยได้รับเลือกตั้ง เหมือนกับที่นายสมัคร สุนทรเวช หรือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับเลือกตั้งมาวิธีเดียวกันเลย ไม่มีอะไรแตกต่างกันแม้แต่อย่างเดียว
“เมื่อเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้ารัฐบาลก็ไม่ได้กระทำการใดที่เป็นการกดขี่ข่มเหงประชาน ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลนี้ได้ทำให้พี่น้องประชาชนซึ่งเป็นคนข้างล่างมีฐานะดีขึ้น รายได้ทางการเกษตรทุกชนิด ขายได้ราคาแพงกว่าในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ประชาชนก็มีความสุข เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ไม่ห็นว่าใครถูกกดขี่ข่มเหงแต่ประการใด สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดไป ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้ประชาชนคนกรุงเทพฯ ยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการก่อวินาศกรรมใช่หรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เรื่องวินาศกรรมต้องตื่นตัวเข้าไว้ จะไปพูดว่าไม่กังวลไม่ได้ แต่ว่าไม่ต้องตระหนกตกใจ คิดว่าเท่าที่ตนติดตามเป้าหมายของเขาคือสถานการที่ราชการ ไม่ใช่บ้านเรือนของราษฎรหรือประชาชนทั่วไป แต่ว่าเพื่อความไม่ประมาท ถ้าประชาชนได้คอยช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา เห็นอะไรผิดสังเกตโทรศัพท์ไปแจ้งที่สายด่วน 1555 หรือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารที่กระจายอยู่เต็มพื้นที่ เราก็สามารถระงับเหตุได้ เพราะแม้เป็นสถานที่ราชการก็สร้างด้วยเงินภาษีอากรของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มฮาร์ดคอร์ที่ต้องจับตาดูมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า ตนคงไประบุตัวก่อนล่วงหน้าไม่ได้ ไม่ใช่ว่าปิดบังขืนทำอย่างนั้นจะกลายเป็นการกล่าวหาหมิ่นประมาท กลายเป็นตนไปผิดกฎหมายเสียเอง แต่เราต้องระแวดระวัง เราพยายามจับตาอยู่โดยมีอยู่หลายกลุ่ม ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปฏิกิริยาของต่างประเทศได้มีคำสั่งห้ามคนของเขาเดินทางเข้ามาประเทศไทย และมีการวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ในประเทศไทยค่อนข้างมาก เราจะชี้แจงอย่างไร รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดาของประเทศเราก็มีข่าวกรอง มีการข่าวภายในประเทศเรา ต่างประเทศเขาก็มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านข่าวเหมือนกัน เป็นสิทธิของเขาที่จะเป็นห่วงประชาชน คิดว่าหน่วยงานต่างประเทศคงเห็นพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวาร มันจะโน้มไปทางด้านที่จะเป็นการก่อการร้ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น สิ่งที่ดำเนินการไปไม่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ
ต่อข้อถามว่า การที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ไปยื่นหนังสือขอให้ทางการสหรัฐอาหรับอามิเรตส์ (ยูเออี) ขับ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นประเทศนั้น จะได้รับความร่วมมือแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า เข้าใจว่า รมว.การต่างประเทศมีการเจรจาที่จะแลกเปลี่ยนตัวนักโทษยูเออีที่ เขาอยากจะขอนำตัวไปรับโทษที่ยูเออี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะต่อรองกันว่ามีคนของเราที่ต้องคดีแล้วหนีไปอยู่ที่บ้านเขาและใช้พื้นที่บ้านเขา ทำร้ายประเทศไทยอยู่ เป็นวิธีการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ ตนไม่ได้รับผิดชอบงานกระทรวงต่างประเทศก็เลยตอบแทนไม่ได้ เมื่อถามว่าที่มีการระบุเรื่องว่าคนนั้นคนนี้ก่อการร้าย คำว่าการก่อการร้ายหมายถึงอะไรกันแน่ นายสุเทพกล่าวว่า การเอาระเบิดไปวางที่ศาลฎีกา เอาระเบิดมือไปขว้างที่ธนาคารกรุงเทพสาขาต่างๆ อย่างนี้ถือว่าก่อการร้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วทำไมรัฐบาลไม่เคยสอบสวนออกมาให้ได้ข้อสรุปขั้นสุดท้าย ประชาชนจะได้หายข้องใจว่าใครกันแน่ที่ลงมือทำ นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการ เมื่อก่อนมีการวางระเบิดอย่างนี้ รัฐบาลก่อนๆ ไม่ว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครๆ ก็ไม่เคยจับใครได้ แต่รัฐบาลนี้จับผู้ต้องหาได้ ขณะนี้ดำเนินคดีขังอยู่ในเรือนจำและจะดำเนินคดีก็จะปรากฏชัดเจนขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีการพิจารณาเรื่องการถอนประกันแกนนำ กลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดงอีกหรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เรียก ผบช.น.เข้าไปพบ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ว่าการดำเนินการทุกอย่างจะทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าทั้งฝ่ายเสื้อแดงและรัฐบาลอาจมีการปะทะกันจนกระทั่งเลยเถิดไปจนถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง จะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าการทำงานเจ้าหน้าที่จะไม่เลยเถิดไปถึงขนาดนั้น นายสุเทพกล่าวว่า สิ่งที่ตนให้ความมั่นใจพี่น้องประชาชนได้ดีที่สุดคือ วันนี้ประชาชนเปิดประตูบ้านออกมาก็จะเห็นตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ของเรายืนดูแลรักษาการณ์อยู่ตามถนน สามแยกสี่แยกต่างๆ โดยไม่มีอาวุธ เมื่อวานก็นำมาแสดงชัดเจนว่า มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสายตรวจลาดตระเวณเท่านั้นที่ถืออาวุธ ส่วนถ้าในการชุมนุมคราวนี้ใครจะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ตนก็ต้องมีตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาท อาวุธครบมือไว้สำหรับจัดการกับคนร้ายโดยเฉพาะ ไม่มีเป้าหมายที่จะไปจัดการอะไรกับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามแย้งว่า แต่ภาพลักษณ์ไม่ค่อยดี เหมือนประเทศอยู่ในภาวะสงคราม ทหาร ตรวจ แต่งเครื่องแบบยืนเต็มเมืองหลวงไปหมด นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าตนไม่ทำอย่างนี้ก็จะเสียหายกับบ้านเมืองเมื่อมีคนมาเผาบ้านเผาเมือง ปิดการจราจร ก่อวินาศกรรมก็จะยิ่งเสียหายมากไป สิ่งที่ทำประชาชนเห็นแล้วว่าตั้งใจจะมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ผู้สื่อข่าวแย้งอีกว่าแต่มองไปอีกแง่หนึ่งก็เป็นการตื่นตระหนกจนเกินเหตุ นายสุเทพกล่าวว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้มะรืนนี้สื่อมวลชนก็จะเปลี่ยนคำถามที่จะถามตนว่า เกินเหตุหรือไม่เกินเหตุ
ส่วนที่ประธานสภาฯ เสนอให้ใช้สภาเป็นเวทีกลางในการเจรจา และนายโคทม อารียา ผอ.สถาบันสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ออกมาเสนอแนะให้ใช้การเจรจาเพื่อหาทางออกให้วิกฤตประเทศครั้งนี้ ถือว่าสภาวการณ์เช่นนี้เลยขีดการเจรจาไปแล้วหรือยัง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เลย เจรจาได้ทุกเวลา คราวนี้รัฐบาลถึงตั้งเตรียมเจรจาขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ซึ่งเมื่อตั้งทีมขึ้นมาก็สามารถเจรจาได้ทุกเรื่องทุกประเด็น ที่ประสงค์จะให้มีการเจรจากันเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เจรจาได้ทุกแห่งแล้วแต่จะนัดหมายกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น