xs
xsm
sm
md
lg

ตร.-ทหาร5หมื่นรับมือแดง-จ้าง2พันปาขวดน้ำมัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “สุเทพ” นั่งประธานถก ศอ.รส. รับมือแดงชุมนุม ลั่นไม่ให้กระทบและระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท สรุปแผนกำลัง 5 หมื่น ทหาร 3 หมื่น ตำรวจ-พลเรือน 1หมื่นคน ขณะที่ข่าวกรองตำรวจประเมินม๊อบสูงสุด 2 แสนคน ขณะที่กอ.รมน.ตั้ง “กอร์ปศักดิ์” ประสาน 3 เกลอ พร้อมมีกระแสสะพัดข่าววินมอเตอร์ไซด์รับ 2 พัน หาขวดน้ำมัน

ที่กองบัญชาการกองทัพบก วานนี้ (10 มี.ค.) นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอรส.) โดยมี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. นอกจากนี้ ยังมีนายทหารระดับผู้บังคับกองพล และนายตำรวจทุกกองกรม เข้าร่วมประชุมใช้เวลาในการประชุม 5 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 19.00 น. นายสุเทพ พร้อมด้วยคณะกรรมการ ศอ.รส. แถลงผลการประชุมว่า ศอ.รส. ยึดหลักปฏิบัติว่าประชาชนเจ้าของประเทศ เมื่อนายกฯในฐานะ ผอ.รมน. ตั้งตนเป็น ผอ. ศอ.รส. จึงเชิญผู้มีหน้าที่รับผิดชอบมาหารือขั้นตอนรายละเอียดการปฏิบัติ

ขณะที่ทหารมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ กำลังที่ใช้ทั้งหมดมี 50,000 คน เป็นทหาร 30,000 คน ตำรวจ 10,000 คน และพลเรือน 10,000 คน หากจำเป็นก็จะเพิ่มเติมในช่วงการชุมนม โดยมีเป้าหมายใหญ่คือดูแลรักษาความสงบของบ้านเมืองให้ได้ ให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติสุข โดย เจ้าหน้าที่จะไม่พกพาอาวุธ ไม่มีปืนสั้น ไม่มีปืนยาว ไม่มีเจตนาปราบปรามใคร เจ้าหน้าที่มีอุปกรณ์ป้องกันตัวเองและที่จำเป็นระงับเหตุตามหลักสากล คือ โลห์ กระบอง แก๊สน้ำตา รถดับเพลิง เว้นแต่ว่าการชุมนุมครั้งนี้เกิดมีคนร้ายแฝงมาทำร้ายเจ้าหน้าที่จะมีตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือ หน่วยสวาท เจ้าหน้าที่ชุดนี้จะเข้าปราบปรามคนร้าย ซึ่งแต่งเครื่องแบบตำรวจชัดเจน นอกจากชุดนี้ไม่มีใครติดอาวุธ มีเพียงสารวัตรทหาร และตำรวจที่ลาดตระเวน ซึ่งหน่วยสวาทจะเข้าไปดูแลความปลอดภัยในชุมชน เช่น ชุมชนนางเลิ้ง ดินแดง ที่เคยได้รับความเดือดร้อน ขอให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วและพร้อมเข้าทุกพื้นที่ใน 15 นาที

นายสุเทพ กล่าวว่า เรามีข้อกำหนดชัดเจนไม่ให้ผู้ชุมนมบุกรุกสถานที่ราชการ หรือบ้านเรือนทั้งคนธรรมดาและคนสำคัญ เพราะการกระทำแบบนี้ไม่คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และ ศอ.รส. จะชัดเจ้าหน้าที่เข้าไประงับจับกุมดำเนินคดีทันที ทั้งนี้ ผู้ชุมนมจะบุกรุกเข้าไปที่ตั้งทหาร หรือ สถานีตำรวจไม่ได้เด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่ไม่นำอาวุธออกมาแต่เก็บไว้ที่ค่าย หากมีใครบุกรุกเข้าไป เราปล่อยให้เข้าไปไม่ได้ เพราะอาจจะเอาอาวุธมาทำร้ายประชาชน และจะเกิดเหตุเป็นสงครามกลางเมืองขึ้น หากผู้ใดบุกรุกจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่เราเข้าปราบปรามทันที

นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.เป็นต้นไป ห้ามไม่ให้ใช้วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องขยายเสียง ปลุกระดมให้ประชาชนกระทำการใดที่กระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมืองโดยเด็ดขาด และตั้งแต่คืนนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าดูแลจุดสำคัญทั่ว กทม. กำลังทั้งหมดมาตามคำสั่ง ศอ.รส. อย่าตกใจหากมีกระแสข่าวมาทำการปฏิวัติ นอกจากนี้ ยังมีสายตรวจพิเศษพลเรือน ตำรวจ ทหาร ตะเวนไปดูแลความสงบเรียบร้อยเต็มพื้นที่ เพื่อป้องกันการวินาศกรรมใน กทม. และตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 11 มี.ค.เป็นต้นไป เราจะตั้งกองบัญชาการที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งจะมีการแถลงข่าวทุกสถานการณ์ที่นั้น

“ศอ.รส.ตระหนักดีว่าคนไทยจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชินีนาถ ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เราจึงกำหนดให้ทุกเส้นทางที่ไป รพ.ศิริราช เป็นเส้นทางต้องห้ามสำหรับผู้ชุมนุมทั้งทางบกและทางน้ำ การชุมนุมต้องไม่ให้กระทบและระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท”นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า มีการปล่อยข่าวเรื่องการก่อวินาศกรรม โดยเฉพาะ 40 จุด ทั่ว กทม. นายสุเทพ กล่าวว่า ในการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ และ ทหาร พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับมอบหมายให้กำกับควบคุมการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการใช้กำลังรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และปลัด กทม. ได้ให้ความร่วมมือในการสนธิกำลัง โดยกำลังของพลเรือนตำรวจทหารจะไปปฏิบัติหน้าที่ด้วยกันในทุกภารกิจ โดยจะเริ่มปฏิบัติตั้งแต่คืนนี้ตามจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่สำคัญทั่ว กทม.

เมื่อถามว่า ศอ.รส.เป็นห่วงในเรื่องการก่อวินาศกรรมในช่วงการชุมนุม นายสุเทพ กล่าวว่า เรามีระบบข่าวทั้งสำนักข่าวกรอง สันติบาล ศูนย์รักษาความปลอดภัย และ สภาความมั่นคง ซึ่งข่าวทุกอย่างจะทุกกลั่นกรอง แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากเคยเกิดเหตุขึ้นมาเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา และข่าวที่เราได้รับจำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจ ระมัดระวังในการวางกำลังป้องกันอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้ประสงค์ที่จะให้ประชาชนตกใจแตกตื่น และมีการกระจายข่าวไปเรื่อย ทั้งนี้เท่าที่ได้ติดตามข่าวการก่อวินาศกรรมเป้าหมายคือสถานที่ราชการ ไม่ใช่บ้านเรือนของประชาชน

เมื่อถามว่า มีการระบุว่าจะมีการปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์ หมายถึงสถานีของกลุ่มคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่าเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์ของสถานีสีอะไร แต่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงเมื่อเราได้ประกาศพื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่ที่กระทบต่อความมั่นคงแล้วเรามีอำนาจที่จะควบคุมการใช้อุปกรณ์เครื่องอิเลคทรอนิกส์ทั้งหลายที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของบ้านเมืองได้ หมายถึงสถานีวิทยุโทรทัศน์ หรือแม้แต่การใช้รถขยายเสียงโฆษณาปลุกระดมให้ประชาชนลุกขึ้นมาก่อการที่จะกระทบต่อความมั่นคงเป็นการกระทำทีผิดกฎหมายทั้งสิ้น และเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีได้

เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามที่จะสร้างเหตุการณ์ให้เหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงไปตอบอย่างนั้นไมได้ว่าเขาจะใช้รูปแบบโมเดลอย่างไร เราคงไปพูดแทนไม่ได้ แต่ตนมองในแง่ดีไว้ก่อนว่า ถ้าท่านเหล่านั้นตั้งใจจะมาเรียกร้องประชาธิปไตยแสดงว่าท่านเป็นนักประชาธิปไตย หัวใจสำคัญก็คือต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งวันนี้กฎหมายบ้านเมืองได้กำหนดวิธีการในการมาแสดงออกและตามระบอบประชาธิปไตยไว้อย่างไร สิ่งไหนทำไม่ได้บ้างก็บอกเอาไว้ชัดเจน ก็อยากให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่าจำเป็นจะต้องประกาศเคอร์ฟิวในช่วงหลัง 22.00 น.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีเคอร์ฟิวโดยเด็ดขาด ประชาชนสามารถเดินทางไปไหนมาได้ตามปกติทุกอย่างได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงไม่มีข้อจำกัด

“ผมขอยืนยันโดยเอาตำแหน่งของผมเป็นเดิมพันว่าจะไม่มีเหตุการณ์การที่เจ้าหน้าที่เอาปืนมายิงกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งนี้ในที่ประชุมเราไม่มีการใช้อาวุธกับผู้ชุมนุม เพราะเจตนาของเราไม่ใช่การปราบปรามประชาชน เรามีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งชุดที่ต้องมีอาวุธคือ ชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ โดยจะเอามาแสดงให้ท่านทั้งหลายเห็น แต่งตัวอย่างไร จะถ่ายออกทางทีวี เมื่อไปที่ใดก็จะเห็นว่าเป็นชุดนั้นแน่นอน” นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า หากเกิดความรุนแรงพร้อมรับผิดชอบหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราต้องปฏิบัติหน้าที่ของเราตามหน้าที่ที่มี บ้านเมืองต้องมีคนรับผิดชอบดูแล เราจะทำให้เต็มที่และจะรายงานให้ประชาชนทราบ ในส่วนของสถานที่จอดรถของผู้ที่จะมาชุมนุมนั้น จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เรามีแผนที่ที่ตั้งจุดต่าง ๆ โดยเป็นแผนริเริ่ม และตรวจสอบร่วมกันทั้ง กทม. บช.น. และ กองทัพภาคที่ 1

กอ.รมน.ตั้ง"กอร์ปศักดิ์"หน.ทีมเจรจา "แดง"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ว่า ที่ประชุมได้มีการอนุมัติแผนหลังจากที่ ครม.ได้ประกาศให้พื้นที่ กทม. นนทบุรี และอีกหลายอำเภอเป็นพื้นที่ปรากฏเหตุที่จะรักษาความมั่นคงตามกฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ให้การชุมนุมมีผลกระทบให้สถานการณ์ลุกลาม และกระทบต่อชีวิตพี่น้องประชาชน

แม้ว่าการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายได้ ซึ่งศาลชี้ไว้ชัดเจนว่า จะต้องปฏิบัติตามหลักสากล และจะต้องดำเนินการสมควรแก่เหตุ ซึ่งหากจะมีการดำเนินการเจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งผู้ชุมนุมตลอด ว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติสืบเนื่องมาจากอะไร จะปฏิบัติอย่างไร เมื่อไร เพื่อที่จะให้เป็นไปตามหลักสากล อันนี้ได้มีการซักซ้อมกัน

"นอกจากนี้ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาคณะหนึ่ง คือคณะทำงานประสานงานกับผู้ชุมนุม หรือแกนนำผู้ชุมนุม โดยให้เลขาธิการนายกฯ ( นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ) เป็นประธาน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าภายใต้สถานการณ์รุมเร้าเคยคิดถอดใจจากการทำหน้าที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมไม่มีสิทธิ์ถอดใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องดูแลตัวผม มันเป็นเรื่องดูแลบ้านเมือง ผมมาทำหน้าที่ดูแลบ้านเมือง ประชาชน สิ่งที่ผมทำคือ รักษาประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชน ไม่มีสิทธิ์ไปคิดอย่างอื่น ต้องทำภารกิจให้ลุล่วง”

กำหนดครม.9 คน เผื่อประชุมครม.ด่วน

ขณะที่นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้หลังประชุม กอ.รมน.ว่า ได้มีการเตรียมให้ ครม. 9 คนไว้เผื่อว่าจะมีการปรึกษาหารือกัน ซึ่งได้กำหนดตัวรัฐมนตรีไว้ 9 ท่าน ซึ่งอย่างน้อยทั้ง 9 ท่านนี้ก็ต้องเตรียมที่จะมาประชุมได้ทุกเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการเตรียมเพื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพียงแต่มีบางเรื่องที่รัฐบาลต้องทำ กรณีที่จำเป็นต้องใช้มติครม. เป็นพิเศษในกรณีฉุกเฉินจะเรียกรัฐมนตรีทั้ง 30 กว่าคนมาก็คงไม่ทัน จึงขอให้ทั้ง 9 ท่าน ได้เตรียมพร้อมเอาไว้ตลอดเวลา

สะพัดวินฯรับ 2 พันปาขวดน้ำมัน

รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า ขณะนี้บริเวณพื้นที่ชั้นนอกของกทม.โดยเฉพาะย่านมีนบุรีซึ่งเป็นพื้นที่ของนักการเมืองชื่อดังได้มีการจัดเตรียมขวดพลาสติกเปล่าไว้ประมาณ 3-4 คันรถซึ่งได้มีการจัดเก็บไว้ที่โรงไม้ของนักการเมืองรายดังกล่าว ขณะเดียวกันที่บ้านของน้องสาวนักการเมืองชื่อดังแห่งเมืองแปดริ้วก็ได้มีการกักตุนขวดพลาสติกเปล่าไว้เช่นกัน เชื่อว่าจะนำมาบรรจุน้ำมันเพื่อใช้ป่วนเมือง นอกจากนี้รายงานข่าวยังแจ้งว่า มีการจ้างผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซต์รายละ 2,000 บาทให้เป็นมือขว้างขวดพลาสติก โดยหัวหน้าวินฯจะได้รายละ 5,000 บาท

คาด“เสื้อแดง”ร่วมชุมนุม 2 แสนคน

พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (รอง ผบช.สทส.) ในฐานะโฆษกศปก.ตร.กล่าวภายหลังการประชุมที่มี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เป็น ประธานว่า ตำรวจประมาณการผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1.5 แสน ถึง 2 แสนคน ใกล้เคียงกับข้อมูลของรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น