xs
xsm
sm
md
lg

แม้วจาบจ้วงในหลวง เปิดใจแค้นอำมาตย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “นช.แม้ว” ขู่! แฉเบื้องลึกเบื้องหลังขัดแย้ง “ป๋าเปรม” 14 มี.ค.นี้ ตีตนเทียบเบื้องสูงอ้างใจกว้างเหมือนในหลวง ยกหางสมุนเสื้อแดงสู้เพื่อประชาธิปไตย ขณะที่ “อ้อ-โอ๊ค” บินหาพ่อแม้วที่ดูไบแล้วปล่อยเสื้อแดงสู้เพื่อพ่อ ด้านกลุ่มสื่อต้านทุจริตยื่นป.ป.ช.สอบยึดทรัพย์แม้วเพิ่มหลังพบเม็ดเงินโป่ง 7 หมื่นล้านบาทหลังลอยตัวค่าเงินบาทปี 40

เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ดอทคอม ว่า "ตอนนี้ทหารเข้ามาเต็มกรุงเทพฯ ผมพูดไม่ผิด เปรียบเสมือนเรายังอยู่ในช่วงปฏิวัติต่อเนื่อง เพราะหัวหน้าตัวจริงยังบัญชาการอยู่ กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย ศาลไม่เป็นศาล สื่อไม่เป็นสื่อ สิทธิเสรีภาพไม่มี ความยุติธรรมก็ถูกยุติ ความเสมอภาคก็ไม่เหลือ ประชาธิปไตยเหลือแต่เปลือก ประเทศถอยหลังน่าเสียดาย ความระแวงตัวเดียวที่หาว่าผมไม่จงรักภักดี ผมจะเปลี่ยนไทยเป็นสาธารณรัฐ ทั้งๆที่แว๊บในสมองไม่เคยมี เลยช่วยกันแสดงเสียประเทศเละ ถอยหลังเป็นสิบๆ ปี"

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังโต้ตอบกับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ถึงกรณีที่เคยท้าให้รัฐบาลเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่าห้ามพ.ต.ท.ทักษิณ เล่นการเมืองว่า

"จริงๆ ครับ ถ้าไม่อยากระแวงก็เขียนในรัฐธรรมนูญเลย ห้ามทักษิณเล่นการเมือง กลัวเปลี่ยนชื่อก็ให้ใส่รหัส DNA เลย ถึงวันนี้ก็ยังท้าเหมือนเดิม"

ทั้งนี้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า pong99ad ได้ถามพ.ต.ท.ทักษิณว่า "อยากถามท่าน ทำไมเปรม (พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ) ถึงจงเกลียดจงชังท่านนักล่ะครับ มีเรื่องไรลึกๆ บอกประชาชนได้ไหมครับ"
โดยพ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "เอาไว้พูดวันที่ 14 นี้ครับ"


ตะแบงไม่ได้ใช้เสื้อแดงเป็นเครื่องมือ

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งระบุกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า "สังคมในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีแต่การกล่าวหาคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานครับ น่าเสียดายที่ตอนนั้นคุณทักษิณไปถอนฟ้องคดีหมื่นประมาทครับ"

พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบกลับไปว่า "คงจำได้ว่า เมื่อ 4 ธ.ค.48 พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า พระเจ้าอยู่หัวก็ถูกหมิ่นได้ คือทรงแสดงพระทัยกว้าง ผมเป็นนายกฯ ผมรีบรับพระราชกระแสถอนฟ้อง"

ทั้งนี้ยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า a1818 ได้ทวิตข้อความถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นภาษาอังกฤษ แปลความได้ว่า

"ทำไมอดีตภรรยาท่าน และลูกสาวถึงเดินทางออกนอกประเทศ ทำไมไม่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแเดง หรือว่าท่านกำลังใช้กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ และไม่เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม เป็นเรื่องประชาธิปไตย เพราะเขาอาจไม่เข้าใจเรื่องการเมืองมากเท่าไร แต่ดูเหมือนว่า เขากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือ"

คำถามนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โต้ตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน แปลความได้ว่า

"คนเสื้อแดงรู้สึกทนไม่ไหวกับการเมืองปัจจุบัน ไม่อยากอยู่ในภาวะนี้อีก การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง คือประชาธิปไตย คุณไม่เข้าใจคนชนบท ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมประเทศคุณ อย่าดูถูก เขาต้องการความเสมอภาค ความเท่าเทียมกัน ไปร่วมสิถึงจะรู้"

ยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า jujujujub ได้สอบถาม พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นภาษาอังกฤษเช่น กันว่า

"อะไรคือความยุติธรรม หรือความไม่ยุติธรรมนั้น ศาลฎีกาได้พิสูจน์แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ควรยอมรับในคำตัดสิน" พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบกลับไปว่า

"ผมไม่ได้ใช้คนเสื้อแดง และไม่มีใครใช้พวกเขาได้ พวกเขาทนไม่ได้กับความไม่เป็นธรรม และสองมาตรฐาน พวกเขาฉลาดและไม่ได้โง่"

ยังบิดเบือนทหารยิงประชาชน

ส่วนผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า pakmaan ได้ทวิตข้อความโต้ตอบกับพ.ต.ท.ทักษิณว่า

"การที่ทหารเข้ามา เป็นเพราะบทเรียนจากวีรกรรมจากกลุ่มท่าน ในช่วงเมษาปีที่แล้ว การที่ทหารเข้ามาดูแลความสงบ ก็เป็นสิ่งดีแล้วมิใช่หรือ ผมเสพข่าวสองด้าน ทั้งของกลุ่มท่าน และอีกฝั่ง มีแค่กลุ่มท่านที่บอกว่าทหารยิงประชาชนเสียชีวิต แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดแสดงออกมา กลุ่มท่านมีสิทธิในการชุมนุม แต่ไม่มีสิทธิสร้างความรุนแรงจากการถูกยั่วยุนะครับ ตราบใดที่ชุมนุมอย่างสันติ ไม่มีใครว่าท่านแน่"

พ.ต.ท.ทักษิณ โต้ตอบกลับไปว่า "ไปหลงเชื่อใครมา เม.ย.ที่แล้ว ไม่รู้หรือว่าทหารใช้ปืน M16 กระสุนจริง ยิงประชาชนหลังจากที่รัฐให้คนปลอมเข้ามาสร้างสถานการณ์ยั่วยุคนเสื้อแดง"

"อ้อ-โอ๊ค-เอม-อุ๊งอิ๊ง" เผ่นหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ และพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ได้เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินเอมิเรตแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ DK 375 ซึ่งตามตารางการบิน จะเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไป นครรัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต ในเวลา 09.30 น. แต่ปรากฎว่า เครื่องดีเลย์ออกจากสนามบินไปเมื่อเวลา 09.50 น. พร้อมด้วยบอดี้การ์ดหญิงอีก 3 คน

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่า ขณะนี้คุณหญิงพจมาน ได้เดินทางไปฮ่องกง เพื่อพบปะเพื่อนฝูงเป็นการส่วนตัว ส่วนนายพานทองแท้ ได้เดินทางไปนครดูไบ จากนั้นจะเดินทางไปยังทวีปยุโรป

สำหรับน.ส.พินทองทา และน.ส.แพทองธาร ที่เดินทางไปประเทศเยอรมนีนั้น เป็นการเดินทางไปตามตารางเวลา อีกทั้งน.ส.แพทองธาร ก็เรียนทางด้านการท่องเที่ยว จึงไปดูงานเอ็กซ์โป ที่ประเทศเยอรมนี

นายนพดล อ้างว่า การเดินทางไปต่างประเทศของครอบครัวชินวัตร เป็นเรื่องปกติ เพราะเดินทางค่อนข้างบ่อย เพียงแต่มาประจวบเหมาะกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเวลานี้พอดี จึงไม่อยากให้มองว่า เป็นสัญญาณที่จะเกิดความรุนแรง เพราะผู้ชุมนุม รวมทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ยึดแนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง

"เด็จพี่"ร้องป.ป.ช.เอาผิด"มาร์ค"

เมื่อเวลา14.20 น. วานนี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยืนหนังสือให้ป.ป.ช. เอาผิดทางอาญากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีครม.มีมติ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ในการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นายสุเทพ ในฐานะ ผอ.รส.ได้ประกาศตั้งด่านสกัด รถกระบะ รถอีแต๋น และเปิดทางให้ขนส่งเฉพาะสินค้าเกษตร เห็นว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ และตั้งด่านทุกภาค เป็นการใช้กฎหมายในการสกัดกั้น การสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ตามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เรื่อง สิทธิ เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ และมาตรา 34 ที่ให้เสรีภาพในการเดินทาง สัญจรไปไหนก็ได้

นอกจากนี้ การกระทำของรัฐบาล เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย

อึกอัก ลูก-เมียแม้ว เผ่นไปนอก

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่คนในครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ และ ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าจะมีความรุนแรง นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย สนับสนุนให้ประชาชนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งแกนนำได้ยืนยันมาตลอดว่าจะชุมนุมโดยสงบ แต่วันนี้รัฐบาลพยายามจุดกระแสว่าจะมีความรุนแรง แล้วปล่อยให้มือที่ 3 สร้างสถานการณ์ แล้วโยนความผิดไปให้คนเสื้อแดง จะยิ่งเป็นการเชิญแขกให้มาชุมนุมมากขึ้น
"ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางไปต่างประเทศก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่แกนนำของไทยทั้งหมด ทั้ง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็อยู่กันครบ มีวอร์รูมช่วยเหลือประชาชนจนกว่าเหตุการณ์จะยุติ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ และญาติ ผมไม่ขอก้าวล่วง เป็นสิทธิของท่าน" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า เวลาต่อสู้จริงๆ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับพาลูกเมียหนีไปต่างประเทศ ถือว่าขี้ขลาดหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า มันเป็นสิทธิไม่อยากก้าวล่วง ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ และอำมาตย์ อย่าดันทุรัง คืนความสงบให้ประเทศ เพราะถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ก็อาจจะถูกหมายหัวบัญชีดำ

ยันรัฐบาลไม่ปิดทีวีเสื้อแดง

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่า รัฐบาลเตรียมปิดสถานีโทรทัศน์พีเพิล ชาแนล ว่า ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ดำเนินการเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง เช่น การปลุกปั่น เผยแพร่เนื้อหาที่ระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เตรียมหลบไปอยู่ที่ศูนย์บัญชาการรัฐบาล ร.11 บางเขน และมีการเตรียมเฮลิคอปเตอร์ เพื่อหลบหนี หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทางรัฐบาลก็ต้องมีมาตรการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนแกนนำคนเสื้อแดงนั้น ก็ต้องรับผิดชอบด้วย

อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าแกนนำคนเสื้อแดง เตรียมจะเดินทางออกนอกประเทศเหมือนกับผู้นำบางคนที่ออกไปแล้ว

"ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมี ส.ส. 2 กลุ่ม คือ 1. นกแล ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขนมวลชน กับ 2.นกรู้ ที่หนีออกนอกประเทศไทยแล้ว ต้องจับตาให้ดีว่า อาจมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทยอยเดินทางออกนอกประเทศเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว" นายเทพไทกล่าว และว่า คนในตระกูลชินวัตร รายอื่นๆ ก็จะทยอยเดินทางออกนอกประเทศ ก่อนวันที่ 14 มี.ค.นี้

หนุนรัฐจัดการสื่อปลุกระดม
นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสนับสนุนรัฐบาลให้ปิดสถานี และเครือข่ายสื่อของคนเสื้อแดง ว่า ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะมีบทเรียนมาแล้วเมื่อครั้ง สงกรานต์เลือด ซึ่งในตอนท้ายของการชุมนุมครั้งนั้น หลังจากรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง พร้อมทั้งบุกเข้าปิดสถานีทีวี และวิทยุ ตลอดจนเว็บไซต์ของคนเสื้อแดง ที่ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร เผยแพร่กระจายข่าวโกหก บิดเบือนข้อเท็จจริงต่างๆ เพื่อปลุกระดมมวลชน ให้คลุ้มคลั่ง สุดท้ายม็อบก็อ่อนลง ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อรัฐบาลประเมินแล้วว่า จะเกิดเหตุการปลุกปั่น ปลุกระดมให้มวลชนในลักษณะเดียวกัน ก็จำเป็นต้องทำ โดยเฉพาะวิทยุชุมชนซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ใช้เสาอากาศและเครื่องส่งสัญญาณผิดขนาด และหลักเกณฑ์ ที่สำคัญคือ ผิดวัตถุประสงค์ของการจัดตคั้งวิทยุชุมชน จำเป็นที่รัฐบาลต้องดำเนินการตามกฎหมายคุมเข้มอย่างจริงจัง 

ส.ส.ร้อนตัวข่าวเตรียมระเบิดเพลิง
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สื่อมีการเสนอข่าวระบุว่า มีนักการเมืองในเขตมีนบุรี เตรียมขวดพลาสติกเปล่าไว้ถึง 3-4 คันรถ โดยเก็บไว้ในโรงไม้ เตรียมบรรจุน้ำมัน รวมทั้งเตรียมว่าจ้างวินมอเตอร์ไซค์รายละ 2,000 บาท เพื่อเตรียมขว้างปาในจุดต่างๆ ว่า ตนไม่ได้กินปูนร้อนท้อง แต่การระบุว่า ส.ส.เขตมีนบุรี ย่อมหมายถึงตน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการนำเสนอข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องเท็จ ตนสามารถพาไปดูได้ทุกที่ ตนไม่เคยคิดใช้ความรุนแรง หรือทำสิ่งผิดกฎหมาย การออกข่าวเช่นนี้ ทำให้ญาติพี่น้องของตนตระหนกตกใจ

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีความพยายามขอคำสั่งจากศาลไปตรวจค้นบ้านนักการเมืองนั้น หากเป็นความจริง และนักการเมืองคนไหนทำผิดจริง มีหลักฐานชัดเจน ก็สามารถดำเนินการได้เลย แต่ถ้าไม่เป็นความจริง จะทำให้เสียความรู้สึก เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โดยใช้ข้อกฎหมายเป็นเครื่องมือ

เปิดหน้าสู้ โค่นอำมาตย์
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวถึงแผนการชุมนุมในวันที่ 14 มี.ค.ว่า เวลา 12.00 น. จะมีคนเสื้อแดงมารวมตัวกันที่ เวทีกลางที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งจะมีการปราศรัยสลับการเล่นดนตรี จากนั้นนายวีระ มุสิกพงศ์ จะประกาศข้อเรียกร้องการชุมนุมว่า "โค่นรัฐบาลอำมาตย์ ยุบสภา" หากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตาม ก็จะยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นขึ้น โดยในวันที่ 15 มี.ค. จะเคลื่อนขบวน 1 ล้านคน เต็มพื้นที่ กทม. ส่วนเส้นทางเป้าหมายจะประกาศให้ทราบต่อไป ซึ่งจะเป็นการเคลื่อนขบวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ภายใต้ชื่อ "เคลื่อนขบวนไพร่ ไล่รัฐบาลอำมาตย์ " ทั้งนี้การเคลื่อนขบวน จะไปแล้วกลับมาจุดเดิมคือที่ผ่านฟ้า ไม่ค้างคืน การชุมนุมครั้งนี้ จะไม่ยืดยาวแน่

การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นมหาสงคราม ระหว่างชนชั้นล่าง กับชนชั้นสูง ซึ่งหมายถึงกลุ่มอำมาตย์ เราขอเปิดหน้าสู้อย่างตรงไปตรงมา หากวันดังกล่าวรัฐบาลยังปฏิเสธข้อเรียกร้องเราจะยกระดับเข้มข้นภายใต้ข้อต่อสู้ตามสวิถีทางประชาธิปไตยจนกว่ารัฐบาลจะคืนอำนาจยุบสภา

เริ่มยุทธศาสตร์ป่วนกรุงวันนี้
สำหรับการเคลื่อนขบวนในวันที่ 12 มี.ค.นั้น พื้นที่ กทม. จะกำหนดการชุมนุม 5 จุด 1. อนุสาวรีย์ปราบกบฎ ย่านหลักสี่ บางเขน โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ เป็นแกนนำ หลังทำพิธีสงฆ์ ก็จะเคลื่อนผ่าน ถ.พหลโยธิน ผ่าน กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์ไปเส้นรัชโยธิน ตามด้วย ถ.วิภาวดีรังสิต ย่านหลักสี่ ก่อนจะวกกลับมาที่ตั้งเดิม

2. วงเวียนใหญ่ บริเวณอนุสาวรีย์ พระเจ้าตากสิน โดยมีนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายสมชาย ไพบูลย์ เป็นแกนนำ จะตั้งขบวนเวลา 12.00 น. ที่หน้าเดอะมอลล์บางแค หลังทำพิธีบรมสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน และโองการแช่งน้ำอำมาตย์เสร็จสิ้น ก็จะเคลื่อนสู่วงเวียนใหญ่

3. บริเวณแยกบางนา หลังทำพิธีเสร็จสิ้นเวลา 12.00 น. จะมุ่งหน้าสู่ ถ.สุขุมวิท พระขโนง เอกมัย ไปจนถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และวกกลับมายังจุดเดิม โดยมีนายพรชัย เหมะ เป็นแกนนำ

4. สวนลุมพินี พระบรมรูปรัชกาลที่ 6 หลังทำพิธีเสร็จสิ้น จะเคลื่อนสู่ย่านราชดำริ แยกมาบุญครอง เลี้ยวซ้ายไป ถ.พระราม 1 ผ่านสตช. มุ่งหน้า ถ.พิษณุโลก ผ่านทำเนียบรัฐบาล ถ.ราชดำเนินมุ่งหน้าสู่บริเวณเวทีสะพานผ่านฟ้า โดยมีนายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนางดรุณี กฤตบุญญาลัย เป็นแกนนำ

5. สามเหลี่ยมดินแดง เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปตาม ถ.พหลโยธิน เลี้ยวขวาที่ ถ.พหลโยธิน ซ.2 ออกเส้น วิภาวดีรังสิต ผ่าน รพ.ทหารผ่านศึก หยุดปราศรัยที่หน้า กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ จากนั้นเดินไปกลับแยกสุทธิสาร และผ่านหน้าเอ็นบีที โดยจะแวะทักทายเล็กน้อย ก่อนจะกลับที่มาจุดเดิม และสลายตัว โดยมี นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิสา คัญทัพ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ เป็นแกนนำ

สำหรับจุดต่างจังหวัด จ.นนทบุรี จะมีการเคลื่อนทัพ สามทัพ พร้อมกัน เริ่มจากหน้าศาลากลางนนทบุรี โดยจะแยกเป็นสามสาย รวมตัวหน้าหมู่บ้านพระปิ่น 3 นอกจากนี้ในวันที่ 14 มี.ค. เวลา 9.00 น. ทัพเรือส่วนหนึ่งของนนทบุรี จะสมทบกับทัพเรือจากพระนครศรีอยุธยา โดยจะมี เจ๋ง ดอกจิก เป็นแกนนำ

การเคลื่อนขบวนทางเรือ จะไม่ขึ้นที่ท่าน้ำศิริราช เพราะเรารู้อะไรควร ไม่ควร เพราะการต่อสู้ของเรา เพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ส่วนตนเอง จะอยู่ที่สำนักงานอิมพีเรียล แดงทั้งแผ่นดิน เพื่อจัดรายการพิเศษ การเคลื่อนพลทั้งประเทศ

ส.ท.ช.ปูด“ทักษิณ’ยังซุก 7 หมื่นล.วานนี้ (11 ) เวลา 10.30 นายณัชพล โรจน์ถาวร ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ หรือ ส.ท.ช. พร้อมด้วยกรรมการจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นานปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบความร่ำรวยผิดปกติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและเครือข่าย โดยได้นำหลักฐานต่างๆ ซึ่งเป็นคำสั่งต่างๆ ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการ คลัง ที่ออกมาในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังเรืองอำนาจและมีอิทธิพลต่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานดังกล่าว

ทั้งนี้ ความร่ำรวยผิดปกติของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ และครอบครัว เกิดขึ้นในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยได้ใช้อำนาจจากตัวเองและเครือข่ายเข้าควบคุม สั่งการ ในการกำหนดนโยบายการปล่อยค่าเงินบาทลอยตัว (ลดค่าเงินบาท) ทำให้มีกระแสข่าวว่า บริษัทในเครือของอดีตนายกฯได้ซื้อเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไร และโกยกำไรมากกว่า 70,000 ล้านบาท โดยมีหลักฐานสำคัญที่แจ้งไว้ในงบดุลของบริษัทในเครือข่ายเป็นเครื่องยืนยัน และเป็นที่ทราบกันว่า เงินจำนวนมหาศาลดังกล่าวยังถูกซุกเอาไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น