นายกฯ ขอบคุณสื่อออกมาตรการช่วยทุกฝ่ายทำงานราบรื่น ยินดี “เหวง” คุย “กอร์ปศักดิ์” แล้ว เล็งเสนอเจ้าหน้าที่ตรวจอาวุธร่วมการ์ดม็อบ แต่รับคุยคนเดียวยังไม่พอ พร้อมห่วงแกนนำชุมนุมกระจายตัวคุมยาก เมิน “ณัฐวุฒิ” ขู่ให้ยุบสภา ยันไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ย้ำดูประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ถามแดงสยามยังเห็นไม่ตรงเลย รับทราบบึ้มสุราษฎร์ฯ บอกอย่าเพิ่งโยงสถานการณ์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังตัวแทน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มอบหนังสือพร้อมด้วยปลอกแขนสีเขียวที่มีสัญลักษณ์ของสมาคมนักข่าวฯ ที่ผู้สื่อข่าวจะต้องติดที่แขนในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมุนมว่า อย่างที่ตนกล่าวไปก็คือ หน้าที่รัฐบาลคือบริหารจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อย ก็ต้องขอขอบคุณที่ฝ่ายต่างๆ มีมาตรการออกมาเพื่อช่วยให้การทำงาน การทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายราบรื่น สื่อมวลชนจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยรายงานข้อมูลข่าวสารต่างๆ และถ้าทำงานได้อย่างคล่องตัว โดยไม่มีอุปสรรคเป็นสิ่งที่ดี
“เราก็ต้องการให้สื่อมวลชน ติดตามข่าวสารต่างๆ และมีการนำเสนอข่าวสารตามความเป็นจริง อย่างรวดเร็วและจะช่วยทำความเข้าใจถูกต้องได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า วันนี้ก็มีความก้าวหน้าไปในบางเรื่อง เช่น นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ได้มีการพูดคุยกับนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อที่จะได้มีการซักซ้อมทำความเข้าใจว่าเวลามีกรณีที่จะติดต่อประสานงานกันว่าจะติดต่อกันอย่างไร อย่างน้อยช่องทางนี้ก็ได้มีการเปิดแล้ว ทั้งนี้ ตนก็ได้เสนอความคิดไปว่า มาตรการบางมาตรการของทางการ เช่น การตรวจอาวุธ อยากจะให้พูดคุยกันว่าจะมีความร่วมมือกันอย่างไรที่จะทำให้เกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย อย่างเช่นเมื่อมีการชุมนุมมาคนมาจำนวนมากและมีพื้นที่ชุมนุมอยู่ อยากจะเสนอให้นายกอร์ปศักด์ ไปคุยกับผู้ชุมนุมว่าการตรวจอาวุธจะทำร่วมกันหรือไม่ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับการ์ดของผู้ชุมนุม ก็พยายามทำทุกวิถีทางในการที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลประโยชน์ทุกฝ่าย ส่วนสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้รับรายงานเข้ามาบ้าง แต่ช่วงนี้ยังไม่มีอะไร
เมื่อถามว่า แกนนำคนเสื้อแดงมีจำนวนที่หลากหลายและหลายกลุ่ม การจะพูดกับ นพ.เหวง เพียงคนเดียว เพียงพอกับการตัดสินใจของเขาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่เพียงพอ และจะต้องพยายามดู และจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น เมื่อมีการชุมนุมกันไปสักระยะ เพราะอาจจะต้องดูว่า แต่ละพื้นที่มีใครดูแลอยู่ ทางรัฐเองก็จะต้องติดตาม แต่การประสานก็จะต้องประสานเข้าไปพื้นที่ตรงนั้นอยู่แล้ว หรือการมีผู้นำอยู่ในพื้นที่อื่นก็จำเป็นต้องคุยกับพื้นที่ด้วย เมื่อถามว่าการอยู่อย่างกระจัดกระจายของแกนนำจะทำให้ยากในเรื่องการควบคุมฝูงชน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ต้องพยายามเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ผู้ชุมนุมเองก็จะต้องทำให้ระบบบริหารภายในของพวกเขามีความราบรื่น ซึ่งตรงนี้ก็มีความเป็นห่วงอยู่ เพราะหากกระจายไปมาก แล้วมีใครเข้ามาทำอะไรโดยที่ไม่ได้เป็นความตั้งใจของผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ หรือแกนนำก็อาจจะเป็นปัญหาได้ เหตุผลนี้จึงได้มีการตั้ง คณะกรรมการชุดนายกอร์ปศักดิ์ขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการพูดคุยกับ นพ.เหวง บรรยากาศเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายกอร์ปศักดิ์เอง แต่คิดว่าการได้พูดคุยและมีการกำหนดแนวทางในการที่จะติดต่อสื่อสารกันก็เป็นไปในทางบวก ที่ผ่านมาตนก็เห็นว่ามีกลุ่มนักวิชาการที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเพื่อดูแลให้ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งตรงนี้เป็นสัญญาณที่ดี เมื่อถามว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงออกมากล่าวถ้านายกฯไม่ตัดสินใจยุบสภาฯ ระหว่างวันที่ 14-15 มีนาคม จะนำพลคนนับล้านมาปิด กทม. ถือว่าเป็นการขู่รัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลคงไม่อยู่ภายใต้ภาวะที่จะให้ใครมาข่มขู่ การเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญคือการมาชุมนุมแสดงออกเพื่อให้ความคิดเห็นในทางการเมือง จะสะท้อนข้อเรียกร้องอะไร ก็สามารถทำได้รัฐบาลพร้อมรับฟังและพิจารณา แต่หากจะใช้วิธีข่มขู่คงไม่ถูกต้องและไม่เป็นไปตามความหมายของการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า คำขู่ของนายณัฐวุฒิดูเหมือนเป็นการก้าวข้ามยื่นเงื่อนไขให้รัฐต้องปฏิบัติตาม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การไปฟังนายณัฐวุฒิคนเดียวคงไม่ได้ มีหลายคนต่างคนต่างพูดไปคนละเรื่อง ข้อเสนอที่นายณัฐวุฒิเสนอ ก็ไม่ตรงกับข้อเสนอของแดงสยาม ส่วนเส้นตายที่เขาขีดมานั้นคงไม่มีผลต่อการตัดสินใจทางการเมืองของตนและตนก็จะดูว่าข้อเสนอเหตุและผลคืออะไร
“การที่จะบอกว่าคนคนหนึ่งพูดว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ ในขณะที่คนกลุ่มเดียวกันเองมาบอกว่าไม่ใช่เป้าหมายมันก็ต้องพิจารณาและการที่เขาออกมาบอกว่ายุบสภาฯ แล้วเหตุการณ์จะสงบ แดงสยามก็ไม่เห็นบอกแบบนี้” นายกฯ กล่าว
ขณะที่คำขู่ของนายณัฐวุฒิ รัฐบาลไม่มองหรือหยิบมาเป็นประเด็นใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยัง เพราะมันไม่ใช่ข้อเสนอเป็นเรื่องที่นายณัฐวุฒิพูด แต่หากมีการชุมนุมแล้วเขาจะส่งเรื่องราวหรือจัดยืนต่างๆ ก็ค่อยนำมาพิจารณากัน แต่เท่าที่ตนฟังมาในช่วงเช้าก็มีคนมาบอกว่ากลุ่มแดงสยามมีความคิดเห็นไปอีกทางหนึ่ง
“โทษนะครับ เมื่อวานคุณณัฐวุฒิก็เป็นคนพูดเองว่ายุบสภาเป็นแค่หลักกิโลแรก ไม่ได้บอกว่าหลักกิโลสุดท้าย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่เหตุผลที่นายกฯ จะหยิบมายุบสภาฯ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนจะไม่พูดอะไรล่วงหน้าจะทำงานไปตามปกติ
“ผมบอกแล้วว่า การตัดสินใจเรื่องการยุบสภาเป็นเรื่องที่ผมจะดูประโยชน์ของส่วนรวม ผมไม่ทราบเลยว่าเหตุการณ์จะมีพัฒนาการไปทางไหนอย่างไร แต่ผมดูให้มันสงบเรียบร้อย ผมไม่ได้คิดว่ามันเป็นประเด็นในขณะนี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า ประเมินแล้วอะไรเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับชาติ นายกฯ กล่าวว่า บ้านเมืองสงบและการรักษาหลักของบ้านเมืองไว้ได้ไม่ใช่สงบเพียงชั่วคราวแล้ว ก็เสียหลักตลอดไป เมื่อถามว่า อะไรที่เรียกเป็นการสงบชั่วคราวแล้วเสียหลักตลอดไป นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเราไม่เคารพกฎกติกาของบ้านเมืองหรือไม่ยอมรับกฎกติกาบ้านเมืองและไม่มี การยึดถือสถาบันหลักของชาติ
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีการลอบวางระเบิดป่วนเมืองที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี นายกฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานเพียงคร่าวๆ เมื่อถามว่าจะมีเหตุอะไรที่โยงกับการเคลื่อนไหวในขณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะไปสรุปแบบนั้นไม่ได้ เมื่อถามถึงความคืบหน้าของอาวุธคลังแสงที่ จ.พัทลุงเกี่ยวโยงการเคลื่อนไหวใน กทม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องรอให้ตนเข้าไปรับฟังรายงานที่ ศอ.รส.ก่อนจึงจะทราบ
เมื่อถามว่าที่เรียก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเข้าพบยังมีปัญหาเรื่องอะไรที่ยังตกค้างอยู่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พล.ต.อ.ธานีมาเรียนให้ทราบว่ากลับมาทำงานแล้วหลังจากที่ป่วยไปหลายวัน