เริ่มต้นแล้วสำหรับการประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยวันแรกมีการระดมกำลังทหารจำนวน 300 นาย เข้าไปเตรียมพร้อมอาวุธ เครื่องกีดขวาง เพื่อสกัดกั้นผู้ชุมนุมในจุดต่างๆ พร้อมดูแลความปลอดภัยรอบทำเนียบรัฐบาล
บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (11 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันแรก หลังจากรัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 11-23 มีนาคม 2553 หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรีทั้งจังหวัด และอีก 21 อำเภอใน 7 จังหวัด ได้แก่ จ.ปทุมธานี จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.นครปฐม จ.ฉะเชิงเทรา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยในวันนี้ (11 มี.ค.) มีทหารจำนวน 300 นาย จากกองบัญชาการรบพิเศษ จ.ลพบุรี เข้าไปเตรียมพร้อมอาวุธ เครื่องกีดขวาง ที่จะนำไปใช้ในการสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม และได้จัดกำลังเข้าประจำตามจุดต่างๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยโดยรอบทำเนียบรัฐบาลด้วย ซึ่งการวางกำลังในครั้งนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ทหารมารักษาการณ์รอบทำเนียบรัฐบาลรวม 4 จุด จุดละประมาณ 5-7 นาย คือที่บริเวณแยกสวนมิสักวัน แยกสะพานมัฆวานฯ แยกเทวกรรมตลาดนางเลิ้ง และด้านหน้าพาณิชยการพระนคร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารไม่มีการพกพาอาวุธ มีเพียงวิทยุสื่อสารไว้สำหรับติดต่อประสานงานกันเท่านั้น ขณะที่รัฐบาลจะตั้งศูนย์ ศอ.รส.ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์บางเขนในวันนี้ และในเบื้องต้นจะมีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงประจำการอยู่
ด้านส่วนราชการที่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล อาทิ สำนักงานเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นำเอกสารพร้อมสิ่งของสำคัญทยอยขนออกไปจากทำเนียบรัฐบาล ไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกับที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก็ทยอยนำข้อมูลและเอกสารสำคัญไปไว้ที่โรงพิมพ์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว เพื่อความปลอดภัย แต่สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งต้องรอคำสั่งว่า ต้องทำงานในวันพรุ่งนี้ตามปกติด้วยหรือไม่