xs
xsm
sm
md
lg

มท.ตั้งรางวัล5หมื่น จับอาวุธสงครามสกัดแดงป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือเวียน เลขที่ มท.0201.2 / ว 2536 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยขอให้ดำเนินการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังทางการเมืองทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ในลักษณะการสร้างกระแสชี้นำทางความคิด และปลุกระดมให้มวลชนเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีความล่อแหลมที่จะก่อให้เกิดปัญหาด้านความสงบเรียบร้อย
"ขอให้ผวจ.ทุกจังหวัด สนธิกำลังทหาร ตำรวจ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ในพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจค้นอาวุธสงคราม หรือสิ่งของที่ผิดกฎหมายต่างๆ กับมวลชนที่จะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมที่กทม. และประชาชนทั่วไปโดยเข้มงวด หากจุดตรวจค้นใด ได้ตรวจค้นพบอาวุธสงคราม หรือสิ่งของที่ผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมาย และรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบทันที โดยรมว.มหาดไทย จะมอบรางวัลให้รายละ 50,000 บาท" หนังสือระบุ
ขณะเดียวกัน มีรายงานคำสั่งชุดที่ 2 ของนายมานิต วัฒนเสน ระบุสั่งการเป็นการเฉพาะถึงผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ให้รายงานเป็น SMS มายังเบอร์มือถือส่วนตัวว่า จำนวนกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เดินทางเข้ามาชุมนุมที่ กทม. มีจำนวนกี่คน ใครเป็นผู้ควบคุม โดยกำหนดให้รายงานทันทีเมื่อมีข้อมูล
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงให้ข่าวในพื้นที่ 8 จว.ภาคตะวันออก ว่า ให้คนในพื้นที่เข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง โดยผู้ที่เข้าร่วมจะได้รับบัตรซึ่งสามารถนำไปขึ้นเงินได้จำนวน 100,000 บาท โดยมีข้อแม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง ซึ่งข่าวดังกล่าวถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนอย่างชัดเจน คือพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถกลับมาเป็นนายกได้อีก ด้วยเงื่อนไขทางรัฐธรรมนูญ แต่ที่กลุ่มเสื้อแดงจงใจประกาศดังกล่าวก็เพื่อหลอกลวงให้คนเข้าร่วมชุมนุม
ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาโจมตีรัฐบาลในกรณีที่นำกำลังทหาร ตำรวจออกมาดูแลสถานที่สำคัญ ทำให้กระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวนั้น อยากให้ทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทยย้อนดูตัวเองว่า สาเหตุที่รัฐบาลต้องนำกำลังตำรวจ ทหาร ออกมาดูแลสถานที่สำคัญนั้น เป็นเพราะพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทย ที่เข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ประกาศกับกลุ่มเสื้อแดงว่า ให้เข้ายึดศาลาว่าการ และบุกไปยังสถานที่สำคัญ และร่วมกันปฏิวัติประชาชน ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้องมูลที่หน่วยข่าวกรองของทางรัฐบาลได้มาจากคนบางคนในกลุ่มคนเสื้อแดง
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงว่า เป็นช่วงนาทีทองของแกนนำคนเสื้อแดง ที่มีโอกาสต่อรองผลประโยชน์กับนายใหญ่ได้มากที่สุด ทำให้แกนนำทุกคนพยายามต่อสายตรงถึงนายใหญ่ด้วยตนเอง บางคนต้องบินตรงไปดูไบ เพื่อเจรจาด้วยตัวเอง มีทั้งฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายฮาร์ทคอร์ ฝ่ายยุทธศาสตร์ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังใช้การบริหารงานในรูปแบบธุรกิจขายตรงไปยังกลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองให้กับตนเอง
ส่วนแกนนำระดับล่าง ที่ไม่มีโอกาสใกล้ชิดนายใหญ่ ก็พยายามสร้างภาพให้มวลชนเห็นว่า ขาดสภาพคล่องในการเคลื่อนไหว จัดกิจกรรมระดมทุนในรูปแบบจัดเลี้ยงน้ำชา รับบริจาคเงินซึ่งเป็นจำนวนน้อย ในรายละไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งเป็นรูปแบบสร้างภาพให้สังคมเห็นว่า ไม่มีการสนับสนุนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่เงินจากการจัดกิจกรรมไม่เพียงพอในการซื้อน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับม็อบด้วยซ้ำไป แต่ก็พยายามอธิบายให้มวลชนเห็นว่า ทุนในการเคลื่อนไหวมีจำนวนจำกัด ทั้งๆ ที่การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุด และมีเดิมพันที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายเทพไท กล่าวว่า เชื่อว่างบที่นายใหญ่จัดส่งมาตามท่อน้ำเลี้ยง ก็คงจะค้างท่อจำนวนมาก จึงไหลสู่ปลายทางค่อนข้างน้อย จึงอยากจะให้มวลชนคนเสื้อแดง ออกมาเรียกร้องทวงสิทธิ์ของตนเอง เพื่อให้นายใหญ่ได้รับรู้ว่า ฝนตกไม่ทั่วฟ้า เพื่อที่จะได้บีบคั้น หรือกระทุ้งทะลวงท่อน้ำเลี้ยงที่จะอุดตันให้ไหลสู่มวลชนได้อย่างสะดวก ตามที่แกนนำออกมาพยายามปฏิเสธว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่มีท่อน้ำเลี้ยง และการสนับสนุนจากพ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะอย่างน้อยทุกครั้งที่มีวีดีโอลิงก์มายังผู้ชุมนุม พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามที่จะหลีกเลี่ยงพูดถึงงบประมาณ ถ้าหากว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่สนับสนุนจริง ก็คงจะออกมาขอความสนับสนุนให้มวลชนช่วยกันลงขัน เป็นทุนในการเคลื่อนไหว การที่พ.ต.ท.ทักษิณไม่พูดถึง แสดงให้เห็นว่า ได้มีการจ่ายเงินอย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่ไม่สามารถพูดอย่างเปิดเผยผ่านวีดีโอลิงก์ได้
"การชุมนุมในครั้งนี้ จะเกิดมหกรรมการอมเงินของนายใหญ่อย่างมโหฬาร ในหมู่แกนนำคนเสื้อแดง และเสร็จจากการชุมนุมไปแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ประเทศไทยก็จะเกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายคน และคนระดับรากหญ้า ก็จะมีการกระจายรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยรัฐบาลทางอ้อมด้วย" นายเทพไท กล่าว
อย่างไรก็ตาม อยากให้แกนนำคนเสื้อแดง ระลึกถึงอนาคตของชาติ มากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง อยากให้ฟังกระแสสังคม ที่แสดงออกมาผ่านผลสำรวจของสำนักต่างๆ ว่า ไม่อยากเห็นการชุมนุมคนเสื้อแดงที่สูงถึง 47 เปอร์เซ็นต์ และขอให้สงสารคนกรุงเทพฯ ที่กำลังจะมีภาพฝันร้ายในช่วงสงกรานต์เลือดกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าภาพที่รถบรรทุกแก๊สที่เขตดินแดง ภาพการฆ่าประชาชนที่บริสุทธิ์ ที่ตลาดนางเลิ้ง ภาพการยิงมัสยิด ซ.กิ่งเพชร ถ.เพชรบุรี หวนกลับมาหลอกหลอนประชาชนคนกรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการที่แกนนำคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องคน กทม.ว่า ต้องหยุดกรุงเทพฯ สักระยะหนึ่ง เพื่อจะก้าวไปสู่ข้างหน้านั้น นายเทพไท กล่าวว่า ไม่อยากให้แกนนำเหล่านั้นแสดงความเห็นแก่ตัว เอาอนาคตประเทศชาติเป็นที่ระบายอารมณ์ทางการเมือง เพราะการหยุดกทม.ครั้งนี้ จะไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่จะเป็นการถอยหลังลงคลองมากกว่า พาประเทศชาติเสียหาย และเสียโอกาส ไม่สามารถที่จะเรียกกลับคืนมาได้
"ผมขอเรียกร้องคนกรุงเทพฯได้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อกระแสหลักมากกว่าสื่อเทียม หรือสื่อใต้ดินของบุคคลบางกลุ่ม ที่พยายามปล่อยข่าวลวงรายวัน ทำให้ประชาชนสับสนไขว้เขว และเกลียดชังรัฐบาล ซึ่งในขณะนี้กลุ่มคนเหล่านี้พยายามเปิดสงครามข่าวสารผ่านสื่อของตนเองตลอด 24 ชั่วโมง พยายามสร้างเรื่องใส่ร้ายรัฐบาลให้ประชาชนเข้าใจผิด เช่น แบล็กลิสต์จำนวน 212 คน เพื่อสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่พระสงฆ์ ปล่อยข่าวเรื่องโรยตะปูเรือใบ ขัดขวางการเดินทางของคนเสื้อแดงที่จะเข้าสู่กทม. ล้วนแล้วแต่เป็นข่าวเท็จ ที่มีเป้าหมายให้คนเสื้อแดงเกลียดชังฝ่ายรัฐบาลมากยิ่งขึ้น" นายเทพไทกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น