xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส” เตือนฝ่ายมั่นคงกระสุนเกลี้ยงแผง เชื่อเสื้อแดงสติแตก เกิดจลาจล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา
เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ หวั่นฝ่ายความมั่นคงไล่ไม่ทันเกมเสื้อแดง เชื่อเหตุจลาจลจะตามมา เตือนเป้าใหญ่ไม่เฉพาะ กทม.แต่เหมารวมหัวเมืองใหญ่ สะกิดเตือนกระสุนปืนเกลี้ยงแผงแล้ว เชื่อแกนนำคุมม็อบไม่อยู่ หวั่นเหตุเผชิญหน้าระหว่างประชาชน จี้ยุบพรรคเพื่อไทย ฐานล้มล้าง ปชต.เรียกร้อง ส.ว.ร่วมกันสร้างบรรทัดฐาน พิจารณาถอดชายจืด 9 มี.ค.


วันนี้ (7 มี.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองนับจากนี้ ว่า เป็นห่วงว่าภาครัฐจะรักษาสถานการณ์ไม่อยู่ เรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงตามไม่ทัน มีหลายประเด็น เช่น การเคลื่อนไหวของ นปช.ขณะนี้เชื่อว่า จะไม่ใช้วิธีสันติวิธีอย่างแน่นอน เพราะเนื้อหาในการชุมนุมครั้งนี้ มีการปลุกระดมต่อเนื่อง ยั่วยุ ชี้นำสร้างความเกลียดชังให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของ นปช.เหตุการณ์หลายๆ อย่างได้ปฏิเสธแนวทางการเคลื่อนไหวสันติวิธี ซึ่งแตกต่างจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ

“อาวุธบางส่วนที่หายไปจากคลังแสงค่ายทหารที่ จ.พัทลุง มีนัยสำคัญกับการปฏิบัติการรุนแรงในครั้งนี้ ที่หลายฝ่ายคิดไปว่า เมืองหลวงจะตกเป็นเป้า แต่พรรคการเมืองใหม่ เห็นว่า เป้าของการก่อความไม่สงบไม่ใช่เมืองหลวงเท่านั้น แต่จะเป็นมหานครหรือเมืองใหญ่ในภูมิภาค จังหวัดใหญ่ๆ แหล่งท่องเที่ยว พื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่จะตกเป็นเป้า และที่น่ากังวลกว่านั้นประกอบกับทราบจากทางการข่าวว่า ลูกปืน กระสุนปืนชนิดต่างๆ ขาดตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ไปนับเดือนแล้ว และทราบจากเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันเช่นกัน อาจะเป็นไปได้ว่ากลุ่มที่คิดจะก่อการบางกลุ่มได้มีการกว้านซื้อไว้ครอบครองเป็นจำนวนมาก จึงเป็นน่าเป็นห่วง”

ดังนั้น จึงไม่อยากให้รัฐบาลชะล่าใจ ขอให้เร่งมีการตรวจสอบ ว่า เป็นการเตรียมการบางอย่างหรือไม่ ประกอบกับการหายไปของอาวุธในคลังแสง จ.พัทลุง

นายสุริยะใส กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ หากแกนนำ นปช.ไม่ระมัดระวัง โอกาสเผชิญหน้าในหมู่ประชาชนด้วยกันมีสูง เพราะวิธีการกดดันไม่เฉพาะรัฐเท่านั้น ยังมีการคุกคามไปยังประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำ ด้วยเช่น การปิดถนนสี่มุมเมือง ที่ต้องการให้การจราจรในกรุงเทพฯเป็นอัมพาต ให้ง่ายกับการก่อจลาจลนองเลือด รวมทั้งการปิดสถานที่สำคัญๆ เช่น สถานที่ราชการทุกแห่ง บ้านสี่เสาเทเวศร์ สตช. บช.น.สื่อมวลชน รวมไปถึงพรรคการเมืองใหม่ ด้วย ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ให้มาดูแล

ทั้งนี้ ยุทธการ นปช.รอบนี้ แกนนำต้องไตร่ตรองให้มาก เพราะหากไตร่ตรองไม่มาก จะกลายไปสร้างแรงกดดันให้กับประชาชนด้วยกัน โดยเฉพาะคน กทม.ไม่พอใจจนเกิดความโกรธแค้น นำไปสู่การจัดตั้งให้ประชาชนมาเผชิญหน้ากัน ตรงนี้เป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ข้อเรียกร้องของ นปช.อาจจะฟันธงได้ว่า ไม่ใช่คิดจะไล่รัฐบาลอย่างเดียว แต่นำไปสู่การต่อต้านคำพิพากษาของศาล ข้อเรียกร้องอย่างนี้ จึงต้องได้มาด้วยวิธีพิเศษเท่านั้น การชุมนุมธรรมดาคงไม่ใช่ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ฝ่ายความมั่นคงและสื่อมวลชน วิเคราะห์ว่า การจลาจลหรือการวินาศกรรมเป็นสิ่งที่ นปช.ต้องพึ่งพิง ไม่ต่างกันที่ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาถูกปิดล้อม 4 ด้าน และจะนำไปสู่การกระตุกใช้อำนาจพิเศษบางอย่าง เพื่อตัดไฟต้นล้มคือ รัฐประหาร ซึ่งเป็นที่ต้องการของ นปช.

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า กรณีที่บุคคลใดหรือพรรคใด มีพฤติกรรมเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามมาตรา 68 วรรคสอง ต้องมีความผิดถึงขั้นยุบพรรค ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยปล่อยให้กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคขึ้นเวทีทำสงครามประชาชน เกณฑ์กันมาต่อต้านคำพิพากษา จำเข้าข่ายล้ามล้างหรือไม่ ดังนั้น สำนักงานอัยการสูงสุด ควรจะเข้ามาตรวจสอบ ตามมาตรา 68 วรรคสอง

ทั้งนี้ เห็นด้วยว่า นายกฯควรหยุดเดินทางไปต่างประเทศ และนายกฯต้องเข้ามาบัญชาการทุกหน่วยด้วยตัวเองเพื่อเป็นเอกภาพ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเมษาเลือด ขณะที่คนไทยทั้งประเทศอย่าวิตกกังวล ขอให้ตั้งสติ เพราะขณะนี้คน กทม.ต้องการที่จะออกจากพื้นที่ในช่วงนั้นไปพักร้อนต่างจังหวัด ดังนั้น จึงเรียกร้องอย่าออกไป แต่ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เฝ้าบ้านนี้เมืองนี้และอย่าปล่อยให้ใครทำลายทรัพย์ของทางราชการ

“สุดท้ายขอเตือนไปถึง นปช.เพราะหากเราอ่านคัมภีร์เดียวกัน ผ่านประสบการณ์มา ขอเตือนว่า วิธีการที่ นปช.ทำทั้งหมด กำลังพาคนไปตาย เพราะความรับผิดชอบสูงสุดของผู้นำมวลชน คือชีวิตประชาชนต้องปลอดภัย”

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า กรณีการยื่นถอดถอน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในกรณีการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุมพันธมิตรฯเมื่อ 7 ตุลาคม 51 พรรคการเมืองใหม่ ขอแสดงความขอบคุณและชื่นชม วุฒิสภาส่วนใหญ่ ที่รับบรรจุพิจารณาเรื่องนี้ใน เวลา 10.00 น.วันที่ 9 มี.ค.เพราะวุฒิสภาบางส่วน เห็นว่า เมื่อนายสมชายพ้นวุฒิสภาพไปแล้ว ความผิดก็ควรจะหมดไปด้วย แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะสิทธิในการเล่นการเมืองยังติดตัวอยู่ แต่ในอนาคตหากมีนักการเมืองมีความผิด ก็จะสร้างบรรทัดฐานเพื่อลาออกเพื่อหนีความผิด

ขณะที่ผ่านมาการให้ปากคำของ นายสมชาย บิดเบือน ให้หลักฐานเท็จ กล่าวหาร้ายคนเจ็บคนตายกล่าวร้ายการชุมอย่างสันติของพันธมิตรฯ ดังนั้น อังคารที่ 9 มี.ค.จึงเรียกร้องให้ ส.ว.ทุกท่านว่าถึงเวลาหรือยังที่เราจะสร้างบรรทัดฐานการใช้ความรุนแรง และลงโทษไม่ให้นักการเมืองที่ไม่รับผิดชอบ

ขณะเดียวกัน เวลา 09.00 น.วันที่ 8 มี.ค.นี้ ญาติคนเจ็บและคนตายจะเดินทางไปประกอบพิธีกรรมหน้ารัฐสภา และร่วมแจกแถลงการณ์สนับสนุนให้ ส.ว.ถอดถอนสมชาย เพื่อเป็นบรรทัดฐานไม่ให้นักการเมืองใช้อำนาจในการใช้ความรุนแรงในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น