นายกฯ ให้สัมภาษณ์ทีวีดาวเทียมรวมช่อง “ลูกแม้ว” ไม่ห่วงม็อบ 14 มี.ค.หากไม่ก่อเหตุรุนแรง ระบุคดียึดทรัพย์เปิดโปง “ทักษิณ” กับสื่อทั่วโลกหมดแล้ว เผยแนวคิดปฏิรูปตำรวจให้ ปชช.มีส่วนร่วม งง ก.ต.ช.ในมือ “เทพเทือก” ไม่เคลียร์ปมตั้ง ผบ.ตร.พร้อมชี้โทรทัศน์ดาวเทียมทางเลือกใหม่ของการบริโภคสื่อ หวังให้ความจริง ไม่ป้อนความเท็จกระตุ้นเหตุรุนแรง
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 6 มี.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปบันทึกเทปรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ซึ่งผู้สัมภาษณ์เป็นผู้ดำเนินรายการจากสถานีข่าวผ่านดาวเทียมหลายแห่ง อาทิ นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที จากสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี นายกวีพันธ์ มนตรีวงศ์ จากเนชั่นทีวี นางสาวสุภัตรา จากทีเอ็นเอ็น 24 และนางสาวตวงพร อัศววิไล จากวอยซ์ทีวี ของ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงสถานการณ์ของบ้านเมือง ว่า ไม่น่าเป็นห่วง หากการชุมนุมไม่สร้างความรุนแรงและทำในสิ่งผิดกฎหมาย เพราะความรุนแรงไม่ใช่คำตอบของสังคมประชาธิปไตยที่โลกประชาธิปไตยเขายอมรับ ซึ่งวันนี้สื่อทั่วโลกเขาก็เห็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้กระทำลงไป หลังศาลได้พิพากษายึดทรัพย์ จากการทุจริตฉ้อฉลในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง
ส่วนเรื่องของการจาบจ้วงสถาบัน นายกฯ กล่าวว่า ในโลกของข่าวสาร เสรีภาพคงมีแต่ต้องดูความเหมาะสมในสังคมไทยด้วย ต้องไม่ดูหมิ่นจาบจ้วงอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคงยอมกันไม่ได้ เพราะถือว่ากระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ส่วนกำหนดการที่จะไปประเทศออสเตรเลียวันที่ 14 ม๊.ค.นี้ นายกฯ ยังยืนยันเหมือนเดิม เพราะเป็นกำหนดการที่มีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศไว้ล่วงหน้านานแล้ว
นายยุทธิยง ได้ถามนายกรัฐมนตรี ว่า การปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมคาดหวังให้นายกฯ ปฏิรูปเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมตอบสนองต่อความต้องการของสังคม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นภารกิจหนึ่งที่รัฐบาลอยากทำซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า อยากให้มีการกระจายอำนาจ โดยให้ประชาชน ชุมชนเข้ามาร่วมตรวจสอบให้งานของตำรวจ จัดระบบรูปแบบการบริหารให้ตอบสนองต่อความต้องการของสังคมให้มีการกระจายอำนาจ
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ นายกฯ บอกว่าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ดูแลอยู่แก้ปัญหาไม่ได้สักที
ส่วนปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ นายกฯ กล่าวว่า ในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา ก็ได้ให้มีการตั้งคณะทำงานเฝ้าระวัง ปัญหาภัยแล้งเป็นการเฉพาะขึ้นที่ทำเนียบเพื่อเฝ้าระวังการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพราะปีนี้ดูท่าภัยแล้งเป็นปัญหาหนัก แม่น้ำโขงก็แห้งมาก กลับจากออสเตรเลียคงต้องลงพื้นที่ตามต่างจังหวัดไปดูปัญหาของประชาชนในเรื่องนี้
ก่อนจบรายการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ว่า ในวงการบริโภคข่าวสารบ้านเมืองของเรามีเสรีภาพมากขึ้น สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเกิดขึ้นมาเป็นทางเลือกให้กับสังคมซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นในการบริโภคข่าวสาร แต่หวังว่าสถานีโทรทัศน์ควรเอาความจริงที่ไม่ใช่ความเท็จป้อนให้กับประชาชน และก็หวังว่า สิ่งเหล่านี้สังคมไทยจะได้เรียนรู้ พัฒนาเติบโตไปอย่างสร้างสรรค์ ให้สังคมไทยเคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช่ให้ความเท็จ ให้คนไปทำร้ายกันซึ่งไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตย