xs
xsm
sm
md
lg

ร้อนแทนนาย!! พท.ดาหน้าถล่ม “กรณ์” ไร้มารยาท “แก๊งทนายแม้ว” แสดงเจตจำนง ถอด 2 เปาตามสั่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
“สุรพงษ์” จวก “กรณ์” หนุนยึดทรัพย์ทักษิณหมด 76,000 ล้าน จี้นายกฯ เรียกตักเตือน อ้างเป็นรัฐมนตรีคลังไม่ควรพูด แถมตื่นตูมกลัวเกิดปฏิวัติ “ประชา” สับไร้มารยาท จ่อใช้อำนาจประธานกรรมาธิการยุติธรรมล้างแค้นแทนนาย สอบ ครม.ซุกหุ้น - “แก๊งทนายนักโทษ” ทำตามสั่ง ยื่นแสดงเจตจำนงวุฒิสภาถอด 2 องค์คณะพิพากษานายใหญ่โกงชาติ อ้างไม่เป็นกลาง เจอ “ประสพสุข” สวน ควรยอมรับคำพิพากษา


วันนี้ (4 มี.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ตำหนิพฤติกรรมของ นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่แสดงความคิดเห็นควรยึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งหมด 76,000 ล้านบาท ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะโดยตำแหน่งแล้วไม่ควรแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำวินิจฉัยเสร็จสิ้นแล้ว อีกทั้งพฤติกรรมดังกล่าวอาจนำไปสู่ความรุนแรงและการปฏิวัติ พร้อมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีตักเตือนนายกรณ์ เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย

ทั้งนี้ ในวันพุธที่ 10 มีนาคมนี้จะเชิญอธิบดีกรมสรรพากรเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการเรียกเก็บภาษีจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร 12,000 ล้านบาท ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เนื่องจากศาลระบุชัดเจนว่าหุ้นชินคอร์ปอยู่ในความครอบครองของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการยุติธรรม ระบุว่าพฤติกรรมของนายกรณ์ถือว่าไร้มารยาทและไม่สมควรที่จะโพสต์ข้อความให้ยึดทรัพย์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จะติดตามการถือครองและโอนหุ้นของคนในรัฐบาลมาเปิดเผยว่าใครมีพฤติกรรมทุจริตหรือไม่

ขณะที่ นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยและเครือข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือเพื่อถอดถอน 2 ผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกจากตำแหน่ง ต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา

โดยนายพิชา กล่าวว่า สืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่26 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งยึดทรัพย์จำนวน 46,373 ล้านบาท ซึ่งมีผู้พิพากษาในองค์คณะจำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายกำพล ภู่แสวง นายพงษ์เทพ ศิริพงศ์กานนท์ มีพฤติการณ์ของการปฏิบัติหน้าที่ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการเบิกความพยานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาคือพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทั้ง 2 คนมีลักษณะการตัดบทโดยไม่ยอมให้พยานได้เบิกความอธิบายโดยอ้างเพียงว่าศาลได้วินิจฉัยแล้วไม่ต้องอธิบาย

นายพิชา กล่าวอีกว่า พฤติกรรมของทั้ง 2 คน เป็นสิ่งที่ผิดวิสัยของหลักการถามพยานทั่วไป กำหนดให้ตอบแค่ใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น ซึ่งในระบบไต่สวนของศาลควรแสวงหาข้อเท็จจริงและรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน แต่กลับรับฟังและให้ตอบคำถามเฉพาะสิ่งที่ทั้ง2 คนนี้ต้องการเท่านั้น จากที่กล่าวมาตนในฐานะนักกฎหมายเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงได้ยื่นเรื่องเพื่อขอถอดถอนบุคคลทั้ง 2 ออกจากตำแหน่ง โดยตนจะเตรียมล่าชื่อประชาชนจำนวน 2 หมื่นรายช่อขึ้นไป ก่อนจะนำมามอบให้วุฒิสภาพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่นายประสพสุข กล่าวภายหลังการยื่นเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการยื่นเพื่อแสดงเจตจำนงค์เพื่อจะขอยื่นถอดถอนเท่านั้น ยังไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด เพราะไม่ใช่การแสดงตนแต่เป็นแค่แสดงเจตจำนงค์เท่านั้น จะมีผลทางกฎหมายก็ต่อเมื่อมีการยื่นรายชื่อแสดงตนขอถอดถอน ทั้งนี้เขาอาจจะมาหรือไม่มาแสดงตนก็ได้เพราะเขายังไม่ได้นัดวันที่แน่นอนว่า จะมายื่นแสดงตนเมื่อใด อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าศาลได้มีการวินิจฉัยแล้วควรยอมรับ
กำลังโหลดความคิดเห็น