ที่ประชุม กกต.มีมติขยายเวลาอนุสอบฯ คดีสำคัญหลายเรื่องไปอีก 30 วัน อาทิ ส.ว.จอมแฉยื่นสอบ ปธ.วุฒิฯ กรณีจงใจยื้อไม่ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยสิ้นสมาชิกภาพ 16 ส.ว.ถือครองหุ้นต้องห้าม
วันนี้ (28 ก.พ.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ในการประชุมกกต.สัปดาห์ที่ผ่านมากกต.ได้มีมติขยายเวลาการสอบสวนให้กับคณะอนุกรรมกาไต่สวนในหลายกรณี ประกอบด้วย ขยายเวลาการไต่สวนครั้งที่ 3 กรณีพล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (ส.ป.ท.) และพวกขอให้กกต.ตรวจสอบพรรคการเมืองและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เชิญผู้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเข้าหารือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บ้านพิษณุโลก อันอาจเป็นเหตุเข้าข่ายให้ยุบ 6 พรรคร่วมรัฐบาลได้ ออกไปอีก 30 วัน นับจากวันที่ 10 ก.พ.ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 14 มี.ค. รวมทั้งขยายการไต่สวนกรณีของพล.ร.อ.บรรณวิทย์ ร้องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนำผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิมาเกี่ยวข้องการการบริหารพรรคออกไปอีก 30 วันนับแต่วันที่ 25 ก.พ. ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 24 มี.ค
นอกจากนี้ยังได้มีมติขยายเวลาเป็นครั้งที่ 2 กรณีนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์และเครือข่าย ขอให้ตรวจสอบและวินิจฉัยการเป็นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ออกไปอีก 30 วัน นับแต่วันที่ 27 ก.พ.โดยจะครบกำหนด 28 มี.ค. และขยายเวลาการไต่สวนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบนายประสพ สุขบุญเดช ประธานวุฒิสภา ดึงเรื่องการสิ้นสมาชิกภาพ 16 ส.ว.เนื่องจากถือครองหุ้นต้องห้าม ไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ออกไปอีก 30 วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 6 เม.ย. อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กกต.มีมติเสนอศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณาวินิจฉัย ให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข สิ้นสุดรองเนื่องจากถือครองหุ้นต้องห้าม ขณะนี้คำร้องดังกล่าวกกต.ได้ส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ในส่วนของ นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ที่ กกต.มีมติตามที่ ป.ป.ช.เสนอมา ว่านพ.พฤฒิชัย จงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จจนเป็นเหตุให้ต้องเสนอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างการปรับปรุงร่างคำร้องและกกต.ลงนาม