“อริสมันต์-สุพร” นำทีมคนเสื้อแดงบุกป่วน กกต.จี้ถามคดีเงินบริจาคพรรค ปชป. เชื่อหลักฐานชัดกว่ายุบ พปช. ด้าน “ไอ้ตู่” ปั้นน้ำสร้างเอกสารลับ 37 หน้า ป้ายสี “มาร์ค” ฆาตกรฆ่า ปชช. เชื่อสรรพากรไม่กล้าสรุปคดีเอสเอ็มเอสเอาผิด
วันนี้ (15 ก.พ.) นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุพร อัตถาวงศ์ และนายประแสง มงคลศิริ เป็นตัวแทนคนเสื้อแดง นำ พล.ต.ต.มณเทียร ประทีปะวณิช อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ยืนหนังสือถึงประธาน กกต.ให้เร่งดำเนินการพิจารณากรณีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจาก กกต.ได้ใช้เวลานานและน่าจะสรุปคดีได้แล้ว พร้อมกันนี้ยังขอให้ตรวจสอบกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจ้างพยานเพื่อให้การเท็จในคดียุบพรรคไทยรักไทย โดยการยื่นหนังสือครั้งนี้ได้นำ รายชื่อประชาชน พร้อมด้วยหลักฐานเป็นซีดีคำให้การของนายชวการ โตสวัสดิ์ นายสุขสันต์ ชัยเทศ พยานคดียุบพรรคไทยรักไทย ประกอบกับวาระการประชุมของคณะกรรมาธิการยุติธรรม สภาผู้แทนฯ และคำร้องให้ยุบพรรคไทยรักไทยของนายสุเทพมามอบให้นายอิสระ เสียงเพราะดี ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการ กกต.ที่เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือจาก กกต
ต่อมา นายจตุพรปราศรัยว่า กรณีที่รถขบวนของนายกรัฐมนตรีถูกเบียด 2 ครั้ง เป็นการสร้างสถานการณ์ รวมถึงกรณีการยิงเอ็ม 79 และวางระเบิดซีโฟร์ที่ศาลฎีกาด้วย ส่วนเอกสารลับ 37 หน้าที่ตนจะมีการเปิดในวันนี้ (16) เป็นการประชุมวางแผนฆ่าประชาชนอย่างเป็นระบบ โดยแบ่งแผนปฏิบัติการออกเป็น 2 ช่วงคือช่วงระหว่างวันที่ 12-16 ก.พ. และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ใช้กำลังทหารกว่าหมื่นนาย เอกสารชิ้นนี้จะเป็นใบเสร็จ ว่านายกรัฐมนตรีเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชน
นอกจากนี้ นายจตุพรยังขอให้คนเสื้อแดงจับตาต่อการที่กรมสรรพากรซึ่งอยู่ในการดูแลของนายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง จะมีความเห็นในวันนี้ (16) เกี่ยวกับกรณีที่ป.ป.ช.มีหนังสือสอบถามไปว่าการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่งเอสเอ็มเอส 17 ล้านข้อความผ่าน 3 บริษัทเอกชนคิดเป็นเงิน 51 ล้านบาทเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งว่าจะกล้าสรุปให้เรื่องนี้เข้าข่ายเป็นความผิดหรือไม่ ซึ่งถ้าสรุปว่าเป็นการกระทำในฐานะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ต้องรับผิด แต่ถ้าสรุปว่าเป็นการกระทำส่วนตัวเพราะขณะนั้นยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ นายอภิสิทธิ์ก็ต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา 103 ที่กำหนดห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับประโยชน์ที่มีมูค่าเกินกว่า 3 พันบาท ซึ่งก็จะมีโทษทั้งจำและปรับ แต่ก็เชื่อว่าจะมีการช่วยกันให้พ้นผิด
นายจตุพรยังปราศรัยถึงประธาน กกต.กับการพิจารณาคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ การอ้างอ่านเอกสารไม่เสร็จ เป็นการสะท้อนถึงการเป็นบุคคลสติฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ พยานเอกสารครบ 7,000 หน้า ซึ่งเป็นการจ่ายเงินให้คนในพรรคประชาธิปัตย์จ่ายเป็นเช็คครั้งละไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของ ปปง. โดยมีบริษัท แมซไซอะ เป็นตัวผ่านเงิน โดยนายประจวบ สังข์ขาว ได้ประโยชน์จากการเบิกเงินไปให้พรรคประชาธิปัตย์คราวละ 500 ถึง 2 พันบาทเท่านั้น แต่ที่ กกต.กลับบอกว่าหลักฐานไม่พอเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง มีเพียงกำนัน 1 ใน 10 คน มาให้การกลับบอกว่ามีหลักฐานควรเชื่อได้ว่ามีความผิด กกต.ชุดนี้เลือกปฏิบัติ
“นายอภิชาตเล่นแร่แปรธาตุ ซื้อเวลา เรื่องนี้ให้อภัย กกต.ชุดนี้ไม่ได้ ก็ให้บอกตรงๆ ว่าเขาไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ให้พรรคนี้อยู่คู่ประเทศ ทั้งที่เรื่องนี้หลักฐานมีมากพอจนเหลือไปพับเป็นดอกไม้จันในงานศพนายอภิชาตยังได้เลย ส่วนการปั้นพยานเท็จเพื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็ไม่มีใครรับผิดชอบ และเมื่อมีหลักฐานใหม่ก็ไม่มีการรื้อคดี” นายจตุพรกล่าว และว่าองค์กรอิสระเป็นองค์กรเถื่อน พฤติกรรมเป็นองค์กรทาส