xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” เล็งถอนประกันแดง ซัด “จิ๋ว” หาเรื่อง เย้ยม็อบปิดถนนระวังไม่คุ้มค่าจ้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง
“สุเทพ” นัดถก คตม.บ่าย 3 ปัดมีนัยพิเศษ แค่ถามตำรวจทำไมฟัน “เคทอง” ไม่ได้ ยอมรับประชุมบ่อยเพราะแดงเริ่มรุกหนัก ปัดจ่อออกกฎหมายพิเศษคุม แต่เล็งถอนประกันแกนนำหากทำผิดซ้ำ ย้ำรัฐไม่ขึ้นบัญชีดำแก๊งแม้ว จวกเลอะเทอะ ซัด “จิ๋ว” โยงพระติดแบล็กลิสต์พูดหาเรื่อง เชื่อฝีมือบริวารโยนบาปรัฐ พร้อมคุ้มครองพวกถูกแก๊งถ่อยหมายหัว ยันไม่ย้อนยุคขวาพิฆาตซ้าย เตือนขนรถปิดถนนชุมนุมเจอยกแน่ เล็งลากจอดดอนเมือง เย้ยระวังไม่คุ้มค่าจ้าง ค่าน้ำมันรถ ปัดสั่งปิดปั๊มช่วงก่อม็อบ ไม่รู้นายกเลื่อนเยือนแดนจิงโจ้

คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เปิดเผยว่าวันนี้ เวลา 15.00 น.จะมีการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน และทบทวนถึงมาตรการทั้งหลายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรที่ ต้องแก้ไขบ้าง ซึ่งที่นัดประชุมวันนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีเหตุอะไร เพียงแต่ต้องการมาทบทวนว่าสิ่งที่มอบหมายให้ไปดำเนินการนั้นมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เช่นในส่วนของนครบาลบางก็ดำเนินการมาดีแล้ว แต่บางอย่างตนก็อยากขยายผลโดยเฉพาะการประสานกับผู้ขับชี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งตนเห็นดีด้วย รวมถึงอาจจะมีการประสานกับประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ที่จะขอให้มาช่วยกัน และ จะได้มีการซักถามถึงอุปสรรคในการที่จะดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มีการกระทำหรือพฤติกรรมที่จะเป็นอันตราย อย่างเช่น นายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือเคทอง ที่เป็นคนสนิทของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือคนที่พูดปลุกระดมตามสถานีวิทยุเพื่อให้ลุกขึ้นมาก่อเหตุนั้น อย่างนี้เข้าข่ายของการผิดกฎหมายอาญา ตนก็อยากทราบว่ามีอุปสรรคหรือปัญหาตรงไหนในการดำเนินคดีถึงทำไม่ได้ ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปอย่างไรก็ตามสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำคือ เราดำเนินการแก้ไขปัญหาบนพื้นฐานของกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“ในการมาทำงานด้านความมั่นคง ผมตั้งเป้าว่าจะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้ได้ โดยอาศัยกฎหมายเป็นเครื่องมือ ไม่มีคนในพรรคหรือใครที่จะมาสั่งให้ผมดำเนินการอะไรได้” รองนายกฯ กล่าว

นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ในการประชุม คตม.จะยังไม่มีการหารือเพื่อออกกฎหมายพิเศษเพื่อมาดำเนินการกับกลุ่มเสื้อแดงแต่อย่างใด จะใช้กฎหมายธรรมดา ซึ่งการประชุมคตม.บ่อยขึ้นนั้น ยอมรับว่าส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่เริ่มเข้มข้นขึ้น ทำให้ต้องหาทางรับมือไว้ก่อน เพราะมีการปลุกระดมมวลชนให้มาชุมนุมกันในวันที่ 13-14 มี.ค. จึงมีความจำเป็นที่พวกเราต้องพิจารณาสถานการณ์ให้รอบด้านเพื่อดูว่าหากมีคนมาชุมนุมกันมากๆ มาตรการที่เราเตรียมการไว้ไม่ให้เกิดความรุนแรงนั้นยังมีช่องโหว่ตรงไหนบ้างที่จะต้องปรับปรุง เมื่อถามว่าจะมีการหารือถึงการถอนประกันแกนนำบางคนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนทำตามกฎหมาย ถ้าบังเอิญคนที่เป็นแกนนำมีคดีความและประกันตัวไป แต่ขณะนี้ยังทำอะไรที่ผิดกฎหมายอยู่ ตนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศของเคทองที่จะก่อเหตุต่างๆ จะมีน้ำหนักแค่ไหนที่จะเป็นจริง นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่ได้ประเมินว่าจะมีน้ำหนักแค่ไหน แต่การกระทำดังกล่าวนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยเฉพาะนายเคทองนี้เป็นคนที่เจ้าหน้าที่เคยไปตรวจค้นอาวุธที่บ้านและเจอกระสุนปืนซึ่งก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็ได้มามอบตัวและประกันตัวออกไป แต่หากประกันตัวออกไปแล้วยังไปทำความผิด ไปก่อเหตุจนเกิดความวุ่นวายอีก ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะไปตามตัวมาและถอนประกันไป ซึ่งก็เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย

ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงขึ้นแบล็กลิสต์บุคคลในรัฐบาล เช่นเดียวกับที่รัฐบาลขึ้นแบล็กลิสต์เสื้อแดงเช่นกันนั้น สำหรับรัฐบาลยืนยันว่า ไม่เคยไปขึ้นแบล็กลิสต์ใครในกลุ่มเสื้อแดง แต่ข่าวที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นกระบวนการของฝ่ายบริวารของคุณทักษิณ ที่สร้างเรื่องขึ้นแล้วโยนความผิดให้รัฐบาล ส่วนที่เขาขึ้นแบล็กลิสต์คนในรัฐบาลด้วยนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ใครก็ตามหากเห็นว่า ตัวเองถูกคุกคามก็ให้บอกมา ตนจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลคุ้มครองให้

“ผมไม่มีกำลังมากมายที่จะไปตามกลุ่มคนเสื้อแดงตามบัญชีแบล็กลิสต์ 200-300 คนเหมือนที่เขาอ้างมาได้ เป็นเรื่องเลอะเทอะ โดยเฉพาะที่มีผู้ใหญ่บางคนในกลุ่มนั้นออกมาพูดถึงขนาดว่าในบัญชีดำนั้นมีพระสงฆ์องค์เจ้าอยู่ด้วย แบบนี้หาเรื่องผมแล้ว มันเกินความจำเป็นผมจะไปตามคุณพระคุณเจ้าทำไม และคงต้องไปดูว่าที่ขึ้นเว็บไซต์นั้นเป็นเว็บของใคร แต่เว็บของรัฐบาลไม่มีแน่นอน แต่ที่มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่คอยติดตามและดูแลบุคคลสำคัญนั้นก็เป็นการ ป้องกันดักหน้าไว้ก่อน เราต้องตามให้ทันว่าคนพวกนี้เขาคิดจะทำอะไรที่เป็นเรื่องร้ายแรงหรืออันตรายต่อบ้านเมือง” นายสุเทพกล่าว

ต่อข้อถามว่า บรรยากาศการเมืองขณะนี้จะกลับไปสู่ยุคขวาพิฆาตซ้ายอีกหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ใช่ขวาที่จะไปพิฆาตใคร ยืนยันว่าขณะนี้เราไม่ได้เป็นศัตรูกับใครและไม่เคยมีความคิดที่จะไปสู้รบตบมือกับใคร ที่ทำก็เพื่อป้องกันบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 14 มี.ค.จะรับมืออย่างไร เพราะแกนนำ นปช.บอกว่าจะคนนำรถมาจอดบนถนนแล้วเดินเข้ามาชุมนุม เพื่อให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดไปทั่วกรุงเทพ นายสุเทพกล่าวว่า ตนก็จะใช้กฎหมายจราจรเป็นเครื่องมือ

“ถ้ามาจอดรถเกะกะมาจอดในที่ที่ไม่อนุญาตให้จอด ผมก็จะให้รถยก ลากยกไปเก็บที่อื่นแต่ก็ขอเรียนเจ้าของรถทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือปิกอัพว่า ผมไม่รู้ว่าพวกเขาให้ค่าน้ำมันมาเท่าไหร่ จ้างวานมาเท่าไหร่ แต่ถ้าเอารถมาจอดใน กทม.และมาจอดเกะกะ เวลาผมให้เขาลากรถไป มันอาจจะมีบุบสลายหรือเสียหายบ้าง แล้วท่านจะมาเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากผมไม่ได้ และบริษัทประกันภัยก็ยังไม่รู้ว่าจะจ่ายหรือไม่ มันจะลำบาก ท่านไม่รักรถตัวเองหรือไร ก็ต้องคิดให้ดี ถ้านำรถมาก็ต้องเตรียมค่าซ่อมรถไว้ด้วย ซึ่งถ้ามีกันเป็นหมื่นเป็นแสนคัน ผมก็จะเตรียมรถยกเป็นเป็นหมื่น เป็นแสนคันเช่นกัน เตรียมไว้จนพอ ส่วนสถานที่ที่จะยกรถไปเก็บนั้น ก็จะสั่งนครบาลให้ดูสถานที่แล้วและจะมีการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถทราบว่า รถยกไปเก็บไว้ที่ไหน ซึ่งได้ดูที่สนามบินดอนเมืองไว้แล้ว น่าจะจอดรถได้จำนวนมาก แต่ที่จริงหากเจ้าของรถจะให้ความร่วมมือก็จอดรถไว้ที่สนามบินดอนเมืองเลยและนั่งรถไฟมาก็จะดีกว่าเยอะ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ และเจ้าหน้าที่ก็จะได้ไม่ต้องลากรถไปอีก ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ขู่ แค่บอกให้ทราบว่าจะนำรถมาจอดเกะกะไม่ได้ โปรดเข้าใจด้วย” รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามถึงการขอความร่วมมือตามปั๊มน้ำมันบริเวณที่กลุ่มเสื้อแดงจะเดินทางเข้า กทม. ให้ปิดปั๊ม เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีน้ำมันเติมรถที่นำมา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี หยุดไม่ได้ ปล่อยให้เขาขายไป ยกเว้นมามากจนน้ำมันหมดปั๊มก็เป็นธรรมดา อะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายตนไม่ทำ ต่อข้อถามที่จนถึงขณะนี้มั่นใจหรือไม่ว่าวันที่ 14 มี.ค.รัฐบาลจะเอาอยู่ ไม่เหมือนกับเหตุที่เกิดในเดือนเมษายนอีก รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องให้อยู่ รัฐบาลต้องเอาบ้านเมืองให้อยู่ให้ได้ ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มเสื้อแดงพยายามจะขยายผลให้เกิดความรุนแรงเหมือนเดือนเมษายนในช่วงจะครบรอบ 1 ปีเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ และทำให้รัฐบาลสั่นคลอน นายสุเทพกล่าวว่า ตนคิดว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็ควรจะมีสติว่าประวัติศาสตร์ก็ควรจะเป็น ประวัติศาสตร์ดีๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว มันอยู่ในความทรงจำของประชาชนทั้งประเทศว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้กระทำการที่ ไม่เหมาะสม ไม่บังควรมากมาย เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรทำอย่างนั้นอีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการจะเดินทางไปออสเตรเลีย วันที่ 14-16 มี.ค. ได้มีการแนะนำนายกฯหรือไม่ว่าควรระงับการเดินทางไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า นายกฯ ก็คงต้องปฏิบัติภารกิจตามปกติต่อไป บ้านเมืองเราต้องเดินหน้าต่อไป จะหยุดไม่ได้ ส่วนที่มีข่าวว่านายกฯเลื่อนการเดินทางแล้วนั้น ตนไม่ทราบ


กำลังโหลดความคิดเห็น