xs
xsm
sm
md
lg

40 ส.ว.บุก ป.ป.ช.เร่ง 4 คดี “นช.แม้ว” โกงชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รสนา โตสิตระกูล
กลุ่ม 40 ส.ว.ยื่นหนังสือจี้ ป.ป.ช.เร่ง 4 คดีต่อเนื่องจากคำพิพากษายึดทรัพย์ “นช.แม้ว” ยันไม่ได้กลั่นแกล้งทางการเมือง เผยกมธ.สภา จ่อสาวเอาผิดเพิ่ม "รมต.-ขรก." มีส่วนร่วม ขณะที่ “อภินันทน์” ย้ำ ป.ป.ช.มีอำนาจตามกฎหมายรับไม้ต่อจาก คตส.


คลิกที่นี่ เพื่อฟังกลุ่ม 40 ส.ว. ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (4 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหาร เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เร่งดำเนินการขยายผลตรวจสอบคดีเพิ่มเติม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 4.6 หมื่นล้านบาท 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ 2.การแก้ไขสัญญาอัตราจัดเก็บภาษีบัตรเติมเงินมือถือแก่บริษัท เอไอเอส โดยมิชอบ 3.การแก้ไขสัญญาเชื่อมต่อสัญญาณหรือโรมมิ่งให้เอไอเอส และ 4.การอนุมัติโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์โดยมิชอบ โดยมีนายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการ ป.ป.ช.เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าว

น.ส.รสนา กล่าวว่า การยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ให้เร่งดำเนินการต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ของกลุ่ม 40 ส.ว.ไม่ควรมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท

นายสมชายกล่าวว่า ขอให้ ป.ป.ช.เร่งดำเนินการเอาผิดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามรัฐธรรมนูญฯ 2550 มาตรา 263 มาตรา 275 ประกอบด้วยพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 66 และพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2550 โดยเร็ว และให้ตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นคณะกรรมการไต่สวน ส่วนการดำเนินการของ ส.ว.เกี่ยวกับคดี พ.ต.ท.ทักษิณ เช่น คดีการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต คดีเอ็กซิมแบงก์ ภายหลังจากศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาออกมานั้น คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค และคณะกรรมาธิการตรวจศึกษา ตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล จะขยายผลตรวจสอบต่อไปเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งรัฐมนตรี ผู้บริหารหน่วยงาน ที่มีส่วนให้รัฐได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 60 วัน

ด้าน นายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเท็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2544-49 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีพฤติกรรมเข้าข่ายการยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช.9 ครั้ง ซึ่งข้อเท็จจริงในเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าได้ข้อยุติแล้ว หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาออกมา ระหว่างนี้ ป.ป.ช.จะรอคำพิพากษาศาลฎีกาฯอย่างเป็นทางการ เพื่อนำมาเทียบเคียงกับข้อมูลการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ ป.ป.ช.กำลังไต่สวนอยู่ว่ามีข้อมูลตรงกันหรือไม่ หากพบว่ามีมูลความผิดก็จะแจ้งข้อหาให้ พ.ต.ท.ทักษิณทราบ เพื่อให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป

นายอภินันทน์กล่าวอีกว่า นอกจาก ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้เกี่ยวข้องใน 4 คดี ตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯแล้ว ยังมีอีกหลายคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบอยู่ เช่น คดีการทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ คดีทุจริตในการประมูลสร้างเหมาบริการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คดีการแปรรูป กฟผ.โดยมิชอบ

นายอภินันทน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาฯ โดยระบุว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจในการรับคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาทำงานต่อจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นั้น ยืนยันว่า ป.ป.ช.มีอำนาจในการรับช่วงทำงานต่อจาก คตส. เนื่องจากได้มีการประกาศ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 30 มีสาระสำคัญ คือ การขยายเวลาการทำงานให้แก่ คตส. ในคดีที่ยังค้างการพิจารณาไปจนถึงวันที่ 30 ธ.ค.50 และหากการตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ ให้ส่งมอบสำนวนที่ยังค้างอยู่ให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป ดังนั้น ป.ป.ช.จึงมีอำนาจในการตรวจสอบแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น