“เรืองไกร” ใช้ช่องกรรมาธิการการคลัง วุฒิสภา เล็งเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชี้แจง พร้อมขอเอกสารคำวินิจฉัยคดียึดทรัพย์ “ทักษิณ” ติดตามทรัพย์สินของแผ่นดินที่ขาดหายไป คาดเหลือเวลาจัดการใน 1 ปี หวังใช้เหตุผล 5 ข้อหลักพิจารณาร่วม พร้อมตรวจสอบคนในรัฐบาลทักษิณ ใครเกี่ยวบ้าง โยนดูดำเนินคดีอาญา
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา กล่าวถึงการดำเนินการนำทรัพย์สินของแผ่นดินคืน ตามคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า ความจริงการดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมาก่อนที่จะตัดสินยึดทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นกรณีกล้ายาง หวยบนดิน ซีทีเอ็กซ์ ที่ดินรัชดาฯ เพียงแต่ว่าคดีร่ำรวยผิดปกติมาขมวดรวมครั้งเดียว และต้องย้อนกลับไปดูโดยเฉพาะที่ศาลบอกว่า เป็นการเอื้อประโยชน์มาตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง จะมีผลกระทบตามมาอย่างไร ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ จะเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง และขอเอกสารจากศาลว่า มีคำวินิจฉัยรวมอย่างไร เพื่อนำมาติดตามรายได้ค่าใช้จ่ายและทรัพย์สินของแผ่นดินที่ขาดหายไป เท่าที่หารือกับเจ้าหน้าที่ทราบว่าเหลือเวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งจะต้องเร่งติดตาม โดยเราคงจะขยายผลจาก 5 ข้อที่ศาลตัดสินเป็นหลัก ซึ่งอาจจะมีมากกว่านั้นถ้ามีข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น ส่วนต่างรายได้ของระบบ โพสต์เพด พรีเพด ส่วนแนวคำพิพากษาจะไปกระทบรัฐมนตรีคนอื่นที่ร่วมรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในช่วงนั้น ใครลงมติอย่างไร ใครเบิกเบี้ยประชุมอย่างไร ก็จะติดตามตรวจสอบด้วย
ขณะที่การวินิจฉัยของศาลจะมีผลทางคดีอาญาด้วยหรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า น่าจะมีส่วน แต่เป็นหน่วยงานทางด้านการดำเนินคดีเช่น ป.ป.ช. แต่ในส่วนของตนเองเป็นประธานอนุกรรมาธิการรายได้ ค่าใช้จ่ายและทรัพย์ของรัฐ ก็จะดูในส่วนนี้ ส่วนจะสามารถเรียกทรัพย์สินคืนได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเอกสารข้อมูล แต่ตอนนี้ต้องขอดูงบประมาณองค์การโทรศัพท์ และ กสท ว่าที่ตรวจสอบและบันทึกรายงานต่อสภากันมา รายได้ที่ขาดหายไปจะทำอย่างไร