xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” แพ้ยกแรก ศาลฎีกาฯ มีอำนาจพิจารณาคดียึดทรัพย์เป็นมติเอกฉันท์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

บรรยากาศบริเวณโดยรอบศาลฎีกา เจ้าหน้าที่เข้มงวดการเข้าออก
องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ขึ้นนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ “แม้ว” แล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยทั้งในศาลและนอกศาลอย่างเข้มงวด



วันนี้ (26 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสศาลฎีกา ในฐานะเจ้าของสำนวนคดียึดทรัพย์ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา, นายพิทักษ์ คงจันทร์ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา, นายพงศ์เทพ ศิริพงศ์ติกานนท์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา, นายอดิศักดิ์ ทิมมาศย์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา, ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล รองประธานศาลฎีกา, นายประทีป เฉลิมภัทรกุล ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา, นายกำพล ภู่สุดแสวง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และนายไพโรจน์ วายุภาพ รองประธานศาลฎีกา ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์เริ่มอ่านคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 76,000 ล้านบาทแล้ว

ส่วนบรรยากาศรอบบริเวณศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะนี้โดยรอบศาลมีการวางกำลังตำรวจปราบจลาจล 3 กองร้อย ซึ่งเป็นกำลังจาก บก.น.1 บก.น.5 และบก.น.6 นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ บก.น.1 จำนวน 70 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาในส่วนคำฟ้องของพรนักงานอัยการก่อน จนถึงเวลา 14.47 น. จากนั้นจึงได้เริ่มอ่านคำคัดค้านของผู้ถูกร้องต่อทันที

"แม้ว"แพ้ยกแรก ศาลมีอำนาจพิจารณาคดียึดทรัพย์
ต่อมา ศาลอ่านคำคัดค้านและการไต่สวนจนกระทั่งเวลา 16.00 น. จึงอ่านคำวินิจฉัยในประเด็นแรก คือ ศาลมีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ ตามที่ผู้คัดค้านคัดค้านหรือไม่ โดยวินิจฉัยว่า การตรวจสอบของคตส. เป็นไปตามกฏหมาย และเป็นไปตามอำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ตามมาตรา 9 (1) และ (4) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นมติเอกฉันท์ สามารถพิจารณาคดีนี้ได้

สำหรับ มาตรา 9 (1)ระบุว่า (1) หรือบุคคลอื่นเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดทางอาญาตาม (1) (3) คดีซึ่งประธานวุฒิสภาส่งคำร้องให้ศาลพิจารณาพิพากษาข้อกล่าวหาว่ากรรมการ ป.ป.ช. ร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการ และ (4)ระบุว่า คดีที่ร้องขอให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิก สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมืองอื่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภา ท้องถิ่นตามที่กฎหมายบัญญัติตกเป็นของแผ่นดิน

วินิจฉัยคตส.มีอำนาจตรวจสอบโดยชอบ -มติเอกฉันท์
ประเด็นวินิจฉัยต่อมา คตส.มีอำนาจถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ ศาลวินิจฉัยว่า เป็นการดำเนินการภายใต้ขอบอำนาจตามประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ส่วนที่คตส.แต่งตั้งอนุคตส.นั้น เห็นว่า คตส.ใช้อำนาจตามประกาศคปค. สามารถแต่งตั้งได้ และไม่ล่วงเลยระยะเวลาตามที่ผู้คัดค้าน ทำการคัดค้าน เพราะมีกรอบเวลาชัดเจน หากไม่เสร็จสิ้นต้องให้ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ ทั้งหมดเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฏหมาย

รวมทั้งประเด็นที่คตส.บางคน เช่นนายกล้านรงค์ จันทึก นายบรรเจิด สิงห์คะเนติ และนายแก้วสรร อติโพธิ เป็นปฏิปักษ์ของผู้ถูกร้อง แต่งตั้งเป็นประธานอนุคตส.นั้น ชอบแล้วด้วยกฏหมาย และป.ป.ช. จึงมีอำนาจดำเนินการแทนคตส.ได้ก็ชอบแล้วด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ คดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา แต่เป็นคดีแพ่ง จึงไม่จำเป็นต้องให้ผู้ถูกกล่าวหามา

มีมติเอกฉันท์ ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องคดีนี้


บรรยากาศบริเวณโดยรอบศาลฎีกา เจ้าหน้าที่เข้มงวดการเข้าออก












กำลังโหลดความคิดเห็น