xs
xsm
sm
md
lg

"ยะใส" อ่านเกม "นช.ทักษิณ" พ่นวาทกรรม ลวงเสื้อแดง เผาบ้านเผาเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ยะใส" เตือน "แม้ว" เผาบ้านเผาเมือง อาจไม่มีโอกาสขอโทษลูก-เมียรอบสอง เชื่อ เหตุป่วนเมืองหลายจุด ส่งสัญญาณไม่ยอมรับคำตัดสิน เผย "ทักษิณ" พ่นวาทกรรม ปลุกใจเสื้อแดง ด้าน "ทูตสุรพงษ์" ติง รัฐ ใช้อำนาจในมือน้อยเกินไป เตือน ระวังอำนาจเปลี่ยนขั้ว ชี้ "ต่างชาติ" เข้าใจศาลไทย แต่ยังจับตารัฐใช้กฏหมายทำสิ่งถูกต้องหรือไม่ ขณะที่ "รองโฆษก ปชป." แฉ ขบวนการบิดเบือน อุ้ม "นช.ทักษิณ" กลับบ้าน จ่ายค่าตอบแทนหัวละ 150,000 ชี้ บ้านเมืองเป็นเช่นไร อยู่ที่จิตสำนึก "แม้ว" มีมากน้อยแค่ไหน


 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว" 

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. วันพุธที่ 3 มีนาคม มี น.ส.รัตน์ติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้มีการเชิญ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ และนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณี ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปลุกระดมกลุ่มคนเสื้อแดง ให้ต่อต้านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ ซึ่งมีการนำประเด็นไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกกลั่นแกล้งมาเป็นข้ออ้างยุแหย่

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยปัจจุบันว่า สิ่งที่เป็นอยู่ไม่ได้ต่างจากที่ผ่านมามากนัก เพราะตลอดเวลายังคงมีการข่มขู่อย่างต่อเนื่อง และมีความพยายามทำให้กฏหมายไม่เป็นกฏหมาย ซึ่งจุดนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าสถานการณ์จะรุนแรงหรือไม่ โดยทางด้านฝ่ายรัฐบาลได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีการใช้ความรุนแรงเด็ดขาด

นายสุริยะใส กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า วันนี้แนวทางการต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่แนวทางสันติวิธี โดยมันปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังคำพิพากษาตัดสินแล้วเกิดเหตุระเบิดทันที ถือเป็นสิ่งที่แสดงได้ชัดว่า เป็นปฏิกิริยาของการไม่ยอมรับคำตัดสิน ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของแกนนำคนเสื้อแดงที่ส่งสัญญาณในช่วงที่ผ่านมา นับเป็นการส่งบัตรเชิญให้เกิดการรัฐประหาร โดยใช้ประเด็นความรุนแรงเป็นเครื่องปะทุความขัดแย้ง แต่ถ้าหากให้วิเคราะห์กันจริงๆ ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รู้ศักยภาพของกลุ่มคนเสื้อแดงดีว่ามีมากหรือน้อยขนาดไหน ซึ่งถ้าให้ประเมิน ตนคิดว่าคนกลุ่มนี้ ไม่สามารถทำให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางของตนเองได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่สำเร็จได้ยาก

นายสรวุฒิ กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตอนนี้มีหลายกระแสข่าว ไม่ว่าจะเป็นการกว้านซื้ออาวุธ หรือกระสุนปืน ซึ่งทางพรรคก็เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเท่าที่ทราบข่าวมามีการบิดเบือนข้อมูลถึงขนาดบอกว่า หากช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านได้ จะจ่ายเงินคนละ 150,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้น่าเป็นห่วง เพราะคนจำนวนหนึ่งกำลังตกเป็นเหยื่อและเป็นเครื่องมือการล่อลวง

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงมาตรการโต้ตอบของรัฐบาล ว่า ตนไม่แน่ใจว่ารัฐบาลเข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ดีหรือไม่ แต่เรื่องนี้หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ในเมื่อฝ่ายรัฐมีอำนาจอยู่ในมือ ดังนั้น ทำไมไม่ใช้ความชอบธรรมบังคับใช้กฏหมาย และเลือกทำตามแนวทางที่ถูกต้อง เนื่องจากอีกฝ่าย เป็นกลุ่มที่มีแต่ความรุนแรง แต่ไม่มีความชอบธรรมและอำนาจอยู่มือ ซึ่งหากรัฐบาลไม่ใช้กฏหมาย และจัดการทุกอย่าง นั่นก็ถือว่าเป็นการยอมรับความรุนแรง รวมทั้งจะนำไปสู่อำนาจเปลี่ยนมือได้ ถ้ารัฐบาลยังประมาทเช่นนี้

"รัฐบาลบอกว่าไม่ต้องการที่จะใช้ความรุนแรง ซึ่งการตอบโต้เช่นนี้ถือว่าถูกต้องแล้ว แต่ต้องอย่าลืมว่า ตัวเองก็มีความรุนแรง เพราะมีอำนาจอยู่มือ ถ้าหากอีกฝ่ายยังละเมิดอยู่เรื่อยๆ รัฐบาลก็จำเป็นต้องใช้อำนาจที่มีอยู่ เพราะฉะนั้น รัฐบาลระวัง หากไม่ใช้อำนาจชอบธรรมของตัวเอง อำนาจก็จะถูกเปลี่ยนมือในที่สุด โดยสิ่งที่เป็นศัตรูร้ายแรงที่สุดของรัฐบาล ก็คือ การถูกหยามหรือเยาะเย้ย ซึ่งวิธีการแบบนี้มันเป็นการสบประมาท และถือว่าเข้าสู่สถานการณ์ที่อันตรายมาก" นายสุรพงษ์ กล่าว

 นายสุรพงษ์ กล่าวถึงกระแสปลุกระดมในปัจจุบันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำให้มวลชนคนเสื้อแดงเห็นว่า รัฐบาลไม่มีน้ำยา และแม้รัฐมีอำนาจอยู่ในมือ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ซึ่งประเด็นนี้ การที่ตนเรียกร้องให้รัฐใช้อำนาจในมือ มันไม่ได้หมายความว่า ต้องใช้ความรุนแรงเข้าห่ำหั่น หรือนำปากกระบอกปืนหันไปทางฝ่ายใด แต่ตนอยากให้รัฐเข้าไประงับความรุนแรงที่ต้นสายปลายเหตุ คือ หากยังมีการปลุกระดมหรือก่อความวุ่นวาย รัฐก็ควรจะถอนประกันแกนนำคนเสื้อแดง หรือสกัดกั้นการปลุกระดมด้วยวิธีต่างๆ

นายสรวุฒิ กล่าวถึงระบอบทักษิณ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วงที่อยู่ในอำนาจ ต้องยอมรับว่าได้สร้างระบอบเกาะกินอยู่ทุกองค์กร ทำให้มีมือมีไม้คอยให้ความช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งตนเคยได้ยินข้อมูลว่า บางองค์กรถึงขั้นเชื่อ 95% ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีโอกาสกลับมาครองอำนาจ

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงมุมมองต่างประเทศ ที่เห็นถึงคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ในต่างประเทศ มีความเข้าใจกระบวนการยุติธรรมของไทยดี และรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แท้จริงแล้วเป็นคนมีนิสัยอย่างไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ต่างประเทศจับตามองรัฐบาลไทยอยู่ว่า ทำไมใช้กฏหมายในมือไม่เต็มที่ ซึ่งประเด็นนี้ตนย้ำไปแล้วว่า หากรัฐยังประมาท อาจนำไปสู่อำนาจเปลี่ยนมือได้

นายสุริยะใส กล่าวถึงขบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริง ว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา เกิดความรุนแรงเชิงวาทะกรรม ที่ทำลายรากเหง้ากระบวนการยุติธรรม และบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พยายามสร้างวาทะกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบัญญัติการต่อสู้อำมาตย์หรือคำว่าสองมาตรฐาน เพื่อปลุกระดมกลุ่มคนเสื้อแดง และเสี้ยมสอนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง โดยถ้าหากรัฐบาลหรือว่ากองทัพ นิ่งเฉยและปฏิเสธว่า ทุกวันนี้ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น มันทำให้ขัดแย้งกับความจริงที่เห็น เพราะแม้แต่การโจมตีสถาบันองคมนตรี ก็เท่ากับว่าเป็นความรุนแรงได้แล้ว

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์หลังศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ ว่า รัฐบาลยังอ่อนในด้านให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำตัดสินคดียึดทรัพย์ ทั้งที่ประเด็นนี้จะมีผลต่ออนาคตของการเมืองไทย โดยถ้าหากรัฐไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ ก็เท่ากับว่าทำงานล้มเหลว และไม่สามารถป้องปรามการเกิดเหตุร้ายได้ ซึ่งถ้าหากวันที่ 14 มี.ค.นี้ ที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการเผาบ้านเผาเมือง และทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างอำนาจรัฐกับความรุนแรง นั่นเท่ากับว่า ถ้ารัฐบาลไม่ชนะในเกมนี้ ก็เท่ากับแพ้ทันที ส่วนฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ หากไม่แพ้ ก็ถือว่าชนะแล้ว

นายสุริยะใส กล่าวถึงประเด็น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ระบุว่าเหตุการณ์ที่เป็นอยู่มีการเขียนบทไว้ล่วงหน้าให้เป็นเช่นนั้น ว่า สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต ออกมาแสดงความคิดเห็น มันเป็นการทำลายภาพลักษณ์ และสิ่งที่หลายคนเชื่อว่า บางที พล.อ.ชวลิต อาจจะไม่เข้าร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จริงก็ได้ แต่เวลานี้มันพิสูจน์ชัดแล้วว่า พล.อ.ชวลิต เลือกยืนข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆ ดังนั้น กรณีนี้กาลเวลาพิสูจน์ม้า ระยะทางพิสูจน์คน โดยตนรู้สึกว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ สู้แบบไม่มีอะไรจะเสีย เพราะธงของ พ.ต.ท.ทักษิณ มันใหญ่กว่าเรื่องเงิน 7.6 หมื่นล้านและคดียึดทรัพย์ ดังนั้น หนทางที่จะนำไปสู่ชัยชนะ ก็หนีไม่พ้นการหาช่องทางลับ ด้วยการก่อความรุนแรง ซึ่งเหตุที่ต้องออกแบบการต่อสู้เช่นนี้ เนื่องจากเป้าหมายมันสูงเกินความจริง โดยการตั้งเป้าหมายไว้สูงขนาดนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่โง่ ก็คงต้องมีวิธีดีกว่าการชุมนุมคนเสื้อแดงธรรมดา

นายสรวุฒิ กล่าวฝากถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนคิดว่าสถานการณ์บ้านเมือง สิ่งเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างอยู่รอดได้ มันอยู่ที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหยุด และอยู่ที่จิตสำนึกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะมีหรือไม่ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้

นายสุริยะใส กล่าวปิดท้ายว่า ภาพที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาขอโทษลูกและภรรยา ตนขอเตือนว่า หากยังคงเดินหน้าแล้วใช้กลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือ ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีโอกาสพูดขอโทษครอบครัวอีกหรือไม่ เพราะมันชัดเจนแล้วว่าเวลานี้มีการปลุกระดมพาคนไปตาย เพื่อให้ช่วยคนๆเดียวให้พ้นผิด
น.ส.รัตน์ติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์
นายสุริยะใส กตะศิลา
 นายสุรพงษ์ ชัยนาม
นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์
กำลังโหลดความคิดเห็น